พี่สาวของเท้าแชร์วัย 29 ปีที่จบชีวิตตัวเองในรถยนต์ย้ำทุกคนในครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเพิ่งทราบเรื่องว่าไปสร้างบ้านแชร์แล้วทำแชร์ล้มเมื่อวันเกิดเหตุ วอนอย่าคุกคาม ทักแชตทวงหนี้ ย้ำหนี้ติดค้างจบสิ้นลงแล้วตั้งแต่น้องสาวเสียชีวิต แค่นี้ก็เสียใจและทุกข์ใจแล้ว อีกด้านเตือนสังคม วงแชร์เท่ากับวงจรอุบาทว์ เลิกได้ก็เลิก
วันนี้ (21 เม.ย.) ในโลกโซเชียลฯ ได้แชร์ภาพของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pornnapa Som ซึ่งเป็นพี่สาวของ น.ส.วิจิตรา พุ่มจันทร์ อายุ 29 ปี ที่เสียชีวิตจากการรมควันฆ่าตัวตายในรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ก่อนที่พลเมืองดีจะพบรถจอดอยู่ภายในวัดเมื่อเวลา 23.00 น. คืนวันที่ 19 เม.ย. ยืนอยู่หน้ารูปศพ น.ส.วิจิตรา ที่ทำพิธีสวดพระอภิธรรมภายในวัดแสงสิริธรรม ถนนท่าอิฐ-ไทรม้า ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยโพสต์ข้อความระบุว่า "แจ้ง... ครีมตัดสินใจหนีปัญหาด้วยวิธีนี้ เพราะบ้านแชร์ของครีมล้ม รวมยอดความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 30 ล้าน
ทุกคนในครอบครัวครีม รวมถึงซูมและส้ม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับบ้านแชร์ดังกล่าว พวกเราเพิ่งรู้ว่าครีมสร้างบ้านแชร์ และแชร์ล้ม ก็เมื่อวันที่เกิดเหตุ (19 เม.ย. 2565)
ใครที่มีหนี้ติดค้างใดๆ หรือได้รับผลกระทบด้านใดจากครีม ขอให้รู้ไว้ตรงนี้ว่ามันได้จบสิ้นไปแล้วตั้งแต่ครีมเสียชีวิต กรุณาอย่าคุกคาม หรือสร้างความหนักใจให้กับพวกเรา ไม่ว่าจะด้วยการทักข้อความเพื่อทวงถามการชดใช้หนี้จากครอบครัวครีม รวมถึงซูมและส้ม (ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนี้และปัญหาของท่าน) อย่าให้ทนไม่ไหว
ในวันที่พวกคุณตกลงร่วมลงทุนทำอะไรกับครีม พวกคุณไม่เคยมาปรึกษาพวกเรา ไม่มีการบอกกล่าวให้พวกเราทราบแม้แต่น้อย ธุรกรรมการเงินต่างๆ คุณก็ทำไปที่ครีมทั้งหมด เพราะฉะนั้นในวันที่เกิดปัญหา คุณก็ไม่ควรจะมาคุกคามหรือทวงถามใดๆ ซึ่งมันเป็นการรบกวนจิตใจพวกเรา เพราะวันนี้พวกเราก็เสียใจและทุกข์ใจกับการสูญเสียคนที่เรารักมากพอแล้ว
ในส่วนของส้ม ไม่มีอะไรเสียหายจากครีม ครีมไม่เคยมาชักชวนส้มไปร่วมทำอะไรแบบนี้ (เพราะครีมรู้ดีว่าส้มไม่ชอบ) และครีมกับส้มจะติดต่อพูดคุยกันเฉพาะใน messenger ของ facebook เท่านั้น ส้มไม่เคยอยู่ในกลุ่ม Line หรือกลุ่มใดๆ ที่เกี่ยวกับบ้านแชร์ของครีม (สามารถเช็ก Account ของส้มจากในกลุ่มต่างๆ ได้) ขอย้ำ พวกเราเพิ่งรู้เรื่องนี้ในวันที่เกิดเหตุ
ส่วนอันนี้ขอเตือน เราเห็นมาเยอะมากๆ ใครก็ตามที่เข้ามาในวงการนี้ ถอนตัวเถอะค่ะ เลิกได้เลิกเถอะ เพราะจุดจบส่วนใหญ่ มีแต่ตาย, ไม่ก็ล้มละลาย, ชีวิตครอบครัวพัง / ทุกอย่างที่กล่าว มันเกิดขึ้นแน่ๆ แค่จะช้าหรือเร็ว
วงแชร์ = วงจรอุบาทว์ #หลับให้สบายนะครีม"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ก่อนหน้านี้ น.ส.วิจิตรา โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 19 เม.ย. เวลา 13.44 น. ระบุว่า "ขอโทษนะซูม ครีมทำทุกอย่างพังอีกแล้ว วันเวลาของความสุขไม่มีอีกแล้ว ครีมยิ่งดิ้นที่จะเป็นเมียที่ดี ครีมก็ยิ่งพลาด จนพลาดครั้งใหญ่สุดในชีวิต ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับครีม ซูมและครอบครัวเราไม่เคยรับรู้ อยากอยู่จนถึงวันที่รถบัสเรียกแม่ได้ ครีมก็ไม่สามารถทำมันให้เป็นจริงได้ พยายามแก้ไขก็เหมือนเดิม วนทำผิดซ้ำๆ เรารักเธอมาก เรามีความสุขที่ได้ช่วยเธอจ่ายโน่นนี่นั่น ทั้งๆ ที่เธอก็เลี้ยงเราได้ตลอด เราดิ้นทำไมไม่รู้ เราทำอีกหลายๆ คนผิดหวัง จนเรารับตัวเองไม่ได้ แล้วเราอยากสู้ต่อ แต่มันหมดเวลาของความสุขแล้ว เราพาความเดือดร้อนมาให้พ่อแม่เราอีกแล้ว เราไม่มีหน้า ไม่มีลมหายใจจะกลับไปให้พวกเขาเห็นหน้าแล้ว พี่ส้มหนูขอโทษ พี่สา พี่หมุ่ม ให้ใจหนูมาเกิน 100% แต่หนูทำพี่ผิดหวัง เพื่อนมิลค์ เพื่อนกวาง อีฟ เราทำผิดพลาดอีกแล้ว พี่นกหนูรักพี่นะ คิส เราทำเธอหมดใจกับเราแล้ว"
ต่อมานายภาณุพงศ์ เรืองมาลัย อายุ 29 ปี สามีผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเจ้าของร้านทำท่อไอเสียรถยนต์ ได้เห็นภรรยาขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาวออกจากบ้านเมื่อบ่ายวันที่ 19 เม.ย. กระทั่งกลุ่มเพื่อนของภรรยามาหาที่บ้านเพื่อทวงถามเรื่องเงิน เมื่อสอบถามจึงทราบว่าภรรยาแอบไปเป็นเท้าแชร์กับกลุ่มเพื่อน วงเงินกว่า 20 ล้านบาท จึงได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อแต่ก็ไม่ยอมรับสาย กระทั่งได้เห็นข้อความข้างต้น จึงออกตามหาและแจ้งความกับตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี ให้ช่วยตามหาอีกทาง กระทั่งเวลา 23.00 น. พลเมืองดีพบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว จอดอยู่ภายในวัดแสงสิริธรรม จึงรีบมาดู ปรากฏว่าภรรยาใช้วิธีรมควันในรถจนขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตในที่สุด