สถานทูตไทยกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เตือนคนไทยที่ถูกชักชวนให้ไปออกร้านขายอาหารและสินค้า หรือไปจัดอีเวนต์ในมาเลเซีย ขออนุญาตให้ถูกต้อง หลังจากเดือนที่แล้วตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียจับกุมชาวต่างชาติ 44 คน ขายอาหารในเทศกาลอาหารไทยที่รัฐมะละกาโดยไม่ได้รับอนุญาต หนึ่งในนั้นเป็นคนไทย 34 คน
วันนี้ (10 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เตือนประชาชนโปรดระวังผู้ชักชวนให้ไปออกร้านขายอาหารและสินค้าหรือไปจัดการแสดงในงานอีเวนต์ต่างๆ ในมาเลเซีย โดยไม่ได้ดำเนินการขอวีซ่าให้ถูกต้อง อาจทำให้ถูกจับกุมข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต
เนื่องจากในช่วงนี้มีคนไทยซึ่งถูกชักชวนให้มาออกร้านขายอาหารและสินค้า ตลอดจนให้มาเป็นลูกจ้างตามบูทขายของในงาน ตามงานแสดงสินค้า และงานเทศกาลอาหารต่างๆ และถูกจับกุมโดยทางการมาเลเซีย เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตทำงานเพิ่มมากขึ้น สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแจ้งเตือน ดังนี้
ผู้ที่จะไปออกร้านขายอาหารและสินค้า รวมถึงนักร้อง นักแสดง ที่จะไปแสดงคอนเสิร์ตหรือโชว์ตัว ในงานอีเวนต์ เทศกาลอาหาร งานแสดงสินค้าต่างๆ ในมาเลเซีย รวมถึงผู้ที่จะไปเป็นลูกจ้างในงานดังกล่าว จะต้องขอวีซ่าเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวจากสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำประเทศไทย ก่อนเดินทางเข้ามาในมาเลเซีย แม้ว่าจะเป็นเพียงการเข้าร่วมงานในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
หากมีผู้ชักชวนให้ไปออกร้านขายอาหารและสินค้า หรือไปจัดการแสดงในงาน และให้เดินทางเข้ามาเลเซียเหมือนเป็นนักท่องเที่ยว โดยผู้จัดงานไม่ดำเนินการขอวีซ่าให้ สันนิษฐานได้ว่าผู้จัดงานดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการขออนุญาตจัดงานจากทางการมาเลเซียให้ถูกต้องหรือครบถ้วน เป็นการกระทำผิดกฎหมาย และเสี่ยงต่อการถูกจับกุม
ทั้งนี้ หากถูกจับกุม อาจถูกตั้งข้อสงสัยว่ากระทำความผิดฐานทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งมีโทษตามมาตรา 39(b) ของ Immigration Regulations 1963 คือ ปรับไม่เกิน 1,000 ริงกิต (ประมาณ 7,825 บาท) หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมแล้ว สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแจ้งข้อแนะนำสำหรับญาติผู้ถูกจับกุม ดังนี้
1. ญาติสามารถตรวจสอบสถานะของผู้ถูกจับกุมได้กับสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยขอให้แจ้งข้อมูลโดยกรอกแบบฟอร์มติดตามหาญาติที่สูญหายหรือถูกจับกุมในมาเลเซีย https://bit.ly/3zVW4rS
2. ญาติจะเข้าเยี่ยมผู้ถูกจับกุมที่สถานกักกันได้หลังจากพ้นกำหนดการควบคุมตัวไว้สอบสวน (ไม่เกิน 14 วัน)
3. อย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างว่าสามารถช่วยให้ผู้ถูกจับกุมได้รับการปล่อยตัว โดยเรียกผลประโยชน์ตอบแทน
4. สถานเอกอัครราชทูตฯ จะประสานงานให้ผู้ถูกจับกุมได้รับการส่งตัวกลับไทยภายหลังพ้นโทษต่อไป
สำหรับช่องทางการติดต่อ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โทรศัพท์ +60321432125, +60321432107, +60321432127 (เวลา 15.00-17.00 น.) เฟซบุ๊ก "กงสุลไทย กัวลาลัมเปอร์" และเว็บไซต์ https://kualalumpur.thaiembassy.org
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวเมโทรของมาเลเซีย (hmetro.com.my) รายงานว่า กรมตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย (JIM) จับกุมชาวต่างชาติ 44 คน อายุระหว่าง 21-55 ปี ซึ่งเป็นผู้ขายอาหารในงานเทศกาลอาหารไทย บริเวณย่านบาตู เบอเรนดัม และอาเยอร์ เคเราะห์ รัฐมะละกา ทางตอนใต้ของมาเลเซีย ประกอบด้วยชายไทย 19 คน หญิงไทย 15 คน ชายชาวอินโดนีเซีย 8 คน หญิงชาวอินโดนีเซีย 1 คน และชายชาวพม่าอีก 1 คน
การจับกุมเกิดขึ้นหลังมีผู้ร้องเรียน ซึ่งตรวจสอบพบว่าผู้จัดงานเทศกาลอาหารไทย 2 คนว่าจ้างให้ขายอาหารโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานตามกฎหมาย อีกทั้งผู้จัดงาน 2 คนไม่ผ่านการอนุมัติในการขออนุญาตชาวต่างชาติดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเพราะยุ่งอยู่กับการให้บริการลูกค้าที่บูทของพวกเขา โดยทั้งหมดถูกควบคุมตัวที่สถานกักกันของกรมตรวจคนเข้าเมือง