xs
xsm
sm
md
lg

"นักวิชาการ" กังวล หน้ากากอนามัย​ทั่วไปไม่สามารถป้องกันก๊าซ​พิษรั่วไหลได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศ.ดร.ศิวัช พงษ์เพียจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการป้องกันและจัดการภัยพิบัติ แสดงความคิดเห็นกรณีเหตุสารเคมีรั่วไหลย่านพุทธมณฑล ย้ำหากสูดดมมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ และกังวลหน้ากากอนามัย​ทั่วไปไม่สามารถป้องกันก๊าซ​พิษได้ ทำได้เพียงผ่อนหนักให้เป็นเบาบางส่วนเท่านั้น

จากกรณีเกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลที่โรงงานแห่งหนึ่งย่านพุทธมณฑล สาย 7 พื้นที่อำเภอนครชัยศรี ส่งผลกระทบโดยกว้าง เนื่องจากกลิ่นของสารเคมีลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ ทั้งในเขตพื้นที่ติดต่ออำเภอสามพราน อำเภอพุทธมณฑล รวมไปถึงเขตรอยต่อกรุงเทพมหานคร ทำให้โรงเรียนต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เนื่องจากหวั่นอันตรายที่ตามมา ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (22 ก.ย.) เฟซบุ๊ก "Siwatt Pongpiachan" หรือ ศ.ดร.ศิวัช พงษ์เพียจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการป้องกันและจัดการภัยพิบัติ คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า "ประเด็นสารเคมีรั่วไหลจาก hot oil down term dt1 ของโรงงานอินโดรามา นครชัยศรี​ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเพราะเป็นกลุ่มสารอะโรมาติกเบนซิน​ซึ่งเป็นสาร​อินทรีย์​ระเหย​ง่าย (VOC) และจัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็ง​มีอยู่หลายชนิด เท่าที่ตามข่าวหากข้อมูล​ที่นำเสนอในโลกออนไลน์​ถูกต้อง ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ​อยู่​ไกลจากจุดเกิดเหตุหลายกิโลฯ แสดงว่าระดับความเข้มข้นของสารเคมีกลุ่มนี้สูงพอตัว สิ่งที่ภาครัฐควรเร่งสร้างความมั่นใจ​ให้แก่ภาคประชาชนคือ

1. ใช้อุปกรณ์​เก็บตัวอย่างก๊าซ​ซึ่งอาจเป็น PUF หรือ Resin ในกลุ่ม XAD มาสกัดหาชนิดของสาร VOC โดยใช้ Gas Chromatography Mass Spectometry เพื่อจำแนกประเภท​หาชนิดสารเคมี VOC ออกมาให้มากที่สุด
2. หลังจากนั้นนำค่าสัมประสิทธิ์​ความเป็นพิษ​ Toxic Equivalency Factor (TEF) ของสาร VOC แต่ละตัวมาคูณกับความเข้มข้นของสารพิษ​แต่ละชนิด เสร็จ​แล้วมาบวกรวมกันเพื่อประเมินความเป็นพิษ​ในภาพรวม​หรือ Toxic Equivalency​ Quotients (TEQ)
3. หลังจากนั้นนำค่าที่ได้มาคำนวณ​ในสูตรการประเมินความเสี่ยงที่มีผลกระทบ​เชิงลบต่อสุขภาพ​ (Risk Assessment) ซึ่งตัวแปรสำคัญ​คือ ระดับ​ความเป็นพิษ​ ระยะเวลา​ในการสูดดม ความถี่ในการสูดดม เพศ และน้ำหนักตัว
4. โดยหลักการแล้วเด็กซึ่งมีน้ำหนักตัวน้อยจะมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้ใหญ่​ซึ่งมีน้ำหนักตัวมากกว่า​ โดยปกติแล้วค่าความเสี่ยงที่ได้เกิดจากการคำนวณ​โดยใช้ค่าความเข้มข้นของสารพิษ​xความถี่ในการสูดดมxระยะเวลา​ในการสูดดม หารด้วยน้ำหนักตัว ซึ่งหากจะประเมิน​ความเสี่ยงแบบละเอียดตัวแปรในสมการจะมีความซับซ้อน​มากกว่านี้ ที่เขียนมาเป็นเพียงแค่หลักคิดเท่านั้น

ส่วนตัวที่กังวลใจ​คือ "หน้ากากอนามัย​" ทั่วไปไม่สามารถป้องกันก๊าซ​พิษในกลุ่ม VOC ได้ 100% นะครับ แค่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้บางส่วนเท่านั้น ถ้าจะใช้แบบจริงจัง​ต้องตามภาพข้างล่าง​ที่แนบมา"




กำลังโหลดความคิดเห็น