xs
xsm
sm
md
lg

"ษัษฐรัมย์" ชี้ "ศรีสุวรรณ" ก็ใช้ความรุนแรง แต่มองไม่เห็น บางครั้งฆ่าคนทั้งเป็น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รศ.ดร.ษัษฐรัมย์มองสิ่งที่ "นักร้อง" ทำกับตนเองร้ายแรงกว่าการถูกต่อยหน้า เพราะถูกตัดโอกาสอนาคต ส่งผลกระทบต่อชีวิตและอาชีพเพราะคำร้องของศรีสุวรรณ ชี้เป็นความรุนแรงที่มองไม่เห็น

จากกรณี นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล อายุ 62 ปี เจ้าของช่องยูทูบ ศักดินาเสื้อแดง ต่อต้านเผด็จการ บุกเข้าไปตบนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระหว่างเข้าร้องเรียนต่อกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เอาผิด โน้ส อุดม-แต้พานิช นักพูดชื่อดัง กล่าวบนเวทีเดี่ยว 13 วิจารณ์รัฐบาล หนุนผู้ชุมนุมหรือไม่ พร้อมกับกล่าวว่า ตั้งใจที่จะมาตบนายศรีสุวรรณเพื่อเป็นการสั่งสอนให้หยุดร้องเรียน อ้างว่าคำว่าประชาธิปไตย ทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง แต่มึงอย่าเกินเลยจนเกินไป ท้าว่าถ้าทำผิดดำเนินคดีได้ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (19 ต.ค.) รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี หัวหน้าศูนย์วิจัยการเรียนรู้รัฐสวัสดิการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก “Sustarum Thammaboosadee" ระบุถึง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ว่าสิ่งที่นายศรีสุวรรณร้องเรียนไปทั่วมันส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อตนเองมากกว่าการถูกต่อยหน้ามาก โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า

"ในฐานะคนเคยโดนศรีสุวรรณไล่ฟ้องเรื่อยเปื่อย จนส่งผลกระทบต่อชีวิตและอาชีพ ไม่มีใครติดตามว่าหลังจากศรีสุวรรณยื่นฟ้อง เรื่องนี้เป็นเท็จจริงอย่างไร คนที่ไม่ได้ติดตามหลายคนก็ไม่รู้ เพราะมีแต่ข่าวนี้ลง

ผมถูกแหล่งทุนปฏิเสธ มีการยกเลิกการบรรยายพิเศษ ฯลฯ คนในครอบครัวเกิดความกังวลต้องคอยรับสายโทรศัพท์ จากการฟ้องเรื่อยเปื่อยที่เลือกคดีโทษสูงแบบไร้มูลเพื่อให้เป็นข่าว ฟ้องคนไปทั่ว

ผมพูดตรงๆ ว่าสิ่งที่ศรีสุวรรณทำกับผมและหลายคน รุนแรงกว่าการต่อยหน้ามาก เป็นความรุนแรงที่มองไม่เห็น แต่บ่อยครั้งมันฆ่าคนทั้งเป็น เหมือนวิทยุยานเกราะช่วง 6 ตุลาฯ เหมือนความเห็นทางการเมืองของทมยันตี และฝ่ายขวาอีกหลายคน พวกนี้ก็อาจไม่เคยฆ่ามดสักตัว แต่ความเห็นของพวกเขาก็นำสู่ความเกลียดชังมากมาย

ผมโกรธและเกลียดเขามาก ทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักอะไรกัน หน้าที่การงานไม่เกี่ยวกัน และผมก็ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองอะไร แต่ก็ยังอุตส่าห์ผูกกรรมต่อกัน แต่ช่วงต้นปีผมได้ยินข่าวเขา จึงตัดสินใจให้อภัยเขาเห็นแก่ว่าเขามีลูกเพิ่งเกิด และวันหนึ่งเขาก็จะเข้าใจว่าเรื่องสังคมที่เท่าเทียมและรัฐสวัสดิการที่ผมเรียกร้องสำคัญอย่างไร ที่คนจะมีชีวิตอย่างเท่าเทียม

ทั้งนี้ ผมตระหนักดีว่าการกล่าวว่าให้อภัยเขา ผมพูดด้วยอภิสิทธิ์บางอย่าง เพราะผมมีปากกา มีไมค์ มีพื้นที่ที่สามารถขยายความเห็นของผมเพื่อโต้แย้ง และทำให้เขาเป็นตัวตลกต่อไปได้

เครื่องมือแต่ละคนไม่เท่ากัน ภาวะการถูกกดขี่ของคนไม่เท่ากัน ผมเอาศีลธรรมที่ตัวเองเชื่อยึดถือไปบอกว่าให้แต่ละคนยักไหล่กับศรีสุวรรณก็ไม่ได้เช่นกัน เรื่องนี้จึงตามแต่ละคนจะสะดวก จะถอดบทเรียน หรือปฏิรูปนิยามของคำว่าสันติวิธีก็ทำไปพร้อมกันได้ จะเน้นความถูกต้องทางการเมือง ก็ให้พูดถึงความรุนแรงประเภทที่เรามองไม่เห็นด้วย ทำไปได้พร้อมกัน"
กำลังโหลดความคิดเห็น