เพื่อนร่วมงาน "บอย อนันต์" ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งพรรคอนาคตใหม่ เผยไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของเพื่อน และไม่อยากให้มองสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนน่าสงสัย หรือเป็นอำนาจรัฐทำ ย้ำเห็นใจตำรวจ
จากกรณีพบคนผูกคอเสียชีวิตที่ศาลารอรถข้างป้อมตำรวจ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายอนันต์ โลเกตุ อายุ 27 ปี หรือบอย นักกิจกรรมด้านการเมือง และพบว่าก่อนหน้าเพียง 1 วัน บอยเพิ่งมาร่วมกิจกรรมสัมมนาพรรคก้าวไกล และล่าสุดผลชันสูตรระบุเป็นการผูกคอตายเอง ทำให้ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต ไม่พบร่องรอยบาดแผลที่บ่งชี้ว่ามีการทำร้ายร่างกาย ด้านแม่ผู้ตายไม่ติดใจ แม้ยังไม่ทราบสาเหตุลูกชายคิดสั้น เตรียมนำศพลูกกลับบ้าน จ.ร้อยเอ็ด ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. เฟซบุ๊ก "Supachai Siangjun" หรือนายศุภชัย เสียงจันทร์ ระบุทำงานสื่อให้พรรคก้าวไกล ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นส่วนตัวในกรณีดังกล่าว "ผม ศุภชัย เสียงจันทร์ ทำงานสื่อให้พรรคก้าวไกล ขอกล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของบอย อนันต์ โลเกตุ เพื่อความเข้าใจตรงกัน ป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อข่าวทั้งหมด
0. ผมเป็นเพื่อนร่วมงานกับบอยตั้งแต่เริ่มต้นตั้งพรรคอนาคตใหม่ นั่งโต๊ะติดกันมาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ พอย้ายมาก้าวไกลและย้ายออฟฟิศ ก็ยังนั่งเยื้องๆ กัน พบเจอกันทุกวัน / ก่อนหน้านั้นเป็นเพื่อนนักกิจกรรมด้วยกันมา รู้จักห่างๆ ก็เมื่อคดีประชามติ 2559 ตอนนั้นผมเป็นผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง
1. ผมติดตามการหายตัวไปของบอยตั้งแต่ 18 เมษายน 2565
2. วันที่ 19 เมษายน รับแจ้งเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ว่าพบศพบอยแขวนคอเสียชีวิต โดยผู้พบศพคนแรกในช่วงเวลาประมาณ 03.42 น. ของวันเดียวกัน ที่ศาลาข้างทาง ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา
3. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ชันสูตรพลิกศพในสถานที่เกิดเหตุขณะเก็บศพ เป็นไปตามกฎหมาย
4. เมื่อย้อนไปดูเส้นทางและเวลาที่บอยออกจากโรงแรม พบกล้องวงจรปิดว่าบอยออกจากโรงแรมประมาณ 12.20 น. ของวันที่ 18 เมษายน 2565 และเดินเท้า+ขึ้นรถโดยสาร ไปทางถนน 226 ไปทาง อ.เฉลิมพระเกียรติ และพบอีกทีก็เมื่อเสียชีวิตแล้วในช่วงเช้ามืดวันถัดมา
5. วันนี้ (20 เมษายน 2565) ช่วงเย็น ทางญาติ (แม่) และตัวแทนพรรคได้เข้าร่วมฟังผลเบื้องต้นการผ่าศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ได้ความว่า เป็นการฆ่าตัวตาย จากการขาดอากาศหายใจโดยการแขวนคอด้วยตนเอง เนื่องจากไม่มีรอยแผลบ่งชี้ว่ามีการทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุหลักให้เสียชีวิต อาจมีรอบขีดข่วนบ้าง แต่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต ไม่มีหลักฐานทางกายภาพว่ามีการต่อสู้ขัดขืนใดๆ
6. หลังจากฟังผลแล้ว ตัวแทนพรรคและญาติไม่ติดใจแล้วว่าบอยฆ่าตัวตายโดยเจตจำนงของตัวเอง ทางแม่ต้องการศพลูกไปประกอบพิธีตามประเพณีต่อไปในทันที
7. คหสต. ผมเองไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนน่าสงสัย หรือบอกว่าเป็นอำนาจรัฐทำ ฯลฯ เพราะผลการผ่าศพนี่ค่อนข้างชัดเจน และยิ่งสังคมตั้งข้อสงสัยมาก ยิ่งทำให้ตำรวจต้อง play safe ตัวเอง โดยการอายัดศพและตรวจสอบละเอียดยิบทุกอย่างจนกว่าสังคมจะสิ้นสงสัย ใช้เวลาอีกเป็นสัปดาห์ๆ ทั้งที่ผลการผ่าก็ชัดเจนมากแล้ว
8. เรื่องนี้เห็นใจตำรวจ และทางออกเดียว เห็นว่าทางตำรวจ + หมอ "ฝั่งเรา" ที่ไว้ใจได้ ต้องร่วมกันชี้แจงให้สังคมสิ้นสงสัยถึงข้อเท็จจริง หลักฐานที่ปรากฏ ฯลฯ สังคมต้องไม่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็น News Show ที่เป็นดรามาอะไรใหญ่โตจนการสืบสวนสอบสวนไถลออกไปนอกเส้นเรื่องกลายเป็น conspiracy จนเกินสมควร -> เคารพบอย เคารพญาติ
9. วันพรุ่งนี้ คาดว่า ส.ส.หมอเก่ง วาโย อัศวรุ่งเรือง ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช จะไปร่วมตรวจสอบยืนยันอีกครั้ง เพื่อความสบายใจของสังคม
10. ส่วนเรื่องมูลเหตุการฆ่าตัวตาย ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าตัว ไม่ว่าเหตุผลอะไร ก็เคารพการตัดสินใจทั้งนั้น
11. ตามกระแสข่าวที่บอกว่าไม่มีเหตุผลของการฆ่าตัวตาย ก็อาจถูกแค่ครึ่งเดียว เพราะบอยก็เคยบอกกับเพื่อนๆ ว่า "ไม่มีเหตุผลจะอยู่" - "พร้อมจะไป" เหมือนกัน และประกอบกับข้อความที่บอยส่งให้เจ้าของห้องพักก่อนหน้าจะเกิดเหตุหลายวันว่าเขาจะเช่าเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้าย... เหตุการณ์ครั้งนี้คือความตั้งใจของบอย ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบหรือการฆาตกรรมอำพรางอะไรทั้งนั้นแหละ"