ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ออกมาเปิดเผยผลการศึกษาการติดเชื้อในเด็ก 5-6 ขวบก่อนได้รับวัคซีนมีมากกว่าที่คิด และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นโดยเป็นการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ
วันนี้ (9 พ.ค.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเพจส่วนตัว "Yong Poovorawan" ในประเด็นการติดเชื้อในเด็ก ก่อนได้รับวัคซีนมากกว่าที่เราคิด โดยได้ระบุข้อความว่า
"การติดเชื้อมีทั้งมีอาการและไม่มีอาการ การสำรวจการติดเชื้อในประชากรมีเป็นจำนวนเท่าไหร่แล้ว ในอเมริกาจะตรวจ anti-nucleocapsid ของไวรัส พบว่ามีการติดเชื้อไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่งของประชากร
สำหรับประเทศไทย การตรวจดังกล่าวไม่สามารถทำได้ ประเทศที่ฉีดวัคซีนเชื้อตาย ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจะมีภูมิทั้งตัวไวรัส ไม่ใช่เฉพาะแค่สไปค์เท่านั้น จะตรวจพบ anti-nuclecapsid ด้วย จึงแยกไม่ได้ว่าภูมิที่ตรวจพบนี้เกิดจากการติดเชื้อ หรือเกิดจากการได้รับวัคซีนเชื้อตาย
ดังนั้น ทางศูนย์ที่ผมทำการศึกษาอยู่อยากทราบว่ามีการติดเชื้อไปแล้วเท่าไหร่ จึงสามารถทำได้เฉพาะในเด็ก โดยเฉพาะในเด็กที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน การสำรวจจึงใช้ประชากรเด็ก ที่อายุ 5-6 ขวบก่อนการฉีดวัคซีนตามกำหนดของประเทศไทย เพื่อให้ทราบอัตราการติดเชื้อไปแล้วว่าเป็นเท่าไหร่
จากการศึกษา เด็กปกติในโครงการของศูนย์ที่ติดตามภูมิต้านทานของวัคซีนไอกรน ในจำนวนนี้มีการติดเชื้อแบบมีอาการ และไม่มีอาการ จะเห็นว่าภาพรวมการติดเชื้อในเด็ก 5-6 ขวบ ในช่วงที่มีการระบาดของเดลตา จะพบว่าเด็ก 5-6 ขวบติดเชื้อไปแล้วประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ พอมาช่วง omicron พบการติดเชื้อในเด็กไปแล้วถึง 17% กว่าครึ่งหนึ่งเป็นการติดเชื้อเป็นแบบไม่มีอาการ ตรวจเลือดพบร่องรอยการติดเชื้อ คือตรวจพบ anti-nucleocapsid เด็กกลุ่มนี้ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
เมื่อมาดูประชากรอีกกลุ่ม เป็นอาสาสมัครมาฉีดวัคซีน ในกลุ่มต่างๆ ในโครงการศึกษาภูมิต้านทานของวัคซีนในเด็ก เด็กกลุ่มนี้จะไม่มีประวัติ หรือมีอาการการติดเชื้อ covid-19 มาก่อน แต่เมื่อมาตรวจเลือดก่อนฉีดวัคซีนจะตรวจพบการติดเชื้อมาแล้ว โดยตรวจพบภูมิต้านทาน anti-nucleocapsid และภูมิต้านทานต่อสไปค์โปรตีนแล้ว แสดงถึงการติดเชื้อมาแล้ว ดังในรูปที่ 2 ตรวจพบการติดเชื้อแบบไม่มีอาการถึงร้อยละ 8
แสดงว่าในระยะเวลาที่ผ่านมาในเด็กเล็กติดเชื้อไปแล้ว มีแนวโน้มที่จะมากขึ้นมาโดยตลอด และเป็นการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ เด็กก็จะสามารถสร้างภูมิต้านทานได้ ในเด็กโตและผู้ใหญ่ ประชากรไทยน่าจะมีการติดเชื้อไปแล้วเป็นจำนวนมาก จำนวนมากจะเป็นการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย ร่างกายก็จะสร้างภูมิต้านทานขึ้น เป็นอีกแรงหนึ่งในการช่วยการสร้างภูมิ เป็นวัคซีนธรรมชาติที่เกิดขึ้น และในอนาคตผู้ที่เคยติดเชื้อไปแล้ว ถึงแม้จะติดโรค ความรุนแรงของโรคก็จะลดลง
การสำรวจการติดเชื้อไปแล้วมีประโยชน์อย่างยิ่งที่จะนำมาใช้ในการวางแผนควบคุมโรค covid-19 โดยใช้องค์ความรู้มาประกอบ ศูนย์ที่ผมทำอยู่กำลังมีโครงการที่จะดำเนินการในแนวกว้าง แต่จะทำได้ยากจากการตรวจเลือดในผู้ใหญ่ เพราะบ้านเรามีการฉีดวัคซีนเชื้อตายเป็นจำนวนมาก จะต้องใช้ประวัติการป่วย การสัมผัสโรค ประวัติวัคซีนและการตรวจเลือด"