รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 12 - 18 ก.พ. 2565)
อันดับ 1 : การเมืองเรื่องหมาๆ กล่าวหาเนรคุณ ทักษิณเปรียบสุนัขแว้งกัดเจ้าของ สนธยาก็เปรียบสุนัขกัดกับสุชาติ
ข่าวการเมืองสัปดาห์นี้มีแต่เรื่องหมาๆ เริ่มจากนายโทนี่ วู้ดซั่ม หรือทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หนีคดีอาญาแผ่นดิน ออกมาพูดในคลับเฮาส์ เป็นประจำทุกวันอังคารเว้นอังคาร ตอนหนึ่งเล่าเรื่องเลี้ยงหมาไว้ 50 ตัว ทุกตัวไม่มีปัญหา ยกเว้นตัวหนึ่งชอบมากัดเจ้าของ แต่เลียเท้าประจบคนให้อาหาร เท่านั้นแหละ อดีตแกนนำเสิ้อแดง แรมโบ้อีสาน-เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ออกมาสวนกลับว่า ร่วมงานกัน 20 ปี ผิดหวังที่พบว่าอยู่กับหัวหน้าโจรทุจริตคอร์รัปชัน หากเจ้าของหมาเป็นคนดี ประวัติดี สุนัขฉลาดก็คงไม่กัด นายโทนี่ไม่ควรด้อยค่า ส.ส.เหมือนสุนัข น่าจะคิดได้ว่าถูกมองอย่างไร้ค่า
ส่วนการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ฝ่ายค้านไม่มีประเด็นอะไรใหม่ หยิบเรื่องเก่าโจมตีเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกหรือยุบสภา แต่นอกสภาดุกว่า เมื่อนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา โพสต์เฟซบุ๊ก ทราบว่ามีคนของพรรคพลังประชารัฐจะหาคนมาลง ส.ส.ชลบุรีทุกเขต ถามผู้ใหญ่ก็บอกว่ามีคนอยากสร้างอาณาจักร อย่าไปสนใจ คล้ายหมาเห่าไม่ควรไปดุ แต่ตนรู้สึกว่าหมาเริ่มก้าวร้าวทั้งที่อุ้มชูมานาน ทำให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่เคยร่วมงานกันโต้กลับไปว่า หมาไม่เคยทิ้งเจ้าของ มีแต่เจ้าของที่เอาไปทิ้งปล่อยวัด มีเหตุผลไม่กี่ข้อที่หมาหายไป คือหลงทางกับถูกทำร้ายบาดเจ็บ แล้วบ้านหลังใหม่เก็บเอาไปเลี้ยง
อนึ่ง นายสุชาติเคยร่วมงานกับพรรคพลังชลของตระกูลคุณปลื้ม ช่วงเลือกตั้งปี 62 กลุ่มพลังชลย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ได้รัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง คือ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม แต่นายสุชาติแยกตัวออกมาก่อนจะได้ตำแหน่ง รมว.แรงงาน
อันดับ 2 : หลานบุญธรรมฆ่ายัดถังเมืองสุพรรณ เห็นเงินแสนล่อใจอยากได้ไปตั้งตัว ชวนผู้ชายก่อเหตุสยอง
หากยังจำกันได้เมื่อวันที่ 4 ก.พ. พบศพหญิงวัย 18 ปีถูกฆ่าเปลือยยัดกล่องพลาสติก ที่บ้านพักคนงานแพล้นปูนย่านศาลาขาว จ.สุพรรณบุรี จับกุมผู้ต้องหาชายวัย 19 ปี อ้างว่ามีปากเสียงกันเรื่องคบหาทั้งที่มีเมียมีลูก ผ่านมาไม่ทันไรเกิดเรื่องสะเทือนขวัญอีก เมื่อคืนวันที่ 13 ก.พ. พบศพหญิงรายหนึ่งถูกฆ่ายัดถังพลาสติกสีฟ้า 200 ลิตร ทิ้งในพงหญ้าริมถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท บริเวณชายเขาชะโอย ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ก่อนที่ถังจะแตกส่งกลิ่นเหม็นแล้วชาวบ้านพบศพ ทราบชื่อคือนางสมศรี ม่ามกระโทก อายุ 62 ปี อยู่กับหลานสาวบุญธรรมวัย 18 ปีที่ห้องเช่าหลังวัดสมอราย จ.นครราชสีมา
