สาวรายหนึ่งอ้างตัวเป็นผู้จัดการสาขาร้าน "บุฟเฟต์แซลมอน" ชี้แจงปัญหาของร้านแบบละเอียด ชี้ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ จากเจ้าของบริษัท ปัจจุบันความหวังยังริบหรี่ ฝากถึงบอสออกมาเผชิญกับความจริง
จากกรณีคนรักบุฟเฟต์โวย ร้านดารุมะ ซูชิ ตำรับบุฟเฟต์แซลมอน ปิดร้านอย่างไม่มีกำหนด คนซื้อคูปองล่วงหน้า 199 บาทเดือดร้อน ขณะที่ผู้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์พยายามติดต่อเจ้าของเพื่อชี้แจง จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก
ล่าสุดวันนี้ (19 มิ.ย.) มีรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งอ้างว่าเป็นผู้จัดการสาขาของร้าน "บุฟเฟต์แซลมอน" ชื่อดัง โดยได้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมยืนยันว่า พนักงาน เจ้าของแฟรนไชส์ไม่ทราบมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ และมารู้ในเช้าของวันที่ 17 มิ.ย. หลังเจ้าของบริษัทได้ดีดตัวเองออกจากไลน์กรุ๊ปทั้งหมด และไม่มีใครสามารถติดต่อได้ โดยมีรายละเอียดข้อความที่โพสต์เอาไว้ว่า
"จากหลายๆ ความคิดเห็นในโซเชียล มีการพาดพิงถึงพนักงาน ร้านเราคือหนึ่งในผู้จัดการสาขา ขออธิบายแบบนี้นะคะ พนักงาน รวมถึงเจ้าของแฟรนไชส์ทุกท่าน ไม่มีการทราบมาก่อนจริงๆ ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ พวกเราเพิ่งมารู้ในเช้าวันที่ 17 หลังจากเจ้าของบริษัทได้ดีดตัวเอง ออกจากไลน์กรุ๊ปทั้งหมด และไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้
เราจึงมีการปรึกษากันในกลุ่มผู้จัดการว่าจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ายังไง จึงได้ฉันทามติร่วมกันว่า ปิดให้บริการ 1 วัน เพราะยังมีความหวังว่าจะสามารถติดต่อเจ้าของบริษัทได้ค่ะ (จนถึงนาทีนี้ก็ยังหวังอยู่แม้จะรู้ว่าริบหรี่เหลือเกิน)
ลูกค้าหลายๆ ท่านกระหน่ำโทร.เข้าสอบถามสาเหตุจากพนักงาน “ระบบส่วนกลางล่ม” จึงกลายเป็นคำตอบที่พวกเราคิดขึ้นได้ ขณะนั้นค่ะ เพราะพวกเราก็ยังไม่รู้ว่าจะให้คำตอบกับลูกค้ายังไงดี ถ้าจะบอกว่าเพราะติดต่อเจ้าของบริษัทไม่ได้ แล้วถ้าจู่ๆ เขาโผล่กลับมาดำเนินกิจการต่อ ก็กลัวจะมีปัญหาต่อหน้าที่การงาน
ขอยืนยันว่า ทั้งตัวพนักงาน และหุ้นส่วนสาขาแฟรนไชส์ทุกท่าน พวกเราไม่มีส่วนรู้เห็น หรือวางแผนกันมาก่อน วันที่ 16 เรายังเปิดร้านรับลูกค้าตามปกติ ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ค่ะ ที่ตั้งข้อสังเกตว่าทุกสาขาพร้อมใจกันปิด นั่นเป็นการตัดสินใจเฉพาะหน้าของพวกเรา
