เปิดมหากาพย์อาณาจักรพรีมายา ที่ตำรวจไซเบอร์บุกบ้านหรูย่านซอยราชวินิตบางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ ตามยุทธการผึ้งแตกรังแต่หายจ้อยทั้งผัวทั้งเมีย เปิดงบการเงินพบปี 64 กำไรสุทธิ 8 ล้าน ย้อนแย้งกับที่อ้างว่ากำเงิน 6 พัน ลงทุน 3 เดือนได้เงิน 15 ล้าน ก่อนหน้านั้นชาวเน็ตจับโป๊ะถ่ายรูปข้างรถหรูในโชว์รูมแต่ไม่ได้ซื้อ แถมเคยถูกจับคดีผสมสารไซบูทรามีนในยาลดน้ำหนัก
วันนี้ (19 ม.ค.) จากกรณีที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (รอง ผบก.ปคม.), พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี รรท.ผกก.2 บก.สอท.2 นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 189/24 หมู่บ้านลัดดารมย์ บางนา ซอยโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านพักของ น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เมย์ พรีมายา อายุ 28 ปี เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 41/2566 ลงวันที่ 17 ม.ค. ในฐานความผิด โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตามหมายค้นศาลอาญาที่ 62/2566 ลงวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา
จากการตรวจค้นไม่พบเมย์ พรีมายา อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว มีเพียงแม่บ้านเป็นผู้ดูแลและพักอาศัย จากการสอบถามเบื้องต้นทางแม่บ้านให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมย์ พรีมายา ได้เดินทางออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) โดยไปกับนายสิทธานต์ สรรเสริญ หรือแซค แฟนหนุ่ม ซึ่งไม่ได้ระบุว่าจะเดินทางไปที่ใด เบื้องต้นได้ทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมตรวจยึดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไปทำการตรวจสอบด้วย นอกจากนี้ได้เข้าตรวจค้น 9999/9 หมู่ที่ 2 ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท พรีม่า มายา จำกัด ด้วยเช่นกัน สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้มาจากการที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่า น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เมย์ พรีมายา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อแบรนด์พรีมายา และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ใช้ข้อความอันเป็นเท็จ ลักษณะเชิญชวนอ้างว่าลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาท พร้อมโพสต์ภาพหญิงคนหนึ่งคู่กับรถหรูในโชว์รูม ในลักษณะเชิญชวน แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่เป็นไปตามข้อความที่ปรากฏ นอกจากนี้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนแบ่งงานกระจายกำลังเพื่อปิดล้อมอีก 9 จุดทั่วประเทศ เพื่อหาพยานหลักฐานและจับกุมผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งไปตามยุทธการผึ้งแตกรัง
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท พรีม่า มายา จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2560 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีนางสาวพิชญ์นรี ตันติวิทย์ และนายสิทธานต์ สรรเสริญ เป็นกรรมการบริษัท วัตถุประสงค์ธุรกิจที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ขายปลีกเครื่องสำอาง จากข้อมูลงบการเงินมีดังนี้
ฐานะการเงิน
ปี 2560 มีสินทรัพย์รวม 259,820.72 บาท หนี้สินรวม 9,210.00 บาท
ปี 2561 มีสินทรัพย์รวม 741,775.03 บาท หนี้สินรวม 40,481.27 บาท
ปี 2562 มีสินทรัพย์รวม 1,967,344.18 บาท หนี้สินรวม 43,850.04 บาท
ปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 35,199,307.53 บาท หนี้สินรวม 31,932,492.00 บาท
ปี 2564 มีสินทรัพย์รวม 56,248,883.32 บาท หนี้สินรวม 44,940,931.11 บาท
กำไร-ขาดทุน
ปี 2560 มีรายได้รวม 748,021.00 บาท รายจ่ายรวม 747,410.28 บาท กำไรสุทธิ 610.72 บาท
ปี 2561 มีรายได้รวม 1,920,822.47 บาท รายจ่ายรวม 1,443,018.91 บาท กำไรสุทธิ 450,683.04 บาท
ปี 2562 มีรายได้รวม 8,649,550.78 บาท รายจ่ายรวม 8,146,710.36 บาท กำไรสุทธิ 472,200.38 บาท
ปี 2563 มีรายได้รวม 21,962,998.24 บาท รายจ่ายรวม 20,435,561.31 บาท กำไรสุทธิ 1,343,321.39 บาท
ปี 2564 มีรายได้รวม 33,632,860.48 บาท รายจ่ายรวม 23,564,242.46 บาท กำไรสุทธิ 8,041,136.68 บาท
