xs
xsm
sm
md
lg

"ชูวิทย์" งัดภาพบ่อนพนันใน "จินหลิง" หลาน "ตู้ห่าว" ยืนคุม ก่อน บช.น.บุกไปเจอแต่ยาเสพติด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หลานนายตู้ห่าว (ในกรอบแดง)
"ชูวิทย์" เปิดภาพบ่อนพนันใน “จินหลิงผับ” พบหลานนายตู้ห่าวยืนคุมบ่อน ระยะเวลาห่างกัน 40 วัน ก่อน ผบช.น.บุกไปเจอแต่คนจีนมั่วสุมยาเสพติด แถมปล่อยหลานนายตู้ห่าวหนีไปในวันบุกจับ เผยเป็นภาพถูกลบออกจากกล้องวงจรปิด เยาะ ผบช.น.ขนาดผมยังมี ให้ผมทำงานแทนไหม?

วันที่ 29 ธ.ค. 65 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพภายใน “ผับจินหลิง” โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายน

ก่อนทำการย้ายโต๊ะออก

ที่ทีมคนเก่งอย่าง ผบช.น.บุกไปวันที่ 26 ตุลาคม ตอนไม่เหลือบ่อน แต่กลับได้ยาเสพติดแทน

หากเลือกได้ เอาบ่อนดีกว่า ง่ายกว่า

ในภาพให้เทียบกับคลิปวันที่ตำรวจบุกที่เคาน์เตอร์ พรม

และที่สำคัญคือ หลานนายตู้ห่าว (ในกรอบแดง)

เดินคุมดูแลอยู่ เวลาระบุ 11 โมง เพราะเปิดกัน 24 ชั่วโมง

หลานนายตู้ห่าว ชื่อ หยางเฉิน ที่ตำรวจ บช.น.ปล่อยหนีไป ในวันบุกจับ

เซิร์ฟเวอร์กล้องถูกถอดล้างออก แต่ผมยังมีอยู่ งานนี้ยาวๆ ครับ

ขนาดผมยังมี แล้วทีม ผบช.น.คนเก่ง อย่าบอกนะครับว่าไม่มี เสียชื่อตำรวจไทย

ให้ผมทำงานแทนไหม?

ว่างอยู่พอดี

ผบช.น.เอาเรื่องจริงมาคุยกันดีกว่า รู้ๆ กันอยู่ อย่าตีหน้าซื่อเลยครับ

รูปวันบุกจับ
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านายชูวิทย์ได้โพสต์ถึงกรณีที่ ผบช.น.อ้างว่ามีระเบียบ ป.ป.ส. ทำให้ตำรวจ บช.น.ไม่สามารถเข้าพื้นที่ “จินหลิง” ไปตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมได้ นัยว่า

 “ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว”

เป็นคำประกาศของท่านเลขาธิการ ป.ป.ส. วิชัย ไชยมงคล ต่อหน้าผู้สื่อข่าว ขณะแถลงข่าวร่วมกับผม

ท่านเลขาฯ เป็นผู้ใหญ่ ย่อมไม่อยากโทษหน่วยงานรัฐกันเอง

แต่คงทนไม่ไหว ที่ ผบช.น. “โบ้ยขี้” มาให้ว่า มีระเบียบ ป.ป.ส.ไม่ให้เข้าพื้นที่ “จินหลิง”

จึงทำให้ตำรวจ บช.น.ไม่สามารถเข้าไปตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมได้

อันเป็นการกล่าวอ้างของ ผบช.น.ที่แถลงข่าวเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม หรือเมื่อวานนี้

ท่านเลขาฯ ยืนยันว่าไม่มีระเบียบดังกล่าว ตำรวจต้องการเข้าเมื่อไหร่ ย่อมทำได้ ไม่มีระเบียบใดห้ามเอาไว้

สื่อถามว่า อย่างนี้ต้องมีคนหนึ่งคนใด โกหกประชาชน

ท่านเลขาฯ จึงตอบว่า “ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว”

เป็นคำกล่าวทิ้งท้ายสั้นๆ แต่มีความหมายยิ่ง

ความจริงคือ ที่เกิดเหตุ “จินหลิง” อยู่ในความควบคุมของตำรวจ บช.น.ที่เป็นเจ้าของพื้นที่