ต่อมาตำรวจรวบตัวหลานสาววัย 18 ปี และนายปฏิพล จันทรมณฑล อายุ 23 ปี แฟนหนุ่ม ขณะนั่งรถตู้สายตาก-แม่สอด ที่จุดตรวจบ้านห้วยยะอุ อ.แม่สอด จ.ตาก หลานสาวรับสารภาพ อ้างว่าเห็นเงินในบัญชีของนางสมศรี 100,000 บาท ประกอบกับนางสมศรีเป็นคนเจ้าระเบียบ ถูกด่าประจำ อยากแยกตัวออกมาและมีเงินไปลงทุน จึงร่วมกับนายปฏิพล ที่รู้จักกันในโซเชียลฯ มานาน ขับรถกระบะจาก จ.ตาก มาที่ จ.นครราชสีมา ลงมือฆ่าเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ก่อนนำศพใส่รถไปที่ จ.สุพรรณบุรี แล้วกลับบ้าน กระทั่งเรื่องแดง หลานสาวจึงนั่งรถทัวร์ไปหานายปฏิพลที่ จ.ตาก ก่อนจะร่วมกันหลบหนีไปประเทศเมียนมา แต่ถูกจับเสียก่อน
อันดับ 3 : น้องกันฑ์บีบหัวใจโซเชียลฯ ทำเพื่อพ่อครั้งสุดท้าย เล่นกีตาร์หาเงินงานศพพ่อ ผู้ใหญ่ใจดีโอนให้เพียบ
เมื่อวันที่ 15 ก.พ. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "กัณฑ์ ชนะเดช" ทราบชื่อคือ ด.ช.ชนะเดช เขียวเซ้น หรือน้องกัณฑ์ อายุ 12 ปี ได้โพสต์วีดีโอคลิป เล่นกีตาร์และร้องเพลงทั้งน้ำตาเพื่อหาเงินค่าทำศพให้พ่อที่จากไปด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย โดยระบุข้อความว่า "กัณฑ์ขอทำเพื่อพ่อเป็นครั้งสุดท้าย หาเงินงานศพพ่อครับ ... กัณฑ์รักพ่อสุดหัวใจ" พร้อมเลขบัญชีธนาคาร ทำเอาบีบหัวใจโลกโซเชียลฯ แห่แชร์และโอนเงินบริจาคเป็นจำนวนมาก พร้อมเสียงชื่นชมว่าเป็นลูกกตัญญู กระทั่งวันที่ 17 ก.พ. เจ้าตัวโพสต์เฟซบุ๊กขออนุญาตปิดรับเงินบริจาคทุกด้าน ขอกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกคนที่สนับสนุน กำลังทำเรื่องอยู่
น.ส.หรรษลักษณ์ เขียวเซ้น พี่สาวน้องกัณฑ์ กล่าวในรายการโหนกระแส ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ระบุว่า ไม่คิดว่าน้องจะกลายเป็นไวรัล คนติดต่อเยอะ โดยนายฉัตรชัย เขียวเซ้น ผู้เป็นบิดา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ก่อนเก็บศพแล้วเผาวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา กระทั่งโพสต์วีดีโอคลิปวันที่ 15 ก.พ. เพื่อไม่ให้สิ้นคำครหา ส่วนน้องกัณฑ์กล่าวว่า ที่เล่นกีตาร์เพื่อเล่นให้พ่อเป็นครั้งสุดท้าย รับบริจาคเพื่อต้องการใช้หนี้ค่ารักษาพยาบาลพ่อ ค่าโลงศพ ค่าขนส่ง และจัดงานศพ รวมประมาณ 5 หมื่นบาท ขอบคุณที่โอนเงินสนับสนุน ส่วนหนึ่งจะนำเงินมาจุนเจือครอบครัว อีกส่วนหนึ่งคิดจะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็ง
อันดับ 4 : ดรามาเปลี่ยนชื่อเมืองหลวง "Bangkok" เป็น "Krung Thep Maha Nakhon" ราชบัณฑิตยันเรียกได้เหมือนเดิม
ดรามาจากทำเนียบฯ สะท้านเมืองกรุงฯ เมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 15 ก.พ. เห็นชอบหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดชื่อประเทศ ดินแดน เขตการปกครอง และเมืองหลวง ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานราชบัณฑิตยสภาเสนอ หนึ่งในนั้นได้เปลี่ยนการกำหนดชื่อเมืองหลวงของราชอาณาจักรไทย จากเดิม Krung Thep Maha Nakhon; Bangkok กรุงเทพมหานคร เป็น Krung Thep Maha Nakhon; (Bangkok) เป็นการแก้ไขชื่อเมืองหลวงโดยเก็บชื่อเดิมไว้ในวงเล็บ นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่นๆ เช่น มาเลเซีย อิตาลี เมียนมา เนปาล ปาเลสไตน์ ก็มีการปรับปรุงแก้ไขเช่นกัน
