คณะกรรมการจริยธรรมวิชาชีพ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เตือน "กนก-ธีระ" ถูกร้องเรียนนำคลิปจากเฟซบุ๊กนักข่าวอาวุโสมาออกอากาศ อ้างว่ามาจากสงครามยูเครน ทั้งที่เป็นคลิปรณรงค์โลกร้อนที่ออสเตรีย เผยทั้งสองกล่าวขอโทษผู้ชมในวันต่อมาแล้ว และทางช่อง 5 ก็เตือนแล้ว ฝากสื่อที่นำโซเชียลฯ มารายงานตรวจสอบก่อนเพื่อรักษาความน่าเชื่อถือ
วันนี้ (10 มี.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการจริยธรรมวิชาชีพ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่า รายการช่อง 5 เล่าข่าวข้น ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) ดำเนินรายการโดย นายกนก รัตน์วงศ์สกุล และนายธีระ ธัญญะไพบูลย์ ออกอากาศเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เผยแพร่คลิปที่อ้างว่าฝ่ายยูเครนจัดฉากศพพลเรือนผู้เสียชีวิตนับร้อยศพจากการถูกทหารรัสเซียรุกราน แต่พบว่าเป็นเฟกนิวส์ เนื่องจากเป็นคลิปการแสดงเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องให้สังคมโลกสนใจวิกฤตการณ์ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศ ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2565 ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศยูเครน
โดยผู้ร้องเรียนได้หยิบยกข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชน สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ พ.ศ. 2564 ทื่สื่อมวลชนพึงปฏิบัติ คือ ข้อ 5 สื่อมวลชนต้องตรวจสอบและไม่แต่งเติมเนื้อหาสาระของข่าวจนคลาดเคลื่อน หรือเกินจากข้อเท็จจริง ข้อ 6 สื่อมวลชนต้องละเว้นการเสนอข่าวด้วยความลำเอียงหรือมีอคติเป็นเหตุให้ข่าวนั้นบิดเบือน อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลในข่าวและความเข้าใจผิดในสังคม และข้อ 7 สื่อมวลชนต้องไม่นำเสนอหัวข้อข่าว พาดหัวข่าว ความนำ และภาพประกอบจนทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปจากสาระสำคัญของข่าว พร้อมกับเรียกร้องให้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนตรวจสอบ
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ตรวจสอบพบว่า ผู้ดำเนินรายการ ช่อง 5 เล่าข่าวข้น ได้นำคลิปจากสื่อสังคมมาเผยแพร่ต่อ โดยอาศัยความน่าเชื่อถือของผู้เผยแพร่ แต่เมื่อทราบว่าเป็นคนละเหตุการณ์ จึงได้กล่าวขอโทษผู้ชมในรายการเดียวกันในวันต่อมา อันเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่เป็นไปตามข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชนฯ ข้อ 23 สื่อมวลชนต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการแก้ไขข้อผิดพลาดอันเกิดจากการเสนอข่าวโดยไม่ชักช้า หากข้อผิดพลาดนั้นส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบุคคลหรือองค์กร ให้ดำเนินการขออภัยพร้อมกันไปด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้บริหารของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 แจ้งว่า ได้ดำเนินการตักเตือนผู้ดำเนินรายการทั้งสองคน ให้ทำการแก้ไขและขอโทษในรายการในวันต่อมาทันที พร้อมกับยืนยันว่า สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ยึดมั่นในหลักจริยธรรมในการนำเสนอข่าวและรายการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องข้อเท็จจริงและความถูกต้อง ทั้งนี้ การนำเรื่องราวที่ผู้ใช้สื่อออนไลน์นำเข้าในสื่อสังคมมารายงานในสื่อมวลชน แม้สภาพการแข่งขันเป็นเหตุให้ละเว้นการตรวจสอบ แต่ถ้าเรื่องนั้นส่งผลกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล หรือต่อสังคมโดยรวม โดยเฉพาะเรื่องที่มีความขัดแย้งอันจะนำไปสู่ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง แม้จะเสียเวลาจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ก็จะสามารถรักษาความน่าเชื่อถือในความเป็นสื่อมืออาชีพไว้ได้
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากนายธีรนัย จารุวัสตร์ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อและกรรมการฝ่ายต่างประเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ออกมาเรียกร้องให้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนตรวจสอบกรณีผู้ประกาศข่าวช่อง ททบ.5 เอาข่าวปลอมเกี่ยวกับสงครามในยูเครนมาเผยแพร่ออกอากาศ ได้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์หนึ่งในรายการ โดยอ้างว่าเป็นคลิปที่แสดงให้เห็นการจัดฉากศพผู้เสียชีวิตในสงครามที่ประเทศยูเครน ซึ่งปัจจุบันกำลังถูกรุกรานจากกองทัพรัสเซีย และมีรายงานว่าพลเรือนเสียชีวิตแล้วหลายร้อยราย ปรากฏว่าคลิปดังกล่าวไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในประเทศยูเครน แต่เป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2565 เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนทั่วโลกให้ความสนใจกับวิกฤตสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง หรือ climate change
นายธีรนัยกล่าวว่า การกระทำของพิธีกรทั้งสองนี้ผิดจริยธรรมสื่ออย่างยิ่ง เพราะเป็นการเสนอข่าวโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลที่นำมารายงานให้ผู้ชมรับทราบ เป็นการสร้างข่าวปลอมและบิดเบือน ท่ามกลางสภาวะสงครามที่กำลังเกิดขึ้น และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมากๆ ให้แก่วงการสื่อมวลชน อีกทั้งขณะนี้มีข้อเท็จจริงปรากฏแล้วว่ามีประชาชนจำนวนมากเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการโจมตีเป้าหมายพลเรือนจากกองทัพรัสเซียในยูเครน เช่น ฝ่ายสืบสวนข้อเท็จจริงของสหประชาชาติระบุว่ามีพลเรือนเสียชีวิตจากเหตุสงครามครั้งนี้แล้วอย่างน้อย 227 ราย ย้ำว่าอย่างน้อย ยอดเสียชีวิตจริงๆต้องเยอะกว่านี้แน่นอน เพราะสหประชาชาติมีกำลังคนและทรัพยากรจำกัดในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ดังนั้น การกระทำของสองพิธีกร ย่อมสร้างความสับสนให้แก่ประชาชนที่รับชมข่าวสาร อาจทำให้บางคนเข้าใจผิด คิดว่าข่าวที่ตนได้รับทราบมาเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพลเรือนในสงครามยูเครน เป็นการจัดฉาก หรือเป็นเรื่องโกหก กลายเป็นการบิดเบือนความเข้าใจของประชาชนในวงกว้างผ่านช่องทางสื่อของรัฐ จึงขอเรียกร้องให้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ หรือสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ฯลฯ ตรวจสอบกรณีการเผยแพร่ข่าวบิดเบือนครั้งนี้ และรายงานให้ประชาชนรับทราบเกี่ยวกับผลการดำเนินการตรวจสอบด้วย
อีกด้านหนึ่ง นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีสื่อร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้เตรียมเชิญ พล.ท.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ช่อง ททบ.5 มาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แนวทางรับผิดชอบ พร้อมเเนวทางแก้ไข เพื่อหาทางออกในอนาคตต่อไป เนื่องจากกังวลต่อวิชาชีพสื่อมวลชนในการถูกใช้เป็นเครื่องมือในการบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อประชาชน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นวงกว้าง อาจนำไปสู่การสร้างความเกลียดชังขึ้นในสังคมได้
ที่ผ่านมา จรรยาบรรณเเละวิชาชีพสื่อ ถือว่ามีความสำคัญมาก เปรียบเป็นกระจกสะท้อนปัญหาของสังคม กรณีที่เกิดขึ้นจึงถือว่าเป็นเรื่องร้ายเเรง เนื่องจากผู้ประกาศข่าวทั้งสองล้วนมีประสบการณ์ในวงการสื่อมวลชนมานาน ย่อมรู้ดีว่าการสื่อสารในประเด็นที่อ่อนไหวต้องมีความระมัดระวังอย่างมาก โดยเฉพาะการเป็นสื่อที่อยู่ในสังกัดภาครัฐ แต่กลับเสนอข่าวบิดเบือนความจริงและละเมิดจริยธรรมสื่อเสียเอง แต่ถึงตอนนี้กลับยังไม่เห็นการแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด ไม่ว่าจากต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับดูแล ผิดกับกรณีที่เกิดขึ้นกับสื่อที่มีท่าทีวิจารณ์ภาครัฐที่มักจะถูกตักเตือนหรือมีคำสั่งลงโทษหลายครั้ง
"กรณีนี้ยังทำให้เกิดข้อกังวลถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังเปราะบางและสับสน การแสดงออกต่างๆ โดยเฉพาะสื่อในกำกับของหน่วยงานรัฐควรจะเสนอข่าวด้วยความระมัดระวัง นอกจากนี้ ยังมีความกังวลไปถึงร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อ ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภา โดยอ้างว่าจะเป็นไปเพื่อส่งเสริมและกำกับดูแลจริยธรรมสื่อมวลชน แต่ในทางปฏิบัติ อาจจะกลายเป็นเครื่องมือเอาผิดเฉพาะสื่อที่อยู่ตรงข้ามรัฐแต่ฝ่ายเดียว หากเป็นฝ่ายที่ยืนอยู่ข้างภาครัฐถึงทำผิดจริยธรรมสื่อร้ายแรงแค่ไหนก็ไม่เป็นไร" นายณัฐชาระบุ
อ่านประกอบ : ก้าวไกล สบช่องใช้ กมธ.เรียกผู้บริหารช่อง 5 แจง “กนก-ธีระ” แพร่เฟกนิวส์ หวั่นกระทบสัมพันธ์ยูเครน
อนึ่ง สำหรับข่าวที่นายกนกและนายธีระนำมาออกอากาศ มาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กอดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศรายหนึ่ง