หากอยากจะตรวจอะไรเพิ่มเติมย่อมเข้าไปได้ตลอดเวลา

งานต้องเริ่มจากตำรวจ และส่งบัญชีรายการทรัพย์สินให้ ป.ป.ส.ตรวจสอบอายัด

แล้วตำรวจเพิ่งจะส่งรายการให้ ป.ป.ส.อายัดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมนี่เอง และมีรถแค่ 33 คันเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ตำรวจไม่เคยส่งรายการอะไรมาเลย

ส่วนเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ ป.ป.ส. และอัยการไปตรวจจินหลิง ท่านก็ไปกันเอง ตำรวจยังไม่ได้ทำเรื่องประสานอะไรมาสักคำ

แล้ว ผบช.น.มาโยนขี้ให้ ป.ป.ส.เอาดื้อๆ ท่านเลขาฯ บอกว่ามันไม่แฟร์ แถไปเรื่อย ถึงขนาดลงมายืนยันกับผู้สื่อข่าวด้วยตัวเองข้างๆ ผม

เรียกว่าท่านเป็นสุภาพบุรุษแท้ เพราะไม่ยอมให้ใครมา “ป้ายสี” เอาความผิดพลาดของตัวเองมาโกหก แล้วโยนให้ ป.ป.ส.เด็ดขาด

งานจึงเข้า ผบช.น.เต็มๆ

การที่ท่านพูดเอาดีเข้าตัว อ้างว่าติดเรื่องระเบียบ ทำให้เข้าพื้นที่เกิดเหตุไม่ได้ จึงกลายเป็นการ “โกหกคำโต”

ยิ่งเวลาแถลงข่าว ท่าน ผบช.น.ดันไปเอาคนนั่งซ้าย-ขวา เป็นรอง ผบช.น.ที่ไม่ได้รู้เรื่องคดี “จินหลิง” มานั่งด้วย

เพราะคนซ้ายเป็นรองฯ คุมม็อบ คนขวาเป็นรองฯ คุมจราจร ไม่ได้เกี่ยวกับคดี

ส่วนคนทำคดีตัวจริง “รองฯ สมควร พึ่งทรัพย์” ดันหลบหน้า

เพราะเดิมเป็นผู้ทำสำนวน “คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ” ยกฟ้องมาแล้ว

รถหรูก็เปิดไม่ได้ เพราะดันทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก

ท่านปล่อยเจ้าของรถไปเองในวันเกิดเหตุ แล้วมาตามหากุญแจรหัสเอาทีหลัง

สำนวนที่เพิ่งส่งให้อัยการก็กุมขมับ เมื่อวานผมเพิ่งไปให้การมาตั้งแต่บ่ายโมง ถึง 1 ทุ่ม ข้าวปลาไม่ได้กิน

แต่ที่เซ็งจัด คือ หลักฐานที่ผมยื่นให้ตำรวจถึง 2 ครั้ง 2 ครา ไม่ได้อยู่ในสำนวน อ้างว่าเพราะผมไม่ได้ไปให้การกับ ผบช.น.ไว้

ให้มันได้แบบนี้สิ พยานต้องวิ่งไปหาตำรวจ แทนที่ตำรวจจะตามหาพยานไปให้การ

ทุกอย่างกลับตาลปัตร เพราะ ผบ.ตร.มัวแต่ปกป้อง ผบช.น.

ตอนนี้รองฯ ผบ.ตร.หายหมด เหลือแค่ ผบ.ตร.กับ ผบช.น.เท่านั้น

ช่วยกันให้รอดถึงฝั่งนะครับ แต่กลัวว่าจะกอดคอกันจมน้ำรับปีใหม่มากกว่า

บอกแล้วไงว่า นายกฯ ต้องตัดสินใจ

ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว หรือจะเอาแค่ตัวเดียวดี

มีเวลาไม่มาก เพราะเลือกตั้งกำลังมา

ท่านนายกฯ ต้องรีบสะสางปัญหา ไม่งั้นคะแนนเสียงจะไม่เหลือ


กำลังโหลดความคิดเห็น