"แทนไท ณรงค์กูล" มือประมูลทะเบียนรถ 45 ล้าน ปฏิเสธเอี่ยวเว็บพนัน แต่ยอมรับเคยมีคดีเมื่อปี 63 อ้างชอบเล่นกาสิโนต่างประเทศแล้วมีปัญหากับมาเฟีย แจงที่มาความรวย อ้างทำการตลาดให้เอไอเอส และเล่นคริปโตฯ ส่วนที่คว้าทะเบียนรถแจงไม่ได้อวดรวย ใช้เงินหมุนเวียนบริษัทฯ หวังต่อยอดแผนธุรกิจปีหน้า
วันนี้ (16 ธ.ค.) จากกรณีที่กรมการขนส่งทางบก โดยกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) จัดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถ หมวดอักษร 9กก เพื่อนำรายได้เข้ากองทุนฯ นำไปใช้ในกิจกรรมเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน รวมทั้งสนับสนุนเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการที่ประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยไฮไลต์ของการประมูลอยู่ที่หมายเลขทะเบียนรถ 9กก 9999 ปรากฏว่า บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด โดยนายแทนไท ณรงค์กูล อายุ 26 ปี เป็นผู้ชนะประมูลหมายเลขทะเบียนรถ 9กก 9999 สร้างสถิติราคาสูงสุดที่ 45,090,000 บาท มากกว่าหมายเลขทะเบียนรถ 8กก 8888 ยอดประมูลอยู่ที่ 28,100,000 บาท และหมายเลขทะเบียนรถ 1กก 1111 ซึ่งมียอดประมูลอยู่ที่ 25,000,000 บาท กลายเป็นที่จับตามองและวิจารณ์จากสังคม หนึ่งในนั้นคือเพจ "สายไหมต้องรอด" ตั้งข้อสังเกตว่าเว็บไซต์การพนันออนไลน์หันมาเก็บสะสมป้ายทะเบียนรถแทนเงินสดแล้วหรือ ฝากให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบ ขณะที่ บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ออกแถลงการณ์จะดำเนินคดีต่อผู้ที่กล่าวหา ยืนยันว่าดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง โปร่งใส ภายใต้หลักธรรมาภิบาล
ล่าสุด นายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็มคอต เอชดี หมายเลข 30 ดำเนินรายการโดย นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ น.ส.อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ ระบุว่า ขอโทษที่ทำให้สังคมเข้าใจผิด ยอมรับว่าเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับเว็บพนันมาตั้งแต่ปี 2563 เพราะชอบเที่ยวต่างประเทศ และชอบเล่นกาสิโนที่ต่างประเทศ ทำให้ภาพลักษณ์ของตนดูเกี่ยวข้องกับการพนัน และคนในแวดวงการพนัน แต่ไม่ได้เป็นนักเล่น และไม่ได้ทำธุรกิจพาคนไปเล่นการพนัน หรือจังเก็ต (Junket)
นายแทนไทอ้างว่า ตนหาเงินตั้งแต่เด็ก ช่วงหนึ่งเปิดบริษัททำการตลาดออนไลน์ มีโอกาสทำการตลาดให้กับบริษัทเอกชนในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส สร้างยอดขายได้มากกว่า 100 ล้านบาท ต่อมาได้ศึกษาและลงทุนในตลาดฟอเรกซ์และคริปโตเคอร์เรนซี โดยใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 10 ล้านบาท เน้นซื้อขายทำกำไรทั้งระยะสั้น และระยะยาว ซื้อขายมาหลายปีและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันทำกำไรจากคริปโตเคอร์เรนซีมาเปิดบริษัทดังกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ถูก พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จับกุมข้อหาพนันออนไลน์ เมื่อเดือน ต.ค. 2563 และยื่นเรื่องไปที่ศาลแพ่งเพื่อยึดทรัพย์อีกทาง โดยมีทรัพย์สิน 31 รายการ รวม 176 ล้านบาทนั้น นายแทนไทกล่าวว่า มีปัญหากับผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง ไปทะเลาะกันระหว่างเล่นการพนันที่ต่างประเทศแล้วเกิดท้าทายและพนันกัน ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ มีแต่เส้นทางการเงินที่มีคนฝากเงินเข้าบัญชีของตนเท่านั้น เป็นการกู้ยืมเงินกัน ไม่ใช่การโอนเงินเพื่อเล่นการพนัน คดีนี้ถูกฟ้องทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งพร้อมกัน คดีอาญาอัยการสั่งไม่ฟ้อง ส่วนคดีแพ่งอยู่ในชั้นอุทธรณ์
ส่วนวัตถุประสงค์ในการประมูลป้ายทะเบียนรถนั้น นายแทนไทกล่าวว่า ที่มาประมูลป้ายทะเบียนไม่ได้อวดรวย แต่เป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจที่จะต่อยอดจากป้ายทะเบียนรถดังกล่าว ซึ่งในปี 2566 จะทำการตลาดลงไปในทุกธุรกิจ ซึ่งการประมูลป้ายทะเบียนรถเหมือนกับการพีอาร์โฆษณาบิลบอร์ดทั่วประเทศ ด้วยค่าใช้จ่ายที่พอกัน และอยากใช้โอกาสนี้ชี้แจงสังคมว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน ซึ่งเงินที่นำมาใช้ประมูลนั้นเป็นเงินสดหมุนเวียนในบริษัทฯ ส่วนการจดทะเบียนตั้งบริษัทดังกล่าว ตั้งขึ้นมาเพื่อการลงทุน ให้ผู้สนใจเข้ามาเสนอแผนธุรกิจหรือไอเดียเพื่อขอรับการสนับสนุน โดยบริษัทฯ จะเข้าไปถือหุ้น 50% และลงทุนให้ พร้อมกับมีทีมเข้าไปดูเรื่องบัญชีและการตลาด แต่จะต้องมีแผนธุรกิจชัดเจน และต้องดูแลบริหารธุรกิจให้ได้