"นักวิชาการ" ชี้ "มกุฎราชกุมารซาอุฯ" เยือนไทย สะท้อนฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งจะช่วยหนุนเสริมกันทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นประตูให้ประเทศไทยเข้าสู่โลกมุสลิม
วันที่ 24 พ.ย. 2565 ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "สัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ก้าวย่างแห่งโอกาสของคนไทย"
ดร.ศราวุฒิกล่าวในช่วงหนึ่งว่า มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย พร้อมคณะเข้าร่วมการประชุมเอเปกที่ไทย เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จทางการทูตของประเทศไทย ก่อนหน้านี้ที่นายกฯ ไทยไปเยือนซาอุฯ ก็มีการดำเนินการทางการทูตมาตลอด ทั้งด้านการค้า การลงทุน และในหลายด้านหลายมิติ เพื่อขับเคลื่อนการฟื้นฟูความสัมพันธ์แต่ก็ยังไม่เต็มรูปแบบ นอกเสียจากว่าผู้นำสูงสุดของซาอุฯ จะมาเยือนประเทศไทย ซึ่งในช่วงเอเปกที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าผู้นำสูงสุดทางพฤตินัย เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมเอเปก เป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ฟื้นฟูเต็มรูปแบบ
ก่อนหน้านี้มีการพูดถึงในเรื่องของข้อสงสัยว่าซาอุฯ จะลืมอดีตที่ปวดร้าวเรื่องเพชรซาอุฯ เรื่องอุ้มฆ่าไหม การมาเยือนครั้งนี้ชี้ชัดว่าพร้อมก้าวข้ามเรื่องในอดีตและเดินไปข้างหน้าร่วมกัน
การมาของมกุฎราชกุมารซาอุฯ ครั้งนี้เป็นภาพที่ดีมากในสายตาโลกมุสลิม สะท้อนให้เห็นว่าพี่ใหญ่ให้ความสำคัญต่อประเทศไทย นอกจากนั้นการประชุมครั้งนี้ยังเป็นสะพานเชื่อมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ระหว่างซาอุฯ กับไทย ตนเห็นว่าสำคัญที่สุด อันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุฯ มั่นคงยืนนานอย่างแท้จริง
ดร.ศราวุฒิยังกล่าวอีกว่า ซาอุฯ กับไทยหนุนเสริมกันทางเศรษฐกิจ ไม่เหมือนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านหนุนเสริมกันบางเรื่องแต่บางเรื่องก็แข่งขันกัน การมาเยือนครั้งนี้ของมกุฎราชกุมารฯ มีการลงนามตกลง MOU กัน 5 ฉบับ ไม่ว่าจะเรื่องพลังงาน การจัดตั้งสภาความร่วมมือ การท่องเที่ยว การลงทุน และต่อต้านการทุจริต
MOU ทั้ง 5 ฉบับสะท้อนอย่างแท้จริงว่าไทยกับซาอุฯ หนุนเสริมกันทางเศรษฐกิจ เช่น ซาอุฯ มีความมั่นคงทางพลังงานซึ่งหนุนเสริมให้ไทยได้ ไทยมีความมั่นคงทางอาหาร เราก็ใช้จุดแข็งของเราตรงนี้หนุนเสริมเขาได้ และเรายังเชี่ยวชาญเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งซาอุฯ กำลังจะเปิดการท่องเที่ยว ไทยมีแรงงานที่มีทักษะเยอะมาก ซาอุฯ ก็กำลังต้องการแรงงานที่มีทักษะเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
นอกจากหนุนเสริมกันทางเศรษฐกิจ การฟื้นสัมพันธ์ครั้งนี้จะเป็นประตูให้ประเทศไทยเข้าไปสู่โลกมุสลิมในภาพรวม เพราะซาอุฯ วันนี้เป็นประเทศใหญ่ เป็นผู้นำประเทศมุสลิม นอกจากนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของไทยต่อชาวซาอุฯ ที่ตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมาเป็นภาพลบก็จะมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น
