นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ได้มอบนโยบายให้กรมการค้าภายใน เร่งดำเนินการเข้าไปรับซื้อผลผลิตพืชหัว 3 ชนิด ได้แก่ หอมหัวใหญ่ หอมแดง และกระเทียม จากกลุ่มเกษตรกร จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน และศรีสะเกษ เป็นการล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นฤดูการผลิตในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในราคานำตลาด ผ่านกลไกเกษตรพันธสัญญา หรือ อมก๋อยโมเดล โดยรับซื้อปริมาณรวม 9,360 ตัน
ประกอบด้วย 1) หอมหัวใหญ่ 3,630 ตัน 2) หอมแดง 210 ตัน และ 3) กระเทียม 5,520 ตัน เพื่อกระจายไปยังห้างค้าส่ง-ค้าปลีก โรงงานแปรรูป ตลาดกลางสินค้าเกษตร รวมไปถึงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ดำเนินการตามมาตรการบริหารจัดการผลผลิตส่วนเกิน (Over Supply) ควบคู่กับอมก๋อยโมเดล
อาทิ โครงการบริหารจัดการตลาดพืชหัว ปี 2565 สนับสนุนค่าบริหารจัดการคุณภาพและเชื่อมโยงกระจายผลผลิต โครงการบริหารจัดการพืชหัวเพื่อชะลอการจำหน่าย ปี 2565 สนับสนุนค่าบริหารจัดการรับซื้อ รวบรวม และรักษาคุณภาพเก็บสต๊อกในห้องเย็น และมาตรการกำกับดูแลการนำเข้า เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการเชิงรุกข้างต้น ส่งผลให้ราคาราคาพืชหัว 3 ชนิด ในปี 2565 ปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง (หอมหัวใหญ่เกรดคละจากราคา 6.75 บ./กก เป็นราคา 12-15 บ./กก. หอมแดงเกรดคละจากราคา 5-6 บ./กก. เป็นราคา 9-10 บ./กก. และกระเทียมเกรดคละจากราคา 10.90 บ./กก. เป็นราคา 12-13 บ./กก.) และทำให้ให้พี่น้องเกษตรกรมีความมั่นใจว่าจะมีตลาดรองรับผลผลิตตลอดฤดูกาล
โดยในวันนี้ (22 เม.ย.) ภายใต้มาตรการอมก๋อยโมเดล กรมฯ ได้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินการส่งมอบพืชหัว 3 ชนิด ภายหลังจากที่ได้ลงนามสัญญารับซื้อแล้ว ให้กับบริษัทผู้จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง 4 รายใหญ่ ประกอบด้วย พีที บางจาก พีทีที สเตชั่น และเชลล์ ซึ่งจะเป็นการช่วยกระจายผลผลิตให้เกษตรกร ในปริมาณกว่า 1,200 ตัน เพื่อนำมามอบเป็นของสมนาคุณให้กับผู้ใช้บริการ โดยจะแจกระหว่างวันที่ 22-25 เม.ย. 65 หรือจนกว่าของจะหมด ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคใต้ กว่า 1,000 สาขา
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากมาตรการที่กรมฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตร ในการช่วยเหลือเกษตรกรกระจายผลผลิตในครั้งนี้ นอกจากจะสามารถช่วยให้พืชหัว ทั้ง 3 ชนิด ทั้งหอมหัวใหญ่ หอมแดง และกระเทียม มีราคาที่ดีขึ้นตลอดฤดูการผลิตแล้ว ยังทำให้ผู้บริโภคที่มาใช้บริการเติมน้ำมันยังมีโอกาสได้ช่วยเหลือเกษตรกรอีกด้วย