xs
xsm
sm
md
lg

"นพ.จิรรุจน์" แนะผู้ปกครอง หากเด็กตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีดต้องทำอย่างไรบ้าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม รพ.มหาราชนครราชสีมา โพสต์ให้คำแนะนำผู้ปกครอง หากเด็กตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีดต้องทำอย่างไรบ้าง

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. เฟซบุ๊ก "Jiraruj Praise" นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้โพสต์ให้คำแนะนำหากมีบุตรหลานติดเชื้อโควิด ควรทำอย่างไร โดยระบุว่า "ATK2ขีดแล้วอย่างไรต่อไป.... สำหรับเด็กๆ ตอนนี้พูดเรื่องป้องกันดูเหมือนจะสายไปแล้วครับ และคาดว่าประชาชนก็น่าจะรู้อยู่แล้วล่ะครับ แต่แม้พยายามแค่ไหน มันก็ ติดเชื้อได้...

ดังนั้น มาพูดกันดีกว่าครับว่า ถ้าติดเชื้อ ATK 2 ขีดแล้วจะทำอย่างไรต่อ ผมจะขอเน้นเรื่องของเด็กนะครับ อ้างอิงแนวทางจากราชวิทยาลัยกุมารฯ ก่อน ATK 2 ขีด ศึกษาก่อนเลยครับ

1. สิทธิการรักษาของเราอยู่ที่ไหน รพ.อะไร รพ.สต.หรืออนามัยอะไรในต่างจังหวัด ถ้ากรุงเทพก็จะลำบากหน่อยครับ แต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดก็มีแนวทางการให้บริการแตกต่างกัน (นี่คือเรื่องปกติแบบไทยๆ) เกิด 2 ขีดขึ้นมาจะได้ไปถูก

2. ยาสามัญที่จำเป็นเมื่อป่วย เช่น ยาลดไข้พาราเซตามอล ยาบรรเทาอาการไอ ละลายเสมหะ น้ำเกลือแร่ ยาแก้อาเจียน เหล่านี้ ซื้อติดบ้านไว้ได้เลย หากป่วยจะได้ไม่ต้องวิ่งหายาครับ

3. เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว... มีได้ก็ดี ราคาไม่สูงมาก ร้านขายยาก็มีขายครับ กดเอาตาม online ต้องระวังไม่ได้มาตรฐานไม่ผ่าน อย.เครื่องมือแพทย์

ATK 2 ขีดแล้ว อันนี้พูดแบบประชาชนทั่วไป ไม่อิงนิยามระบาดอะไรเลยนะครับเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ 2 ขีด คือ เชื่อได้ว่าน่าจะติดเชื้อแน่ๆ หลายที่ไม่มีการ confirm PCR เว้นแต่จะต้องเข้า รพ. หรือกรณีอื่นๆ แต่สรุปคือ ติดเชื้อแล้วล่ะ ทีนี้ก็ว่ากันด้วยเรื่องการรักษาตัว ต้องนอนโรงพยาบาลไหม กลุ่มเสี่ยงรุนแรง เช่น ไข้สูง 39 องศาต่อเนื่องเกิน 1 วัน ซึม ชัก กินไม่ได้ อาเจียนมาก หอบเหนื่อย เหล่านี้ควรได้รับการตรวจเพื่อพิจารณาว่าเข้าเกณฑ์ต้องนอน รพ.หรือไม่ (ส่วนใหญ่ถ้ามีอาการดังกล่าวก็น่าจะนอนล่ะครับ)

กลุ่มที่มีอาการเล็กน้อย เช่น ไข้ต่ำกว่า 39 องศาไม่ต่อเนื่อง เจ็บคอ พอกินได้ หรือไม่มีอาการ สามารถรักษาตามอาการ "อยู่ที่บ้าน" หรือเข้าระบบ Home isolation (ถ้ามีระบบ) กินยาลดไข้ เช็ดตัว หากมีอาการไข้ต่อเนื่อง เช่น 39 องศาต่อเนื่องเกิน 1 วัน หรืออาการแย่ลง ซึมลง กินไม่ได้ อ่อนเพลียมาก อันนี้ควรมาตรวจเพิ่มเติมที่ รพ.เพื่อประเมินว่าต้องรับการรักษาใน รพ.หรือไม่

