ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (Office for National Statistics: ONS) ประเทศอังกฤษ ระบุว่า ในปี 2564 กว่า 13.3% ของผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเป็นผู้สูบบุหรี่ หรือคิดเป็นประมาณ 6.6 ล้านคน และนับเป็นสัดส่วนที่ต่ำที่สุดในประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งมีอัตราผู้สูบบุหรี่อยู่ที่ 20.2%
สำนักงานสถิติแห่งชาติยังระบุด้วยว่า จำนวนผู้สูบบุหรี่ได้ลดลง “อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ” จากเมื่อปี 2563 ที่มีอัตราผู้สูบบุหรี่อยู่ที่ 14% ของประชากร รายงานระบุว่าการสูบบุหรี่ในสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวเลขในปัจจุบันชี้ว่าสัดส่วนผู้สูบบุหรี่นั้นลดลงกว่า 6.9% เมื่อเทียบกับปี 2544 ซึ่งมีสัดส่วนผู้สูบบุหรี่อยู่ที่ร้อยละ 20.2%
การเติบโตของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า (vaping)
กว่า 7.7% ของผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป หรือประมาณ 4 ล้านคนระบุว่ามีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกวันหรือเป็นครั้งคราว เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ซึ่งมีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำทุกวันหรือเป็นครั้งคราวอยู่ที่ 6.4% ซึ่งสามารถสรุปได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีบทบาทสำคัญในการลดอัตราผู้สูบบุหรี่ในสหราชอาณาจักร โดยสัดส่วนของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มากที่สุด (25%) อยู่ในกลุ่มผู้ที่สูบบุหรี่ในปัจจุบัน และกลุ่มผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ไปแล้ว (15%)
รายงานระบุว่ามีเพียง 1.5% ของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน
การใช้บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยแค่ไหน?
สำนักงานบริการสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (United Kingdom National Health Service) หรือ NHS กล่าวว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ปราศจากความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง แต่ก็นับว่ามีความเสี่ยงต่อสุขภาพเพียงแค่เสี้ยวเดียวของความเสี่ยงที่อาจได้รับจากการสูบบุหรี่มวน แต่ความเสี่ยงในระยะยาวก็ยังคงระบุไม่ได้ชัดเจน เนื่องจากไอระเหยของนิโคตินเหลวและส่วนประกอบต่างๆ ที่อยู่ในบุหรี่ไฟฟ้าอาจยังคงมีสารเคมีอันตรายซึ่งพบในควันบุหรี่ แต่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามาก
พื้นที่ปลอดควัน
รายงานเปิดเผยว่า นโยบายที่เกี่ยวข้องกับแผนควบคุมยาสูบในสหราชอาณาจักร เช่น แคมเปญรณรงค์และสร้างการตระหนักรู้ รวมถึงการกำหนดพื้นที่ปลอดควัน อาจมีส่วนทำให้การสูบบุหรี่ลดลงอีกด้วย
แผนควบคุมยาสูบของรัฐบาลอังกฤษมีเป้าหมายที่จะลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่ลงให้เหลือ 12% หรือต่ำกว่าภายในสิ้นปี 2565
ข้อมูลและตัวเลขเพิ่มเติม
ONS เผยว่า ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่มากขึ้นในปี 2564 โดยอัตราผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ชายอยู่ที่ร้อยละ 15.1 และผู้หญิงอยู่ที่ร้อยละ 11.5
ข้อมูลอื่นๆ:
กลุ่มผู้ที่มีอายุ 25 ถึง 34 ปีมีสัดส่วนผู้สูบบุหรี่สูงสุดที่ 15.8%
กลุ่มผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนผู้สูบบุหรี่น้อยที่สุดที่ 8.0%
ผู้ที่ไม่มีวุฒิการศึกษามีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่มากกว่าที่ 28.2% เมื่อเทียบกับผู้ที่มีระดับการศึกษาสูงสุด (ปริญญาหรือเทียบเท่า) ที่ 6.6%
“การสูบบุหรี่ยังคงเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดของการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ ดังนั้นความคืบหน้าของสัดส่วนผู้สูบบุหรี่ที่ลดลงในวันนี้นับเป็นข่าวดี แต่รัฐบาลเองก็ต้องไม่นิ่งนอนใจ” นางฮาเซล ชีสแทน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่อังกฤษ หรือ Action on Smoking and Health (ASH) กล่าว เธอเสริมว่า “ในตอนแรกมีการรับปากว่าจะมีการเผยแพร่แผนควบคุมยาสูบแห่งประเทศอังกฤษฉบับใหม่ในปี 2564 แต่เรายังคงไม่เห็นว่าแผนดังกล่าว ซึ่งหากไม่มีแผนควบคุมฉบับใหม่ เราก็ไม่สามารถบรรลุวิสัยทัศน์ของการเป็นประเทศปลอดควันภายในปี 2030 ได้ ”
ที่มา: Lowest proportion of UK smokers on record with vaping playing 'major role' in drop | UK News | Sky News