นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ แนะสำหรับผู้ที่ไม่เคยได้วัคซีน mRNA แล้วติดเชื้อ"โอมิครอน" ควรรับเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA อีก 1 เข็ม หรือส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีน mRNA 3 เข็ม หลังติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน อาจจะไม่จำเป็นต้องไปรับเข็ม 4 แล้ว
วันนี้ (24 มิ.ย.) เฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” หรือ นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาโพสต์ให้ข้อมูลในเรื่องวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยระบุว่า "เป็นที่ทราบดี ถึงแม้จะฉีดวัคซีน 3 เข็มหรือ 4 เข็มก็ยังอาจติดเชื้อได้ แต่ความรุนแรงของโรคโดยเฉพาะคนที่ได้รับเข็มกระตุ้น mRNA จะน้อยกว่าคนที่ไม่เคยรับ mRNA แม้แต่เข็มเดียว
สำหรับคนที่ได้รับวัคซีน mRNA 3 เข็ม หรือวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็มตามด้วย mRNA 1 เข็ม หลังติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน อาจจะไม่จำเป็นต้องไปรับเข็ม 4 เพราะมีภูมิคุ้มกันแข็งแรงมากจากภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีน 3 เข็มบวกกับภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อธรรมชาติ แต่คนที่ไม่เคยได้วัคซีน mRNA เช่นได้รับซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยแอสตร้าเซเนก้า 1 เข็ม หรือได้รับแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม แล้วติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ควรรับเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA อีก 1 เข็ม
ผลข้างเคียงของวัคซีน mRNA ไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา มีเจ็บแขนบริเวณที่ฉีด แขนบวม อ่อนล้า ปวดตัว ปวดหัว มีไข้ 1-2 วัน สำหรับกล้ามเนื้อหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบส่วนใหญ่เกิดในผู้ชายวัยรุ่นถึงอายุ 39 ปีหลังจากได้รับวัคซีน mRNA เข็มที่ 2 และส่วนใหญ่อาการไม่หนัก และหายเอง โอกาสเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการฉีดวัคซีน mRNA น้อยมาก ๆ น้อยกว่าการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาก
การฉีดวัคซีน mRNA เป็นเข็มที่ 3 หรือ 4 พบอุบัติการณ์เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้น้อยกว่าการฉีด mRNA เข็มที่ 2"
คลิก>>อ่านโพสต์ต้นฉบับ