xs
xsm
sm
md
lg

"หมอมนูญ" ถาม 1 ก.ค.จะกำหนดโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นจริงหรือ หลังพบคนไข้โควิดเพิ่มขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพทย์โรงพยาบาลวิชัยยุทธตั้งคำถามถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเด็นกำหนด 1 ก.ค. จัดโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น วอนทบทวนใหม่หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น แนะเลื่อนจนกว่าสถานการณ์คลี่คลายจะดีกว่า ชี้แม้ฉีดเข็ม 5 ตอนนี้ก็เสี่ยงติด แค่ไม่ตายเท่านั้น

วันนี้ (30 มิ.ย.) เฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” หรือ นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็น วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 โควิด-19 จะกลายเป็นแค่โรคประจำถิ่นได้จริงหรือ โดย "หมอมนูญ" ได้ระบุข้อความว่า

"วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ไทยกำลังก้าวเข้าสู่การพ้นการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ไวรัสโควิด-19) เป็นโรคประจำถิ่นตามแผนของกระทรวงสาธารณสุขจริงหรือ ถ้าจะเลื่อนวันประกาศไปอีกสักพักจนสถานการณ์คลี่คลายกว่านี้ก็น่าจะดี ทุกโรงพยาบาลใน กทม.ขณะนี้รับคนไข้โรคโควิดเพิ่มขึ้น โรงพยาบาลวิชัยยุทธต้องกลับมาเปิดหอผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 1 วอร์ด หลังจากที่เคยปิดไปแล้ว ผู้ป่วยที่รับมาการรักษาส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เนื่องจากได้รับวัคซีนมาก่อนหน้านี้

ขอให้ทุกคนกลับไประมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงสถานที่มีคนแออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ และพิจารณาว่าถึงเวลาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือยัง

ผมเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ยังไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ต้องระมัดระวังตัวเอง ไม่ให้ติดเชื้อและแพร่เชื้อให้คนไข้ซึ่งอ่อนแอและมีโรคประจำตัวหลายโรค ผมได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม และโมเดอร์นา 1 เข็ม รวมทั้งหมด 4 เข็ม เข็มสุดท้ายปลายเดือนพฤศจิกายน 2564

เดือนมกราคม 2565 ผมตรวจภูมิคุ้มกันแอนติบอดีในเลือด SARS-CoV2 IgG (Anti Spike) สูงกว่า 40,000 ซึ่งถือว่าระดับสูงมาก วันที่ 27 มิถุนายน 2565 ผมตรวจภูมิคุ้มกันแอนติบอดีล่าสุด SARS-CoV2 IgG (Anti Spike) ลดลงเหลือ 7,418 เป็นธรรมชาติที่ภูมิคุ้มกันแอนติบอดีในเลือดจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไปหลายๆ เดือน

ผมจึงตัดสินใจฉีดวัคซีนโมเดอร์นาเข็มกระตุ้นอีก 1 เข็ม เป็นเข็มที่ 5 และจะไม่ฉีดวัคซีนรุ่นปัจจุบันต่อจากนี้ จะรอวัคซีนป้องกันโรคโควิดรุ่นใหม่ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม อาจจะมาปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ทุกคนต้องยอมรับความจริงว่า ต่อให้ฉีดวัคซีน 5 เข็มก็ต้องระวังตัวเพราะยังมีโอกาสติดเชื้อ แต่จะช่วยลดอาการไม่ให้ป่วยหนักถึงขั้นเสียชีวิตได้"
กำลังโหลดความคิดเห็น