รถไฟฟ้าบีทีเอสชี้แจงกรณีนักท่องเที่ยวถ่ายคลิปถอดหน้ากากอนามัยและเต้นบนรถไฟฟ้าลงในติ๊กต็อก กำชับเจ้าหน้าที่ทุกสถานีเพิ่มความเข้มงวด พร้อมขอความร่วมมือผู้โดยสารปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส ออกเอกสารข่าวลงวันที่ 18 เม.ย. ชี้แจงกรณีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นได้เผยแพร่คลิป ถอดหน้ากากอนามัยกลางที่สาธารณะ และบนรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมเปิดเพลงเต้นภายในขบวนรถ และฉีดน้ำใส่ผู้โดยสาร ผ่านแอปพลิเคชันติ๊กต็อก (@shizu0405fc3) ทำให้คลิปดังกล่าวมีการแชร์บนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว และได้สร้างความไม่สบายใจแก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการอยู่ในขณะนั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งการกระทำดังกล่าวขัดต่อมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ของบริษัทฯ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สถานี และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าตักเตือนทันทีที่เห็นเหตุการณ์
จากเหตุการณ์ดังกล่าวบริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกจุดทุกสถานีของรถไฟฟ้าบีทีเอสเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก ทั้งนี้ ในปัจจุบันรถไฟฟ้าบีทีเอสยังเน้นย้ำมาตรการการป้องกันเชื้อโรคอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
- ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในระบบรถไฟฟ้า
- วัดอุณหภูมิทุกครั้งก่อนเข้าใช้บริการ
- มีจุดบริการแอลกอฮอล์ ทุกทางเข้า-ออกทุกสถานี รวมถึงจุดบริการแอลกอฮอล์เคลื่อนที่
- ฉีดพ่นเช็ดทำความสะอาดภายในขบวนรถไฟฟ้า และจุดสัมผัสร่วมภายในสถานี
บริษัทฯ ขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดเพื่อความเรียบร้อย และปลอดภัยในการเดินทางของส่วนรวม หากพบเห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่สถานีได้ทันที หรือกดปุ่มกระดิ่งภายในขบวนรถ แจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟฟ้าได้เช่นกัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการให้บริการพร้อมทั้งดำเนินการตามมาตรการและกฎหมายในการป้องกันการแพร่ระบาดฯ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 34 (6) ออกคำสั่งห้ามผู้ใดกระทำการซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะโดยการไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคโควิด-19 แพร่ออกไป แล้วผู้นั้นฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 51 ซึ่งมีระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท