"เขาว่าอร่อย" บุกมาลิ้มลอง "Red Lobster" ร้านอาหารทะเลเจ้าดังใน "อเมริกา" มาเปิดสาขาแรกในไทยที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กับเมนูเด็ดจาก "กุ้งล็อบสเตอร์" ที่นำเข้าจากแคนาดา มาตัวเป็นๆ กับ 2 จานเด็ด ทั้งต้ม ทั้งอบ แบบสดๆ จนน้ำลายสอ
"เร้ด ล็อบสเตอร์" (Red Lobster) ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูมากนัก แต่สำหรับคอ "กุ้งล็อบสเตอร์" ต่างรู้จักกันดี เพราะร้านนี้จัดว่าได้รับความนิยมใน "สหรัฐอเมริกา" จนปัจจุบันมีถึง 700 สาขาทั่วโลก แถมยังเก่าแก่เปิดมาตั้งแต่ปี 2511 ที่เมืองเลคแลนด์ (Lakeland) รัฐฟลอริดา (Florida) โดย "บิล ดาร์เดน" (Bill Darden) เจ้าของแนวคิดทำอาหารทะเลให้อร่อย สด มีคุณภาพ สามารถเข้าถึงง่าย และราคาเป็นมิตร
และตอนนี้ก็ได้มาเปิด "สาขาแรกในไทย" ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ให้ชาวไทยได้ลิ้มลองถึงในประเทศ ภายใต้คอนเซปท์อบอุ่นเป็นมิตรสไตล์อเมริกัน ที่สำคัญวัตถุดิบหลักยังเป็นของนำเข้าจาก 20 ประเทศทั่วโลกเลยด้วย แหม บอกสรรพคุณมาขนาดนี้ "เขาว่าอร่อย" ก็ได้มีโอกาสไปลองพิสูจน์สิว่า มันจะเด็ดสักแค่ไหนเชียว
เริ่มจาก "เชดดาร์ เบย์ บิสกิต" (Cheddar Bay Biscuits) (ชิ้นละ 35 บาท) บิสกิตแบบกรอบนอกนุ่มใน สไตล์อเมริกัน คล้ายๆ กับร้านไก่ทอดเจ้านึงในปั้ม แต่ของที่นี่เขาจัดให้เป็น "Signature Menu" เลยทีเดียว โดยที่ร้านให้ทานคนละ 1 ชิ้น เขาบอกว่า ทุกชิ้นอบสดที่ร้านใช้แป้งสูตรลับผสมกับเชดดาร์ ชีส เคลือบด้วยเนยกระเทียมสูตรพิเศษ จนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่จากที่ลองชิม สัมผัสแรกคือค่อนข้างเค็ม มีกลิ่นหอมจากชีส เนย กระเทียม ก็เข้าใจว่าคงให้ทานเพื่อกระตุ้นน้ำย่อยอยากจะลิ้มลองเมนูอื่นๆ มากขึ้น
เข้าสู่อาหารทะเล "ออเดิร์ฟ" อย่าง "ซิกเนเจอร์ จัมโบ้ ค็อกเทลกุ้ง" (Signature Jumbo Shrimp Cocktail) (180 บาท) กุ้งค็อกเทลจิ้มซอสเสิร์ฟแบบเย็นในแก้วทรงสูง กุ้งค่อนข้างแน่นดี ที่เด็ดคือซอสค็อกเทล ที่คล้ายรสซอสมะเขือเทศผสมกับเครื่องเทศบางอย่าง แต่อร่อยดี
ตามมาด้วย "ล็อบสเตอร์เทล ล็อบสเตอร์โรล" (Lobster Tail Lobster Roll) (980 บาท) เนื้อช่วงหางกุ้งล็อบสเตอร์ นำมาคลุกเข้ากับมายองเนสและขึ้นฉ่ายฝรั่ง เสิร์ฟพร้อมสลัดน้ำซอสบัลซามิก และ เฟรนซ์ฟราย ชุดนี้ เนื้อกุ้งแน่นและเด้งดี ได้รสมายองเนส แต่ที่เด็ดจริงๆ คือ "ขนมปัง" มันนุ่ม เหนียว อร่อยมาก! อยากให้ลอง
ถัดมา "แอดมิรอล ฟีสท์" (Admiral’s Feast) (1,450 บาท) ชุดของทอดที่มีทั้ง ปลากะพง , หอยนางรม , หอยเชลล์ญี่ปุ่น และ กุ้ง นำไปชุบแป้งคลุกเกล็ดขนมปังทอด เสิร์ฟพร้อม ทาร์ทาร์ซอส , ซอสมะเขือเทศ และ เลมอน เนื้อปลาค่อนข้างแน่นดีอยู่ ส่วนอื่นๆ ก็ตามมาตรฐาน ยอมรับตามตรงว่า จานนี้ดูธรรมดาสุดละในบรรดาที่ทาน พอผนวกกับราคาก็อาจจะเหมาะกับคนที่ชอบทานอาหารประเภทนี้จริงๆ แหละ