ต้องกินยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ไหม คำตอบคือ "ไม่จำเป็นสำหรับทุกราย" โดยส่วนใหญ่หากอาการเล็กน้อย หรือไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องกินยาต้านไวรัส แต่ ในรายที่มีความเสี่ยงต่ออาการรุนแรง เช่น อายุน้อยกว่า 1 ขวบ และมีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรง ได้แก่

1. โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งหอบหืดที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง
2. อ้วน
3. โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง
4. โรคไตวายเรื้อรัง
5. โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ
6. โรคเบาหวาน
7. กลุ่มโรคพันธุกรรม รวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง เด็กที่มีพัฒนาการช้า

เหล่านี้ แพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส นั่นแปลว่า ต้องไปรับการรักษาที่ รพ. หรือสถานบริการก่อน เพื่อตรวจและเข้าถึงยาต้านไวรัส ในรายที่มีอาการรุนแรงขึ้นก็จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์เช่นกัน ส่วนใหญ่อาการของโรคเป็นอย่างไร ในเด็กที่อาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ อาการไข้ ดูอ่อนเพลีย หนักๆ อยู่ 2-3 วันแรก ถ้ากินได้ ประคองตัวไปได้ หลังจากนั้น ไข้จะลดลง เหลืออาการเจ็บคอ เสียงแหบ ได้นานถึง 7 วัน สู้ๆ นะครับ

#กักตัวอยู่บ้านกี่วันจึงจะปลอดภัย อย่างน้อย 10 วัน นับตั้งแต่วันที่ ATK 2 ขีด นั่นแหละครับ โอกาสแพร่กระจายเชื้อก็ลดลงไปมาก แต่ยังแนะนำให้ สวมหน้ากากขณะออกไปนอกบ้าน แต่ผมแนะนำที่อย่างน้อย 14 วัน อันนี้เชื้อน่าจะน้อยมากๆ (ในกรณีที่ผู้ป่วยนั้นภูมิคุ้มกันปกตินะครับ) และโอกาสแพร่เชื้อน่าจะน้อยมากๆ เช่นกัน ต้องตรวจ ATK ซ้ำไหม ไม่มีคำแนะนำชัดเจนเรื่องนี้ แต่โดยทั่วไป หลัง 7 วัน ATK มักให้ผลเป็นลบ (ขีดเดียว) มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านบอกว่า ถ้า ATK ขีดเดียวก็น่าจะเชื่อว่าโอกาสแพร่เชื้อต่อน้อยมาก อันนี้ก็แล้วแต่ครับ แต่โดยทั่วไป ถ้ากักตัวรักษาครบ 14 วัน (ในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันปกติ) ไม่ต้องตรวจอะไรซ้ำแล้วครับ

MISC จะมาไหมจะดูอย่างไร MISC หรือการอักเสบในหลายๆ ระบบของร่างกายตามหลังการติดเชื้อโควิด-19 พบได้มากขึ้น แม้จะไม่บ่อย แต่ก็พึงเฝ้าระวังโดยเฉพาะหลังติดเชื้อ ช่วง 2-6 สัปดาห์ หลังจากนั้นโอกาสพบจะลดลง อาการหลักๆ ก็ไข้สูง อ่อนเพลีย ผื่นตามตัว มือเท้าแดง ซึ่งหากสงสัยควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษา

ยังต้องรับวัคซีนป้องกันโควิดไหม อายุ 5 ขวบขึ้นไปยังต้องรับให้ครบ โดยห่างจากการติดเชื้อไปนาน 3 เดือน (นับตั้งแต่วันที่ ATK 2 ขีด) ทั้งหมดคือ "คำแนะนำเบื้องต้น" เมื่อ ATK 2 ขีด หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณพ่อคุณแม่ในสถานการณ์ที่เด็กป่วยจำนวนมากขณะนี้ แต่ที่สำคัญมากๆ คือ เด็กอายุน้อยมากๆ ยังบอกเราไม่ได้ ยิ่งต้องตามดูอย่างใกล้ชิด ถ้าอาการเปลี่ยนแปลง ดูแย่ลง ซึมลง กินไม่ได้ ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติม และได้รับยาต้านไวรัสตามข้อบ่งชี้ครับ ป้องกันอย่าให้ติดเชื้อไว้ก่อนดีที่สุดครับ ข้อมูลดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต หากมีข้อมูลใหม่ ขอให้ทุกท่านปลอดภัยครับ"

คลิก>>อ่านโพสต์ต้นฉบับ


กำลังโหลดความคิดเห็น