เหตุการณ์ที่สองพี่น้องเยาวชนชาย อายุ 13 และ 15 ปี ถูกชายอ้างตัวว่าเป็นวินรถจักรยานยนต์กรรโชกทรัพย์ รีดเงินค่าโดยสารถึง 590 บาท แม้ตำรวจ สน.บางซื่อจะลากคอผู้ก่อเหตุได้แล้ว แต่สะท้อนว่าปัญหาวินเถื่อนยังไม่หมดไป แนะสังเกตเสื้อวิน ป้ายทะเบียนสีเหลืองเด่นชัด ไม่สนับสนุน จยย.ส่วนบุคคลป้ายขาว
รายงาน
อ่านประกอบ : สองเด็กชายเจอวินเถื่อนรีดทรัพย์ เจเจมอลล์ส่งหมอชิตเรียก 590 บาท ตำรวจควักเงินส่งกลับเชียงใหม่
หลังเกิดเรื่องราวสะเทือนใจในช่วงวันหยุดยาว เมื่อเย็นวันที่ 27 ก.ค. เยาวชนชาย 2 คน อายุ 13 และ 15 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้ามาร้องทุกข์ต่อตำรวจ จุดแจ้งเหตุประจำสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 ว่า ถูกชายที่อ้างตัวว่าเป็นวินรถจักรยานยนต์ที่อยู่ด้านหน้าศูนย์การค้าเจเจมอลล์ รีดเงินค่าโดยสารถึง 590 บาท
ขณะนั้น พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รองผู้กำกับการ (ปราบปราม) สน.บางซื่อ กำลังปฏิบัติภารกิจปล่อยแถวสายตรวจในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนประชาสัมพันธ์จุดรับแจ้งเหตุพอดี เมื่อพบเห็นเด็กทั้งสองคนขอความช่วยเหลือ ไม่รอช้าจึงพาไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ห้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ภายในสถานีขนส่งหมอชิต 2
ปรากฏว่าพบชายต้องสงสัยสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำคาดแดง กางเกงยีนส์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายขาว) ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแมกซ์ สีขาว มาส่งที่สถานีขนส่งดังกล่าวจริง
หลักฐานชิ้นสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ อี-สลิปยืนยันรายการโอนเงินผ่านมือถือ ที่เด็กทั้งสองคนโอนเงินไปให้ชายคนดังกล่าว 200 บาท พบว่าผู้รับปลายทางชื่อบัญชี "นายขวัญชัย" (สงวนนามสกุล)
แต่เนื่องจากเด็กทั้งสองคนยืนยันว่าจะกลับบ้านที่ จ.เชียงใหม่ เพราะซื้อตั๋วเอาไว้แล้ว เบื้องต้นจึงพาไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางซื่อ ก่อนนัดหมายให้กลับมาดำเนินคดีภายหลัง พร้อมกันนี้ พ.ต.ท.วรภัทร ควักเงินส่วนตัว 500 บาทใช้เป็นค่าอาหารระหว่างเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่
ต่อมาวันที่ 1 ส.ค. เยาวชนชายทั้งสองคนเดินทางจากเชียงใหม่มายังกรุงเทพฯ เพื่อแจ้งความเอาผิดต่อชายคนดังกล่าว โดยมี พ.ต.ท.วรภัทรให้ความช่วยเหลือ ทั้งซื้อตั๋วรถทัวร์ไป-กลับ และส่งชุดสายตรวจไปรอรับที่สถานีขนส่งมายัง สน.บางซื่อ สอบปากคำต่อหน้าพนักงานสอบสวน, พนักงานอัยการ และสหวิชาชีพฯ ตามกฎหมาย ก่อนส่งขึ้นรถทัวร์กลับเชียงใหม่วันเดียวกัน
ในวันเดียวกัน นายขวัญชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ระบุว่าเป็นวินผี เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ รับสารภาพ 2 ข้อหา คือ ใช้รถผิดประเภท นำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลรับผู้โดยสาร และไม่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ แต่ปฏิเสธข้อหาเรียกเก็บค่าโดยสารเกินราคา และกรรโชกทรัพย์ ขอไปให้การในชั้นศาล ส่วนหลักฐานโอนเงิน 200 บาท อ้างว่าเป็นค่าเสียเวลา
พ.ต.ท.วรภัทรเปิดเผยว่า ผู้เสียหายเล่าว่า ในวันเกิดเหตุถูกชายไม่ทราบชื่อ อ้างตัวเป็นวินจักรยานยนต์รับจ้าง บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดนัดจตุจักร ออกอุบายพูดจาหว่านล้อมให้ขึ้นรถจะไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต คิดราคาไม่แพง 40-50 บาท จึงนั่งซ้อนกันไป โดยเด็กขอให้แวะที่ศูนย์การค้าเจเจมอลล์ ที่อยู่ใกล้กัน ชายที่อ้างเป็นวินฯ ก็แจ้งว่ารอได้
