รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มม็อบ 3 นิ้วสุดไร้สาระ สร้างขึ้นเพียงเพื่อหาเรื่องป่วนการประชุมเท่านั้น
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Harirak Sutabutr" ได้ออกมาเปิดเผย 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่ม 3 นิ้ว ที่มองว่าเป็นการเรียกร้องที่ไร้สาระ สร้างขึ้นมาเพื่อจะป่วนการประชุมเอเปก โดย รศ.หริรักษ์ได้ระบุข้อความว่า
"การประชุมเอเปกให้ประโยชน์แต่กลุ่มทุน เปิดให้บริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุน เข้ามาแย่งที่ดินของคนไทย รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ออกนโยบายขายชาติ พลเอก ประยุทธ์ไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปก ขับไล่ประยุทธ์หยุดเอเปก"
ข้อความข้างต้นเป็นเหมือนเสียงนกแก้ว นกขุนทอง ที่พวก 3 นิ้วที่ความคิดถูกครอบงำโดยแกนนำลัทธิชอบนำมาพูด แต่หากถามต่อในรายละเอียด เช่น กลุ่มทุนที่ว่าได้ประโยชน์ ได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง คนที่พูดเช่นนี้ส่วนใหญ่ตอบไม่ได้ การที่บริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุนซึ่งไม่ต้องประชุมเอเปกก็เข้ามากันอยู่แล้ว มีผลเสียอย่างไรบ้างก็มักตอบไม่ได้ ได้แต่ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองอยู่อย่างนี้ เห็นข้อเรียกร้องของกลุ่มราษฎรหยุดเอเปกแล้ว ได้แต่แปลกใจเพราะข้อเรียกร้องมี 3 ข้อ คือ
1. ยกเลิก BCG model
2. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ในการลงนามในข้อตกลงใดๆ ทั้งสิ้นกับผู้นำเอเปก
3. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องยุบสภาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งโดยเร็ว
เรามาดูกันว่า BCG คืออะไร
BCG model มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเกษตรและอาหาร สุขภาพและการแพทย์ พลังงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
B คือ Bio Economy เศรษฐกิจชีวภาพ หมายถึงการนำเอาเทคโนโลยีชีวภาพระดับสูง หรือ Bio technology มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ
C คือ Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน หมายถึงการนำวัตถุดิบที่เคยเหลือทิ้งกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เช่นสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ อันเป็นการลดขยะและความสูญเปล่า ทำให้เกิดผลดีต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม
G คือ Green Economy เศรษฐกิจสีเขียว หมายถึงการพัฒนาเศรษฐกิจที่ต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
ถามว่าโดยหลักการ BCG model มีตรงไหนไม่ดีต่อประเทศ ทำไมต้องยกเลิก ที่อ้างเรื่องจะมีการตัดต่อพันธุกรรม(GMO) แล้วทำให้บริษัทต่างชาติได้ประโยชน์ เป็นคนละเรื่องกัน ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกัน หรือเป็นเพราะเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์จึงต้องไม่ดีไว้ก่อน
ข้อเรียกร้องที่ 2 จะไม่ให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงนามในข้อตกลงใดๆ เพราะขาดความชอบธรรม ผู้ที่กำหนดข้อเรียกร้องข้อนี้ต้องทราบดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เช่นนั้น จะร้องไปทำไม
ข้อเรียกร้องที่ 3 การยุบสภาอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหลังการประชุมเอเปก หรือหากไม่มีการยุบสภา อีกไม่กี่เดือนสภาก็จะครบวาระอยู่แล้ว อีกไม่นานก็จะมีการเลือกตั้งใหม่ แล้วจะเรียกร้องให้ยุบสภาไปเพื่ออะไร
จะเห็นว่าข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ เป็นข้อเรียกร้องที่ไร้สาระทั้งสิ้น ดังนั้นดูเหมือนว่าข้อเรียกร้องเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพียงเพื่อหาเรื่องป่วนการประชุมเท่านั้น ไม่ได้หวังผลจากข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อจริงๆ แต่อย่างใด
ในการประชุมระดับโลกเช่นนี้ทุกครั้ง การชุมนุมเรียกร้องในเรื่องต่างๆ เป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะเมื่อมีผู้นำชาติต่างๆ มารวมตัวกัน ก็เป็นโอกาสที่จะมีการแสดงออกให้ผู้นำเหล่านี้ได้เห็นบ้าง แต่เท่าที่ผ่านมาในประเทศอื่นๆ การแสดงออกมักเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับส่วนรวม เช่น การลดภาวะโลกร้อน การประท้วงเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น มีแต่ในประเทศไทยเท่านั้นที่มีการจัดชุมนุมเพื่อป่วน หรือเพื่อทำลายการประชุมระดับโลก เพื่อหวังผลทางการเมือง ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อกลุ่ม นปช.บุกเข้าทำลายการประชุมอาเซียนซัมมิตที่พัทยา ในช่วงรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน กลุ่มราษฎรหยุดเอเปก ไม่ได้ต้องการให้เกิดผลตามข้อเรียกร้อง แต่ต้องการให้เกิดผลทางการเมือง ไม่ใช่เพื่อปกป้องประชาธิปไตยอะไรทั้งนั้น แต่ทำเพื่อให้กลุ่มการเมืองบางกลุ่มได้ประโยชน์ โดยทำให้รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ เสียหน้าต่อหน้าผู้นำประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุม ดังนั้นจะไม่แปลกใจเลยหากจะเห็นม็อบยั่วยุเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดการกระทบกระทั่งจะได้เกิดความรุนแรง ตำรวจควบคุมฝูงชนจึงต้องระมัดระวังหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรง และต้องใช้ความอดกลั้นให้มากที่สุด เพราะหากเกิดความรุนแรง จะมีการนำไปขยายผลทันที
หากการประชุมเอเปกไม่สามารถดำเนินต่อได้ เนื่องจากมีความรุนแรงจนรัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับการประชุมอาเซียนซัมมิตแล้ว ไม่ใช่เพียงรัฐบาลเท่านั้นที่จะเสียหน้า แต่ประเทศชาติโดยรวมจะเสียหายจนยากที่จะกู้ความมั่นใจของประเทศต่างๆ ให้กลับมาได้
ไม่ว่าจะอย่างไร กลุ่มราษฎรหยุดเอเปกก็คงไม่สนใจ ขอเพียงทำลายรัฐบาลนี้ให้ได้ และกลุ่มการเมืองที่ตัวเองสนับสนุน หรือกลับกันกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนตัวเองได้ประโยชน์ก็พอ คำถามคือ ควรแล้วหรือที่เราจะฝากอนาคตของประเทศชาติไว้กับคนที่มีความคิดเช่นนี้ หรือเราไม่มีทางเลือกเลยจริงๆ"