เรื่องนี้ถูกตีความไปว่าเปลี่ยนชื่อเมืองหลวงจาก Bangkok เป็น Krung Thep Maha Nakhon ถูกวิจารณ์จากโลกโซเชียลฯ กันยกใหญ่ ถึงขนาดนำไปเป็นไวรัลล้อเลียนกันสนุกสนาน ภายหลังราชบัณฑิตยสภาต้องชี้แจงว่า กรุงเทพมหานคร ภาษาอังกฤษใช้ได้ทั้ง Krung Thep Maha Nakhon และ Bangkok เช่นเดิม ส่วนที่มีการแก้ไขดังกล่าว เพราะคณะกรรมการจัดทําพจนานุกรม ชื่อภูมิศาสตร์สากล ได้ปรับปรุงแก้ไขการกําหนดชื่อดังกล่าว เพื่อให้ส่วนราชการนำไปใช้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน ขณะที่ผู้สนับสนุนนายกรัฐมนตรีโจมตีสื่อว่าบิดเบือน เพราะมีชื่อนี้มาตั้งแต่ปี 2544 แล้ว
อันดับ 5 : ลูกชาย 2 ขวบจมน้ำพูลวิลลา พ่อช่างภาพพาแม่ถ่ายภาพแนวเซ็กซี่ อุทาหรณ์ไม่ควรปล่อยเด็กตามลำพัง
เรื่องสะเทือนใจผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาเที่ยวบ้านพักที่มีสระว่ายน้ำในตัว หรือพูลวิลลา เกิดขึ้นเมื่อคืนวันทื่ 14 ก.พ. หน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเด็กจมน้ำภายในบ้านพูลวิลลา ซอยพระตำหนัก 4 เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พบเด็กชายวัย 2 ขวบจมน้ำหมดสติ กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล ก่อนนำส่งโรงพยาบาลแล้วเสียชีวิต สอบถามทราบว่าพ่อของเด็กเป็นช่างภาพ พาลูกและภรรยามาถ่ายภาพแนวเซ็กซี่ที่บ้านพลูวิลลาในค่ำคืนของวันวาเลนไทน์ กระทั่งเกิดเหตุสลดดังกล่าว หลังจากนั้นครอบครัวได้นำศพเด็กชายคนดังกล่าวกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดลาดปลาเค้า กรุงเทพฯ
ต่อมาโลกโซเชียลฯ ขุดภาพของแม่เด็กที่เสียชีวิตในวันเกิดเหตุ เป็นภาพแนวเซ็กซี่หลายภาพ ภาพเด็กกำลังเล่นน้ำโดยไม่สวมชูชีพ และภาพการกินดื่มปาร์ตี้ของผู้ใหญ่ ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันตำหนิพ่อแม่ และเป็นอุทาหรณ์ไม่ควรให้เด็กอยู่ริมสระน้ำตามลำพัง อีกด้านหนึ่ง พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าเด็กตกลงไปในสระน้ำนาน 1 นาที ระหว่างที่พ่อแม่ทำอาหารปิ้งย่าง เมื่อเห็นลูกจมน้ำก็ได้ทำการช่วยเหลือ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีรอให้พ่อแม่จัดการงานศพให้เรียบร้อย ก่อนจะเรียกมาสอบปากคำอย่างละเอียดต่อไป
อันดับ 6 : นักข่าวทีวีพูลร่ำไห้ พระเอกดังเบอร์หนึ่ง ด่าสัตว์เลื้อยคลานกลางลานจอดรถ โซเชียลฯ วิจารณ์เล่นใหญ่
บันเทิงร้อน เมื่อวันที่ 12 ก.พ. หมิว ทิพยาภรณ์ ชาดีกรณ์ และบ๊ะจ่าง มาริสา อินทร์อ่อน ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีวีพูล ออกมาเฟซบุ๊กไลฟ์ทั้งน้ำตา ระบุว่า ถูกพระเอกดังเบอร์หนึ่งด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายเป็นสัตว์เลื้อยคลาน เริ่มมาจากไปทำข่าวสัมภาษณ์พระเอกคนดังกล่าว ถึงเรื่องความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เจ้าตัวไม่ค่อยอยากจะตอบเท่าไหร่นัก เมื่อเดินทางกลับ เจอกับพระเอกคนดังกล่าวที่ลานจอดรถ ยกมือไหว้ไป กลับถูกด่าเป็นสัตว์เลื้อยคลาน เมื่อนักข่าวอีกคนขอถ่ายรูป พระเอกคนดังกล่าว ก็ด่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานอีกรอบ ถึงการตั้งคำถามของนักข่าว ยืนยันว่าไม่ได้หิวแสง แต่อยากให้เข้าใจว่านักข่าวก็คือคน