เนื่องจากทางซัปพลายเออร์ไม่ส่งวัตถุดิบให้สาขา เพราะทางบริษัทยังมียอดหนี้เก่าติดค้างอยู่ ไม่มีวัตถุดิบ แล้วจะเปิดร้านยังไง ที่ตั้งข้อสังเกตว่า ป่านนี้ทำไมพนักงานยังเงียบอยู่ แล้วขอถามกลับว่า ถ้าพวกคุณมาอยู่ในสถานะพนักงานอย่างพวกเรา จะทำอะไรได้บ้าง
ตอนนี้พวกเรากำลังตั้งหลัก รวบรวมสติ ว่าจะเอาอย่างไรกันต่อ แต่ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า คงทำอะไรมากไม่ได้ไปกว่าการฟ้องกรมแรงงาน รับเงินเยียวยาอันน้อยนิดจากประกันสังคม หรือมันมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหมคะ ถ้าใครมีความรู้เรื่องสิทธิแรงงาน ขอความเมตตา ชี้แนะพวกเราด้วย มีทั้งแรงงานคนไทย และต่างชาติค่ะ
โดยเฉพาะแรงงานต่างชาติยิ่งน่าเห็นใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนได้ยื่นเรื่อง และเสียเงินดำเนินการเรื่องการทำเอกสารไปแล้วครึ่งทาง แล้วโดนเทกลางอากาศ พวกเขาจะเอาอะไรกิน คำถามนี้ดังในหัวตลอดเวลา เพราะเราเป็นผู้จัดการสาขา คลุกคลีอยู่กับพนักงาน มันมีความผูกพันกันมาก มันเจ็บปวดมากค่ะ ตอนเรียกประชุม และต้องแจ้งข่าวร้ายแก่พวกเขา พิมพ์ไปร้องไห้ไป
บริษัทนี้ ไม่มีทีมบริหาร ไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล บัญชี หรืออะไรเลยค่ะ (หรืออาจจะมี อยู่มา 3 ปีไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ประสานงาน ทุกอย่างทำเองหมด) อำนาจบริหาร การตัดสินใจทั้งหมด อยู่ที่ตัวเจ้าของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว
พอเจ้าของบริษัทหายไป มันจึงล้มทั้งระบบ ลูกค้าท่านไหนที่ซื้อคูปองไว้ แล้วรู้สึกกังวลว่าจะโดนฉ้อโกง ท่านสามารถไปแจ้งความได้เลย ตามดุลพินิจนะคะ ไม่ต้องพยายามโทร.เข้าเบอร์สาขา เพราะพนักงานก็ไม่มีคำตอบให้แม้แต่อนาคตตัวเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ดิฉันก็ขอกราบขอบพระคุณ ลูกค้าทุกท่าน ที่เคยมาใช้บริการร้านดารุมะ เพราะพวกท่านเราจึงมีงานทำ มีเงินเดือนใช้มาตลอด ไม่นึกไม่ฝันจริงๆ ค่ะ ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทั้งเสียใจ ทั้งสงสารลูกน้อง ทั้งควรจะสงสารตัวเองก่อนดีไหม สับสนไปหมด
ขออนุญาตเพิ่มเติม อยากฝากถึงเจ้าของบริษัท ที่ดิฉันเรียกเขาว่า Boss นะคะ ถ้า Boss ได้เข้ามาอ่าน ก็อยากให้กลับมาเผชิญความจริงแก้ปัญหา หนูเชื่อว่าเรื่องนี้ มันยังพอมีทางออกที่ดีกว่านี้สำหรับทุกคน
หนูยังไม่ลืมตอนที่ตกงานในวิกฤตโควิด รอบแรก โซซัดโซเซ มาอยู่กับ ดารุมะ Boss ก็อ้าแขนรับไว้ และเป็นเจ้านายที่ดีมากๆ หนูรู้ว่าบริษัทเราไม่ได้มีกำไร Boss พูดเสมอว่าสู้ต่อเพื่อลูกน้อง เพื่อให้มีการจ้างงาน จนถึงวันนี้ นึกถึง Boss มันยังไม่มีความโกรธเกลียดเลยค่ะ ยังรักอยู่เหมือนเดิม"