เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเผยนิวซีแลนด์ยังคงสนับสนุนผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้า หลังผ่านกฎหมายห้ามประชาชนที่เกิดหลังปี 2552 ซื้อบุหรี่มวนสูบ แต่ไม่รวมถึงผลิตภัณฑ์ไร้ควันเช่นบุหรี่ไฟฟ้า เชื่อช่วยปกป้องและให้ทางเลือกให้ผู้สูบบุหรี่ได้อย่างแท้จริง หวังพรรคการเมือง “ยืนข้าง” ประชาชน รับฟังเสียงคนสูบบุหรี่ และนำบุหรี่ไฟฟ้ามาควบคุมให้ถูกต้องตามกฎหมายป้องกันนักสูบหน้าใหม่
นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) และเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีนิวซีแลนด์อนุมัติกฎหมาย Generation Ban ว่า “มาตรการ Generation Ban หรือการห้ามประชาชนที่เกิดหลังเดือนมกราคม ปี 2552 ซื้อหรือบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบ มีผลต่อเฉพาะบุหรี่มวนที่มีการเผาไหม้เท่านั้น ไม่ได้รวมถึงผลิตภัณฑ์ไร้ควัน หรือ Smoke free products (SFPs) เพราะรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลนิวซีแลนด์ยังคงสนับสนุนให้คนสูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทน และยังคงต้องการให้บุหรี่ไฟฟ้ามีจำหน่ายในประเทศเพื่อช่วยในการเลิกบุหรี่”
“เป้าหมายของแนวคิดในภาพรวมของรัฐบาลนิวซีแลนด์ คือการทำให้บุหรี่มวนไม่น่าดึงดูดสำหรับผู้สูบบุหรี่ และชูความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ไร้ควัน เช่นบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้เพื่อทดแทนการสูบบุหรี่มากขึ้น และนำนิวซีแลนด์ไปสู่การเป็นประเทศปลอดควันบุหรี่ภายในปี 2025”
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลนิวซีแลนด์ยังได้เปิดเว็บไซต์ https://vapingfacts.health.nz/ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนและผู้สูบบุหรี่เพื่อส่งเสริมให้คนสูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าซึ่งจะช่วยลดอันตรายได้มากกว่า
“มาตรการของนิวซีแลนด์ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ และคำนึงถึงประชาชนหลายๆ กลุ่ม ในส่วนของกลุ่มที่ไม่เริ่มสูบบุหรี่ ก็ได้ทำการแบนการซื้อขายกับกลุ่มดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งกลุ่มผู้สูบบุหรี่ที่ยังเหลืออยู่ และได้มีนโยบายสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่หันไปใช้ผลิตภัณฑ์แบบที่ไม่มีการเผาไหม้แทนเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ”
ด้านนายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนจากเครือข่าย ECST ได้กล่าวเสริมว่า “หลายประเทศเริ่มตามรอยอังกฤษที่สนับสนุนการใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทนการสูบบุหรี่ เพราะมีหลักฐานชัดเจนมากขึ้นว่าจำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศลดลงได้จริง ล่าสุดผลสำรวจสํานักงานสถิติแห่งชาติของดอร์เซต ประเทศอังกฤษ ระบุว่าจำนวนผู้สูบบุหรี่ในปี 2564 ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยลดเหลือเหลือเพียง 9.4% เมื่อเทียบกับ 10.9% ในปีก่อนหน้า และ 12.9% เมื่อห้าปีก่อน ซึ่งเป็นเพราะบุหรี่ไฟฟ้าที่ช่วยให้ลดการสูบบุหรี่ได้”
“เราอยากเห็นกฎหมายและมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยที่ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ แทนการแบนที่ล้มเหลวอย่างปัจจุบันนี้โดยไม่สามารถปกป้องคุ้มครองเยาวชนของเราได้จริง มีเด็กและเยาวชนแอบลักลอบใช้ผ่านช่องทางดินโดยควบคุมไม่ได้ เราหวังว่าพรรคการเมืองต่างๆ จะรับฟังเสียงจากคนสูบบุหรี่ 9.9 ล้านคน และผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่วันนี้น่าจะเกิน 1 ล้านคนไปแล้วที่ต้องการทางเลือกที่จะช่วยลดการสูบบุหรี่ จะศึกษางานวิจัยและแนวทางควบคุมของต่างประเทศอย่างเป็นกลาง เพื่อวางนโยบายพรรคที่เหมาะสมในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์ต่อผู้สูบบุหรี่และสามารถปกป้องผู้ไม่สูบบุหรี่และเยาวชนได้อย่างจริงจังก่อนทุกอย่างจะสายเกินการควบคุม”
ที่มา Fewer smokers in Dorset as people turn to e-cigarettes | Dorset Echo