มาถึงไฮไลต์ของเราบ้างกับ "ไลฟ์ เมน ล็อบสเตอร์" (Live Maine Lobster) (1,350 บาท) มันคือ "กุ้งล็อบสเตอร์" สายพันธุ์จาก "รัฐเมน" ของ "สหรัฐอเมริกา" ที่ส่งตรงมาจาก "แคนาดา" แบบเป็นๆ แล้วจัดการเชือดต้มในทันทีที่มีคนสั่งเมนูนี้ ว่ากันว่า มันตัวโต ก้ามใหญ่ และเนื้อนุ่มที่สุดในบรรดาล็อบสเตอร์ทั้งหมด โดยตัวนี้คาดว่ามีน้ำหนักราว 600 กรัม พอจะกินก็มีพนักงานมาบริการแกะเนื้อให้ทานแบบไม่ต้องเปื้อนมือเองด้วย สบายล่ะ แต่ที่น่าแปลกคือ เนื้อก้ามค่อนข้างเค็มรสน้ำทะเล ส่วนเนื้อช่วงตัวกลับไม่เป็นเช่นนั้น มันเหนียวนุ่ม รสหวานจางๆ อร่อยเลย เสิร์ฟพร้อมสลัดน้ำซอสบัลซามิก และ เฟรนซ์ฟราย กับซอสมะเขือเทศ และซอสเนย ที่พอเอากุ้งไปจิ้มแล้วรู้สึกอร่อยไปอีกแบบ ... แต่พิเศษสำหรับที่ไทยเท่านั้น เขามีบริการ "น้ำจิ้มซีฟู้ด" รสเด็ดเพิ่มรสความอร่อยแบบบ้านเราด้วย
ปิดท้ายของคาวกับ "สปาเก็ตตี้ อัลกลิโอ โอลิโอ วิท ไลฟ์ เมน ล็อบสเตอร์" (Spaghetti Aglio Olio with Live Maine Lobster) (1,620 บาท) จานนี้เขาเอา "ล็อบสเตอร์" ตัวเป็นๆ เช่นกัน ไปอบเนย กระเทียม เนื้อจึงแน่นและเหนียวกว่า แถมยังได้กลิ่นพวกเนย กระเทียม อ่อนๆ ด้วย ก็อร่อยดี แต่เนื้อช่วงก้ามก็ยังเค็มเช่นเดิม ส่วน สปาเก็ตตี้ผัดพริกกระเทียมน้ำมันมะกอก รสค่อนข้างเค็ม แต่ก็ได้กลิ่นพริก กระเทียม และสัมผัสน้ำมันมะกอกได้ชัด
ตบด้วยของหวาน "ซิกเนเจอร์ สตรอว์เบอรี่ ชอร์ทเค้ก" (Signature Strawberry Shortcake) (250 บาท) มันคือ บิสกิตผ่าแล้วใส่วิปครีม และ สตรอว์เบอร์รี่ วางลงบน ซอสสตรอว์เบอร์รี่ เป็นเมนูนึงที่รสชาติแต่ละอย่างโดดชัด ซอสค่อนข้างเปรี้ยว บิสกิตจืด วิปครีมหวานจางๆ สตรอว์เบอร์รี่ ก็เปรี้ยวอมหวาน ควรกินรวมกัน แล้วจะรู้สึกประทับใจ..
นอกจากนี้ที่นี่เขายังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายด้วย ทั้งเบียร์ และ ค็อกเทล อย่างที่ลองนี่ก็มีทั้ง "ล็อบสเตอร์เฟสท์ รัม พันช์" (Lobsterfest Rum Punch) (280 บาท) เอิ่ม เข้าไม่ได้ใส่เนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ลงไปด้วยนะ แต่มันคือ เหล้ารัม ผสม รัมมะพร้าว น้ำส้ม น้ำสับปะรด และ น้ำมะนาว อีกแก้วเป็น "มูนไลท์ ไหมไทย" (Moonlight Mai Tai) (250 บาท) ที่มี เหล้ารัม , เหล้ารสส้ม , น้ำส้ม น้ำสับปะรด และ น้ำมะนาว ส่วนใครที่ไม่ใช่สายแอลฯ ก็มีม็อกเทลให้ลองดื่ม อย่างเช่นแก้วนี้ "เวอร์จิ้น โมจิโต้" (Virgin Mojito) (220 บาท) ให้ได้ชื่นใจ
สำหรับ "Red Lobster" ร้านนี้อยู่ที่ ชั้น G ของ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดทุกวัน 11.00–22.00 น. อย่างช่วงนี้มีงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ถ้ากลัวโต๊ะเต็ม ก็ไปจองและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 062-243-8237 หรือ Line Official Account: @redlobster_th กันเลย อ่อ ราคาค่าอาหารยังไม่รวมราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการ ที่สำคัญบางเมนูอาจราคาเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลด้วยจ้า