xs
xsm
sm
md
lg

แพทย์ยกเคสเด็ก 7 ขวบ ฟันผุเรื้อรังจนหนองขึ้นสมอง แนะผู้ปกครองดูแลสุขภาพช่องปากลูกหลาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ฟันผุเรื้อรังจนหนองขึ้นสมอง

จากปัญหาแค่ฟันผุ มันไปถึงเกือบเอาชีวิตไม่รอดได้อย่างไร

ผมขอยกกรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ และเตือนใจคุณผู้ปกครองทุกท่าน ในการดูแลสุขภาพในช่องปาก ให้กับบุตรหลานของท่านดีๆนะครับ

เคสนี้เป็นเด็กผู้ชายอายุ 7 ปี มาโรงพยาบาลด้วยอาการปวดฟันไข้สูง เพียง 2 วัน จากนั้นมีอาการปวดหัว ซึมลง จนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แล้วส่งต่อไปยัง ICU เด็กของเรา

ผลการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง เป็นตามภาพที่เห็นไหมครับ มีการคั่งของหนอง ในช่องเยื่อหุ้มสมองชั้น ซับดูรา (subdural empyema - ซับ ดู รัล เอ็ม พาย อี ม่า) ตรงลูกศรสีแดงที่ชี้หลายจุด

ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาใน ICU และผ่าตัดระบายหนองออกจากสมอง ผลการเพาะเชื้อก็ตามคาดเลย ขึ้นเชื้อ Streptococcus anginosus group (SAG) ทั้งจากหนองที่พบในชั้นเยื่อหุ้มสมอง และในกระแสเลือด

คำถามคือเจ้าเชื้อตัวนี้พบได้ที่ไหนในร่างกายเราบ้างแล้วมันมาก่อปัญหาให้กับผู้ป่วยคนนี้ได้อย่างไร

หากเปิดตำราดูจะพบว่า เชื้อแบคทีเรีย Streptococcus anginosus group (SAG) เป็นเชื้อที่พบในช่องปากนี่แหละครับ

ซึ่งเมื่อเปิดช่องปากของผู้ป่วยรายนี้ ก็เป็นไปตามคาด ในรูปที่แสดง นั่นคือเราพบฟันผุ และเหงือกที่อักเสบมีหนอง อยู่หลายตำแหน่ง และมีการบวมของต่อมน้ำเหลืองใต้คาง เป็นจำนวนมาก

ฟันผุและเหงือกอักเสบ อย่างเรื้อรังต่อเนื่อง และมีการสะสมของเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว เป็นเหตุให้มีการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด และทำให้เกิดการสะสมของหนอง ที่เยื่อหุ้มสมอง ที่ได้กล่าวข้างต้น

หากเราทบทวน การศึกษาก่อนหน้านี้ ก็จะพบว่าเจ้าเชื้อนี้ล่ะครับ เป็นเชื้อที่พบได้ ในคนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพช่องปากและฟัน ไม่ว่าจะเป็นฟันผุหรือเหงือกอักเสบเรื้อรัง

จริงๆแล้วในคนปกติก็พบเชื้อนี้นะครับ แต่หากไม่มีการอักเสบ หรือช่องทางให้เชื้อเหล่านี้เล็ดลอดเข้ามาสู่กระแสเลือดในปริมาณมากๆได้ ก็มักไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาแต่อย่างใด

ผมจึงอยากฝากกรณีนี้ให้เป็นเครื่องเตือนใจของคุณผู้ปกครองให้หันมาสนใจสุขภาพในช่องปาก ของบุตรหลานของท่าน ตั้งแต่เรื่องของการแปรงฟันตั้งแต่เด็กเล็กๆ

ถึงเวลาต้องเลิกขวดนมก็คือเลิกโดยเด็ดขาด

ไปจนถึง การบริโภคอาหาร ที่เสี่ยงต่อการทำให้เกิดฟันผุ เช่นของหวานน้ำตาล ที่มากเกินไป

ส่วนตัวแนะนำว่า ควรพาบุตรหลานไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจเช็คฟันเป็นประจำ ไม่ต้องรอให้เกิดฟันผุ แล้วค่อยไปหาหมอฟัน ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวได้เป็นอย่างมาก

ฟังดูไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ จากฟันผุธรรมดาๆ กลายเป็นปัญหาที่อาจพาให้เสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นอย่าประมาทนะครับ