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ชื่อเสียงของเมย์ พรีมายา เริ่มต้นจากธุรกิจจำหน่ายอาหารเสริมลดน้ำหนัก ในลักษณะธุรกิจขายตรง ก่อนที่จะเปิดคลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ พรีมายา คลีนิก สาขาแรกที่สเตเดี้ยมวัน สาขาสองที่ทองหล่อ และสาขาสามเลียบทางด่วนเอกมัย รามอินทรา โดยพบว่าสาขาที่สามได้ร่วมหุ้นกับ น.ส.เขมณัฏฐ์ ชุลีเกียรติ หรือยาย่า และใบเตย สุธีวัน กุญชร ณ อยุธยา นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ให้บริการครบวงจรทั้ง ศัลยกรรมจมูก ศัลยกรรมตา ศัลยกรรมคาง และหัตถการปรับรูปหน้า และดูแลผิวพรรณ โดยให้ตัวแทนจำหน่ายของทางแบรนด์พรีมายา ที่มียอดการขายสะสมตามที่กำหนดไว้ สามารถทำศัลยกรรมได้ฟรี แบบไม่ตัดแต้มและไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยตัวแทนจำหน่ายรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า ประสบความสำเร็จจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยควบคุมน้ำหนัก จากเงินก้อนสุดท้ายอยู่ 6,000 บาท นำมาลงทุน ใช้เวลา 3 เดือน ได้กำไร 15 ล้านบาท พร้อมถ่ายภาพคู่รถซูเปอร์คาร์โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ปรากฏว่ามีชาวเน็ตสงสัยส่งข้อความไปหาโชว์รูมรถดังกล่าว ได้รับคำตอบว่า "ถ้าเป็นคันนี้รถยังไม่ได้ขายนะครับ" ทำเอาชาวเน็ตพากันจับโกหก อีกทั้งตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 33 ล้านบาท กำไรสุทธิเพียง 8 ล้านบาท
ทำให้เฟซบุ๊กเพจ Primaya ประกาศเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2565 ว่า "เนื่องจากกระแสข่าว และเรื่องราวที่ถูกแชร์ต่อกันอย่างรวดเร็ว มีถ้อยคำหรือเนื้อหาที่อาจทำให้ผู้อ่านหรือผู้รับข่าวสาร สื่อออนไลน์เกิดความเข้าใจผิด ว่า Primaya หรือตัวแทนฝ่ายขายและผู้เกี่ยวข้อง ในทำนองว่าประกอบธุรกิจที่หลอกลวงผู้บริโภค ซึ่งทำให้ Primaya หรือตัวแทนฝ่ายขายและผู้เกี่ยวข้องเสื่อมเสียชื่อเสียงและได้รับความเสียหายทางธุรกิจ อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย โดยขณะนี้ฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริงในเบื้องต้นแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการทางคดีและระงับยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น ฝ่ายกฎหมายของ Primaya จึงขอให้ท่านลบข้อความหรือโพสต์ดังกล่าวโดยทันที และขอขอบคุณในความร่วมมือมา ณ โอกาสนี้ด้วย"
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2565 มีนักเคลื่อนไหวรายหนึ่งออกมาร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ในขณะนั้น เพื่อกล่าวโทษดำเนินคดีอาญากับบริษัทพรีมายาและบุคคลอื่นๆ ซึ่งใช้ข้อความอันเป็นเท็จอ้างว่าลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาท ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และข้อหาฉ้อโกงประชาชน รวมถึงระบุว่า บริษัทดังกล่าวเคยถูกกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ดำเนินคดีในเรื่องการขายยาลดน้ำหนักที่มีการใส่สารต้องห้าม ซึ่งต่อมาทาง บก.ปคบ.ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท พรีมายา ผ่านทางเฟซบุ๊ก จากการตรวจสอบพบว่าผลิตภัณฑ์มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง และเมื่อใช้ชุดตรวจเบื้องต้นก็พบว่ามีสารต้องห้าม จึงได้ขอหมายค้นเข้าตรวจค้นบริษัทที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อตรวจยึดผลิตภัณฑ์ และส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2564 และได้รับแจ้งผลตรวจว่ามีส่วนผสมของสารไซบูทรามีน ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 1 เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2565
ต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลสมุทรปราการ ออกหมายจับกรรมการบริษัท 2 ราย คือ น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ (เมย์) หมายจับที่ 290/2565 ลงวันที่ 30 พ.ค. 2565 และนายสิทธานต์ สรรเสริญ (แซค) หมายจับที่ 291/2565 ลงวันที่ 30 พ.ค. 2565 ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่าย และมีไว้เพื่อจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 1 (ไซบูทรามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต” และขอหมายค้นบ้านของกรรมการบริษัท และบริษัทที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2565 และสามารถจับกุมกรรมการทั้ง 2 รายได้ที่บ้านพัก จากการสอบสวนทั้งสองให้การปฏิเสธในชั้นจับกุม โดยอ้างว่าเป็นการว่าจ้างโรงงานแห่งหนึ่งทำการผลิต นอกจากนี้ ยังได้เข้าตรวจค้นบริษัทครั้งที่ 2 ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ครั้งที่ 2 ไม่พบว่ามีส่วนผสมของสารไซบูทรามีนแต่อย่างใด กระทั่งวันที่ 1 มิ.ย. 2565 เจ้าหน้าที่จึงเข้าค้นโรงงานที่ทำการผลิต 2 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อตรวจยึดผลิตภัณฑ์ที่ทำการผลิตส่งกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ตรวจสอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ ซึ่งในปัจจุบันทางบริษัท พรีมายา ไม่ได้ทำการว่าจ้างบริษัทดังกล่าวให้ทำการผลิตแต่อย่างใด ส่วนเรื่องคดีความนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความเห็นทางคดี