คณะผู้บริหารแพนโดแลปนำทัพพันธมิตรกว่าสิบประเทศเผยบริการใหม่ล่าสุดของโลก Blockchain Infrastructure as a service (BIAS) ในงาน WORLD BLOCKCHAIN SUMMIT ครั้งที่ 23 ภายใต้งานแสดงบล็อกเชนซีรีส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก วันที่ 8-9 ธันวาคม 65 ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเต็ล
Mr. Logananthan Renganathan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยี ได้เปิดตัว Pando Mainnet 2.0 ที่มาพร้อมสัญญาณอัจฉริยะเพื่อทำให้บริษัทต่างๆสามารถเชื่อมต่อและใช้งานได้ทันทีแบบ Plug-and-Play บนโครงสร้างพื้นฐานของ Pando Blockchain เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการโฮสต์เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และ แพลตฟอร์มได้
แพนโดโปรเจกต์ Mainnet 2.0 ยังมีการขยายเครือข่ายเชื่อมต่อกับ Metamask, WalletConnect, Atom, TrustWallet และขยายโหนดราเมตรอนออกเป็น 4 รูปแบบ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมเป็นโหนดพร้อมรับรางวัลเป็น PTX (Pando Token) ผ่านกิจกรรมการใช้งานเว็บ 3.0 แอปพลิเคชัน ทั้งแพนโดโจ ติวเตอร์เอ็กซ์ แพนโดสโตร์ และแพลตฟอร์ม NFT ที่กำลังจะมีขึ้นในปี 2566
แพนโดโปรเจกต์พร้อมให้คนไทยและทั่วโลกเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนแล้ว ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pandoproject.org
สำหรับประเทศไทยมีมูลค่าการทำธุรกรรมคริปโตฯ ถึง 1.35 แสนล้านดอลลาร์ในระยะเวลาเพียง 1 ปี จึงเป็นจุดสนใจของเหล่านักลงทุนสู่การเป็น Hotspot ที่สำคัญของอุตสาหกรรมคริปโตฯ ในภูมิภาคอาเซียน โดยมหกรรมในครั้งนี้จะเป็นการนำเอากูรูทั้งจากภูมิภาคและจากทั่วโลกเข้ามารวมกันที่เดียว และการที่ ‘World Blockchain Summit’ ปักหมุดสู่กรุงเทพมหานครครั้งนี้ จึงมีจุดประสงค์ที่จะเป็น ‘ฮับ’ สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมบล็อกเชน, คริปโตเคอร์เรนซี และ web3 ที่รวมไปถึงนักลงทุน, โปรเจกต์ต่างๆ, บริษัท, ภาครัฐฯ และผู้นำทางเทคโนโลยี เพื่อหารือและเปลี่ยนความคิดเห็นสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมคริปโตฯ รวมไปถึงช่องทางในการเปลี่ยนแปลงทั้งภาคธุรกิจและภาครัฐฯ ให้ออกจากรูปแบบดั้งเดิมที่เคยเป็นอยู่