เมื่อวันที่ 16 ม.ค. แกร็บ ประเทศไทย ออกแถลงการณ์จากกรณีที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นกับคนขับเพศหญิงซึ่งให้บริการเรียกรถยนต์ส่วนบุคคลผ่านแอปพลิเคชัน ระบุรายละเอียดว่า จากกรณีที่มีสื่อมวลชนได้นำเสนอรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นกับคนขับเพศหญิงรายหนึ่งซึ่งให้บริการเรียกรถยนต์ส่วนบุคคลผ่านแอปพลิเคชัน โดยระบุว่าเป็นพาร์เนอร์ “คนขับแกร็บ” หรือให้บริการ “แกร็บคาร์เลดี้” นั้น
แกร็บ ประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงว่า ภายหลังการตรวจสอบข้อมูล ทั้งชื่อและนามสกุล รวมถึงทะเบียนรถที่ปรากฏตามรายงานข่าว ไม่พบข้อมูลของผู้เคราะห์ร้ายในฐานข้อมูลพาร์ตเนอร์คนขับแกร็บ โดยบริษัทฯ ได้ประสานงานเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินคดีทันทีตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอยืนยันว่า ในฐานะผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งได้รับการรับรองแอปพลิเคชันสำหรับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จากกรมการขนส่งทางบก แกร็บให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ และกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ทั้งผู้ใช้บริการและพาร์ตเนอร์คนขับ เช่น
การใช้เทคโนโลยี Biometric identification ในการยืนยันตัวตนของทั้งพาร์ตเนอร์คนขับ และผู้ใช้บริการ โดยสำหรับพาร์ตเนอร์คนขับจะต้องทำการสแกนใบหน้าทุกครั้งก่อนเริ่มให้บริการ ขณะที่ผู้ใช้บริการจะต้องกรอกประวัติ และสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนก่อนสมัครใช้แอปพลิเคชัน
การพัฒนาฟีเจอร์ Safety Centre ที่เปิดให้ผู้ใช้บริการและพาร์ตเนอร์คนขับสามารถแชร์ข้อมูลการเดินทางให้กับเพื่อนหรือคนในครอบครัวได้แบบเรียลไทม์ รวมทั้งการมีปุ่มฉุกเฉินที่ให้ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันทีเมื่อประสบเหตุไม่คาดคิด
การคัดกรองพาร์ตเนอร์คนขับที่เข้มงวด โดยต้องผ่านการตรวจประวัติอาชญากรรมย้อนหลังอย่างน้อย 7 ปี รวมถึงการจัดอบรมเพื่อสร้างจิตสำนึกในด้านความปลอดภัยให้แก่พาร์ตเนอร์คนขับทุกคนก่อนให้บริการ
การนำระบบ Manual Intervention มาใช้เพื่อตรวจสอบระหว่างการเดินทาง หากรถยนต์ที่ให้บริการมีการจอดที่ยาวนานผิดปกติหรือมีการเดินทางออกนอกเส้นทาง ทางฝ่ายบริการลูกค้าจะส่งข้อความไปหาผู้ใช้บริการเพื่อตรวจสอบสถานะการเดินทางและความปลอดภัย รวมถึงการจัดให้มีระบบคอลเซ็นเตอร์ที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าให้ข้อมูลและคอยให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง