มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับฯ ชื่อดัง เผย ต้องเปลี่ยนฉากช่วยคนจมน้ำจากกระโดดน้ำลงไปช่วยเป็นการโยนห่วงยางและตะโกนเรียกคนมาช่วยเแทน หลังพบกระโดดไปช่วยคนจมน้ำแล้วกอดกันตายหลายร้อยเคส พร้อมเล่าประสบการณ์มีคนกระโดดไปช่วยคนจมน้ำอาจทำให้วุ่นวายกว่าเดิม
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับฯ ชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว "Chookiat Sakveerakul" ปมปรับเปลี่ยนฉากช่วยคนจมน้ำจากกระโดดน้ำลงไปช่วยเป็นการโยนห่วงยางและตะโกนเรียกคนมาช่วยเนื่องจากมีคนกระโดดไปช่วยคนจมน้ำแล้วกอดกันตายหลายเคส โดยผู้กำกับชื่อดังได้ระบุข้อความว่า
"เรื่องกระโดดน้ำลงไปช่วยนี่เขาห้ามกันจริงจัง ล่าสุดกูถ่ายซีรีส์ ตามบทพระเอกต้องกระโดดน้ำไปช่วยนายเอก เซ็นเซอร์ช่องบอกให้เปลี่ยนเพราะมีเคสคนกระโดดน้ำลงไปช่วยกันแล้วกอดกันตายเป็นร้อยเคสต่อปี
ซึ่งก็ถูกของเขา เราจึงต้องเปลี่ยนให้ตะโกนเรียกคนมาช่วย + โยนห่วงยางชูชีพให้อย่างถูกวิธี จบ… ผ่านเซ็นเซอร์ สาววายโอด… ไม่ฟิน"
ต่อมาผู้กำกับได้ออกมาโพสต์ข้อความอีกครั้ง โดยเป็นการเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์คนตกน้ำที่ตนเองเคยเจอ โดยมีใจความว่า
"เล่าเรื่องคนตกน้ำอีกสักคดี เคยถ่ายหนังเรื่องหนึ่งมันฉากโดดสะพาน เราใช้สตันท์แมนกระโดด แล้วเวลาจะทำฉากแบบนี้ทีมงานเขาจะมากันเยอะเลยเป็นชายฉกรรจ์ประมาณ 20 กว่าคนได้เอามาดึงสลิงที่ติดกับตัวพระเอกให้รั้งด้วยน้ำหนักที่เหมาะสมจะได้ไม่กระชากให้บาดเจ็บ ซ้อม 3 รอบ OK (จริงๆ ทีมคงซ้อมมาก่อนหน้านั้นแล้วล่ะ) ถ่ายไปเทกแรก = จังหวะยังไม่ค่อยดี
เทกสอง = เฉียดฉิวอีกนิดหนึ่ง เทกสาม = สวยงาม แต่ … ตู้ม!!!! ตามมาด้วยเสียงคนโวยวายว่าคนตกน้ำ
กูกับพี่พระเอกที่อยู่หน้ามอนิเตอร์มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทีมงานวิ่งหน้าตื่นมาบอกว่าสลิงขาด สตันท์ตกน้ำ ทีมสตันท์วิ่งกันพล่านเสียงสั่งการเรียกเรือโยนห่วงยางอื้ออึงกันไปหมด เรากับทีมงานหน้ามอฯ นั่งอย่างสงบเพราะรู้ว่าคนที่จัดการกับสถานการณ์นี้ได้ดีที่สุดคือหัวหน้าทีมสตันท์เพราะเขาเตรียมการไว้รองรับความฉุกเฉินทุกรูปแบบแล้ว เราควร Keep Calm เพื่อไม่ให้ทุกอย่างดูตื่นตูมเกินไป
บรื๊นนนนนน…. แพร่ดดด…. ปั่บๆๆๆ ….. คือเสียงเรือของกู้ภัยที่ Stand by ดับลงก่อนจะถึงตัวพี่สตันท์ที่ลอยคออยู่ประมาณเกือบ 100 เมตร กู้ภัยพยายามสตาร์ทเครื่องแต่ไม่เป็นผล สตันท์ถีบตัวมาหาเรือเรื่อยๆ และดูเหมือนจะหมดแรง กู้ภัยควานหาไม้พาย จ้ำไปพร้อมโยนห่วงยาง แต่ไม่คาดคิด
ตู้มมมม!!!! เสียงคนกระทบน้ำดังขึ้นซ้ำสอง ทุกคนตกใจ ปรากฏว่า Extra คนหนึ่งหวังดีกระโดดสะพานสูงเป็น 20 เมตรลงไปเพื่อจะช่วยสตันท์ที่กำลังจะเกาะห่วงยางได้อยู่แล้ว ซึ่งน้อง Extra ดู Panic หรือตื่นน้ำยังไงไม่ทราบเขาตะกายจะมาหาพี่สตันท์ให้ได้ ทีนี้พี่สตันท์ที่ว่ายน้ำแข็งกว่าก็ว่ายหนีสิ ดูทรงแล้วน้อง Extra กำลังตะกายน้ำแน่นอน “ช่วยด้วยยยย ช่วยด้วยยย!!!”
กลายเป็นคนที่กระโดดลงไปช่วยเริ่มหมดแรงจะจมล่ะทีนี้ จากปฏิบัติการช่วยเหลือคนเดียวกลายเป็นช่วย 2 คนแล้ว ซึ่งในที่สุดพี่สตันท์ก็เกาะห่วงยางขึ้นเรือได้ ส่วนน้อง Extra ทีมกู้ภัยช่วยขึ้นมาได้อย่างหวุดหวิด และคนที่ต้องนำตัวส่ง รพ.คือน้อง Extra ที่กระโดดลงไปช่วย
พวกเราก็ต้องให้ความช่วยเหลือเยียวยาอาการบาดเจ็บเนื่องจากตกกระทบผิวน้ำจากที่สูงฟกช้ำเล็กน้อย มารู้ทีหลังว่าน้องเขากำลังเรียนนายสิบอะไรสักอย่างแล้วมารับจ็อบเป็น Extra เมื่อเห็นเหตุการณ์วิกฤตชายชาติทหารคงอยู่เฉยไม่ได้ เลยกระโดดลงไปอย่างที่เห็น แล้วตอนแรกพ่อแม่ก็จะเอาเรื่องทางกองเหตุเรื่องไม่มีความปลอดภัย แต่หลักฐานที่เรามีคือทีมกู้ภัยมีพร้อมทั้งเรือทั้งประดาน้ำ แต่ตอนนั้นมันเป็นอุบัติเหตุและสุดวิสัยหลายๆ อย่าง ประกอบกับลูกคุณแม่กระโดดลงไปเองด้วยล่ะฮะ ทุกอย่างก็เลยจบได้ เรื่องนี้เลยอยากบอกทุกคนนะฮะ ว่าเจอคนตกน้ำให้โยนของ อย่ากระโดดลงไปช่วย ที่รอดมาเป็นฮีโร่นี่มีไม่มาก ที่ตายไปก็หลาย อย่าหาทำ และอย่าไปยุใครทำเด้อ"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ
อ่านโพสต์ต้นฉบับ