เมื่อเด็กทั้งสองกลับออกมาจากศูนย์การค้า ชายที่อ้างเป็นวินฯ ก็พาไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต แต่เมื่อมาถึงกลับขอคิดค่าโดยสาร 590 บาท โดยคำนวณตามเวลาที่รอ เมื่อเด็กไม่มีให้ ชายดังกล่าวข่มขู่ว่าหากไม่ยอมจ่ายเงินจะทำร้ายร่างกาย และเรียกตำรวจ เด็กชายทั้ง 2 จึงกลัว ให้เงินไป 270 บาท ซึ่งเป็นเงินทั้งหมดที่มีติดตัว และเงินติดในบัญชีธนาคาร
เมื่อทราบพฤติการณ์จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในทันที สืบสวนจากเลขบัญชีที่เด็กโอนเงินให้จึงทราบตัวผู้ก่อเหตุในทันที แต่เมื่อผู้ปกครองเด็กทั้งสองคนทราบเรื่องก็ไม่สบายใจ เกรงว่าเด็กจะได้รับอันตราย จึงพูดคุยทำความเข้าใจกับเด็ก และครอบครัว โดยเด็กต้องการคืนความยุติธรรมให้ตนเองตามกฎหมาย
พร้อมกันนี้ ยังดูแลค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และช่วยเหลือค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายอื่นๆ แก่เยาวชนชายทั้งสองคน ประมาณ 4,000 บาท เพราะเห็นว่าครอบครัวของเด็กฐานะค่อนข้างลำบาก อีกทั้งตั้งใจที่อยากช่วยเหลือเด็กทั้ง 2 คนที่สู้ชีวิต พยายามหางานทำในกรุงเทพฯ ทั้งที่ยังเด็กมาก และมาโดนรังแก จึงช่วยเหลืออำนวยความสะดวกและจัดการคดีอย่างเต็มที่
“หลังดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุ ผมได้โทรศัพท์ไปแจ้งเด็ก ทั้งสองคนดีใจมากที่คนร้ายถูกดำเนินคดีแล้ว ขอบคุณตำรวจที่ช่วยเหลือ พ่อแม่ของเด็กก็ดีใจ เขาบอกว่าคิดไม่ถึงว่าตำรวจจะช่วยเหลือขนาดนี้ ดีกับพวกเขา ขอบคุณตำรวจมากๆ ผมก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ตำรวจ และช่วยเหลือพวกเขาอย่างเต็มที่” พ.ต.ท.วรภัทรกล่าว
ก่อนหน้านี้ งานป้องกันปราบปราม สน.บางซื่อ เคยกล่าวกับสื่อมวลชนว่า สำหรับวินรถจักรยานยนต์ที่ถูกต้อง ให้สังเกตจากเสื้อวิน ระบุว่าเป็นวินไหน หมายเลขอะไร อย่างที่สองคือหมายเลขทะเบียน ถ้าเป็นรถรับจ้างสาธารณะจะเป็นป้ายสีเหลือง ตัวหนังสือสีดำ แต่ถ้าเป็นป้ายขาว ตัวหนังสือสีดำ จะเป็นการใช้รถผิดประเภท ซึ่งสุ่มเสี่ยงว่าจะเป็นวินเถื่อน ไม่สนับสนุนให้ใช้บริการ เพราะยากต่อการติดตาม เมื่อเกิดเหตุร้าย ฝ่ายสืบสวนจะทำงานลำบาก
ปัญหารถจักรยานยนต์รับจ้างเถื่อน หรือวินผี คิดค่าโดยสารที่สูงเกินจริง ยังคงเกิดขึ้นในปัจจุบัน แม้จะมีการจัดระเบียบมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะย่านสถานีขนส่งหมอชิต 2 และย่านสวนจตุจักร ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านที่มีประชาชนเดินทางหนาแน่น เพื่อมาขึ้นรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาล แม้จะกวดขันอย่างจริงจังก็ไม่หมดไป
จึงเป็นเรื่องที่ผู้จะเดินทาง หรือใช้บริการรถทัวร์ บขส.ไปต่างจังหวัดต้องรู้เท่าทัน และระมัดระวังในการใช้บริการ
หมายเหตุ : วิธีสังเกตและเลือกใช้วินจักรยานยนต์ถูกกฎหมาย
1. สังเกตป้ายชื่อวิน และมีอัตราค่าโดยสารระบุไว้ชัดเจน ลักษณะเป็นป้ายไวนิลสีขาว ด้านบนแถบสีส้ม และมีข้อแนะนำผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง แถบสีน้ำเงิน พร้อมเบอร์โทร.สำหรับร้องเรียนอยู่ด้านล่างสุด
2. เสื้อวินต้องมีป้ายชื่อและสังกัดชัดเจน ถ้าเป็นวินเถื่อน เสื้อวินจะไม่ติดป้ายชื่อ ไม่บอกสังกัด หรือพยายามอำพรางตัว โดยการใส่เสื้อคลุมทับเสื้อวิน เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารสังเกต
3. รถจักรยานยนต์ที่ใช้ต้องเป็นป้ายทะเบียนสีเหลือง ตัวหนังสือสีดำเท่านั้น
4. หากไม่แน่ใจให้ถามราคาก่อนขึ้น