เพจ "Silapawattanatham - ศิลปวัฒนธรรม" โพสต์ให้ความรู้คำว่า "อเวจี" ที่ลูกค้าสาวต่อว่าไรเดอร์ด้วยคำว่า "ตกอเวจีปอยเปตแสนล้านภพแสนล้านชาติชั่วนิจนิรันดร์" ซึ่งมีความหมายว่า ขุมลึกที่สุดแห่งโลกนรก
จากกรณีเกิดประเด็นในโลกออนไลน์ เมื่อมีลูกค้าสาวรายหนึ่งไม่ยอมจ่ายค่าพิซซาพร้อมสาปแช่งไรเดอร์ให้ตกอเวจีปอยเปตแสนล้านภพแสนล้านชาติชั่วนิจนิรันดร์ คลิปดังกล่าวมีชาวเน็ตแห่รับชมจนกลายเป็นไวรัลคลิปและส่วนใหญ่ต่างรู้สึกเห็นใจไรเดอร์เป็นจำนวนมาก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ก.ย. เพจ "Silapawattanatham - ศิลปวัฒนธรรม" ได้ออกมาโพสต์ให้ความรู้คำว่า "อเวจี" ที่ลูกค้ารายดังกล่าวได้ต่อว่าไรเดอร์ โดยระบุข้อความว่า "อเวจี (ที่ไม่มีปอยเปต) ขุมลึกที่สุดแห่งโลกนรก
ตามคติไตรภูมิ "โลกนรก" หรือ "นิรยภูมิ" เป็นส่วนหนึ่งของอบายภูมิหรือทุคติภูมิ 4 (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกามภูมิ) ประกอบด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล มีนรกหลายขุมซ้อนทับกันหลายชั้น แต่ละชั้นก็มีนรกบริวารรวมนับร้อยขุม
นิรยภูมิจะแบ่งออกเป็น "มหานรก" ที่มีด้วยกัน 8 ขุมใหญ่ ที่ตั้งซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ และแยกกันอย่างชัดเจนอยู่ลึกลงไปใต้โลกมนุษย์ของเรา มนุษย์ที่ทำกรรมชั่ว เมื่อเสียชีวิตจะลงไปเกิดเป็นสัตว์นรกในชั้นเหล่านี้เพื่อใช้กรรม นรกชั้นล่างสุดคือ "อเวจีนรก" ซึ่งเป็นนรกขุมลึกที่สุด สำหรับลงโทษผู้ที่มีบาปหนักที่สุด
อเวจีนรก หรือนรกอันแสนสาหัสไร้ปรานี เป็นมหานรกที่ทั้งลึกและกว้างใหญ่ที่สุด เป็นนรกสำหรับผู้ทำกรรมหนัก อันได้แก่ ฆ่าบุพการี (พ่อ-แม่) ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต และยุยงให้คณะสงฆ์แตกแยก
ขุมนรกล้อมด้วยกำแพงเหล็กที่เปลวไฟลุกท่วม สัตว์นรกจะถูกเพลิงเผาผลาญด้วยอิริยาบถต่างๆ ทั้ง นั่ง ยืน หรือนอน ตามกรรมของตน อยู่ห้องสี่เหลี่ยมและหลาวเหล็กเสียบทะลุร่างตรึงให้แน่นิ่งไม่สามารถขยับร่างกายได้ อายุของสัตว์นรกขุมนี้คือ 1 กัลป์ ซึ่งเนิ่นนานราวการเกิดและแตกดับของโลกในคติฮินดูกับพุทธศาสนา
บุคคลสำคัญที่เคยใช้กรรมอยู่ในอเวจีนรก คือ พระเทวทัต ผู้ทำอนันตริยกรรม หรือการพยายามปลงพระชนม์พระพุทธเจ้า
หลังสิ้นชีพ พระเทวทัตได้ลงมาเกิดในมหานรกขุมนี้ทันทีในร่างสัตว์นรกสูง 300 โยชน์ เสวยทุกข์ในห้องสี่เหลี่ยมพร้อมหลาวเหล็กขนาดเท่าต้นตาล แท่งแรกแทงจากข้างหลังทะลุด้านหน้า แท่งที่ 2 แทงทะลุสีข้างซ้าย-ขวา และแท่งสุดท้ายเสียบกลางศีรษะทะลุกลางลำตัวลงมาด้านล่าง โดยปลายหลาวเหล็กทุกด้านถูกยึดติดเพดานของห้องสี่เหลี่ยมนั้น"