เรื่องดังกล่าวโลกโซเชียลฯ และแฟนคลับพระเอกคนดังกล่าววิจารณ์ว่าเล่นใหญ่ แสง อยากมีซีน ภายหลังหมิวและบ๊ะจ่างไปออกรายการเป็นเรื่องใหญ่ ทางช่อง JKN18 ระบุว่า ติ๋ม-พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย และเต้-กันต์พงษ์ ศกุณต์ไชย ผู้บริหารทีวีพูล เรียกมาสอบถาม และกล่าวว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ผ่านไป ยืนยันว่าไม่ได้หิวแสง แต่เป็นเฟซบุ๊กไลฟ์สรุปประเด็นข่าวตามปกติ เจอเหตุการณ์มาก็เล่าให้ฟัง ส่วนหมิวกล่าวว่า เสียใจที่ได้คำตอบแบบนั้น ขอโทษพระเอกคนดังกล่าวที่ถามแทงใจดำหรือไม่โอเค รวมทั้งแฟนคลับ ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจทำลายชื่อเสียงเพราะเป็นเอฟซีเหมือนกัน แต่รู้สึกผิดที่กลั้นน้ำตาตัวเองไม่ได้
อันดับ 7 : ปิดตำนาน 54 ปี โรงแรมนารายณ์ ผู้บริหารขอเวลา 4 ปีทุบทิ้งสร้างใหม่ หวังเป็นแลนด์มาร์กใหม่ย่านสีลม
โรงแรมเก่าแก่ย่านถนนสีลมทุบทิ้งสร้างใหม่ เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Praphat Sirivongrangsan โพสต์ภาพโรงแรมนารายณ์ ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ ปิดตำนาน 18 ก.พ.นี้ พร้อมกับประกาศเรียนเชิญพนักงานเก่า ทำพิธีย้ายศาลองค์พระนารายณ์ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันและเก็บภาพที่ระลึก เมื่อมีคนถามว่าทุบทำไม ได้คำตอบว่า ที่ทุบทิ้งเพราะอาคารเก่า จะก่อสร้างใหม่ ส่วนเจ้าของนั้นไม่เปลี่ยน โดยโรงแรมดังกล่าวเปิดให้บริการเมื่อปี 2511 หรือเมื่อ 54 ปีก่อน เป็นอาคาร 12 ชั้น มีจำนวนห้องพักรวม 475 ห้อง พร้อมสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องอาหาร 3 ห้อง และห้องประชุมสัมมนาอีก 6 ห้อง
ด้านนายนที นิธิวาสิน กรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ โฮเต็ล จำกัด ทายาทรุ่นที่ 3 เปิดเผยว่า เหตุผลที่ปรับปรุงโรงแรมนารายณ์ เนื่องจากเทรนด์ตลาดโรงแรมเปลี่ยนไป ในช่วงที่ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวชะลอตัว จึงปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ ภายใต้แนวคิด Be Part of Everyone Community ด้วยการสร้างพื้นที่เปิดให้กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มครอบครัวเข้ามาใช้พื้นที่ มีร้านอาหารที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ ค่าเช่าพื้นที่เหมาะสม ส่วนโซนห้องพักจะเน้นไปที่ระดับลักชัวรี พร้อมกับอัญเชิญองค์พระนารายณ์ลงมาไว้ให้คนทั่วไปได้สักการะ หวังให้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กใหม่ในย่านสีลม คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี