ดร.บุ๋ม ปนัดดา สัมภาษณ์เจ๊ติ๋ม ทีวีพูลทางช่อง 9 ปมทิดสมปองติดหนี้ซื้อที่ดินตั้งแต่สมัยครองผ้าเหลือง เผยตอนแรกเขามาขายบุ๋มด้วย แต่ตอบกลับที่ ส.ป.ก.ครอบครองไม่ได้ กังขาไม่น่าจะแพงขนาดนั้น สงสัยเป็นพระกู้นอกระบบได้ยังไง
วันนี้ (5 ก.พ.) จากกรณีที่นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย ผู้ก่อตั้งนิตยสารทีวีพูล แถลงข่าวเมื่อวันที่ 4 ก.พ. กรณีที่นายสมปอง นครไธสง หรืออดีตพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ประกาศถอนตัวจากรายการที่ทีวีพูลกรุ๊ปเป็นผู้ผลิต 3 รายการ และขนย้ายข้าวของออกจากบ้าน ทั้งที่ยังติดสัญญา 2 ปี ทั้งๆ ที่ช่วยเหลือหนี้สิน 10.9 ล้านบาท ซื้อเสื้อผ้าให้กว่า 1 แสน ป้อนงานให้ทำ แต่เจ้าตัวทะเยอทะยาน อยากรวยเร็ว อยากเป็นนักร้องลูกทุ่ง ส่วนเจ้าตัวชี้แจงกลับไปว่า ไม่ใช่คนติดหรู ยืนยันไม่ใช่เงินเจ๊ติ๋มไปใช้หนี้ เป็นเงินทำงานตัวเอง ไม่ได้หิวเงินแต่เลือกทำงานให้เหมาะสมกับความเหนื่อย รู้สึกว่างานเยอะไป ไม่มีอิสระ เหนื่อย ไม่ไหว ส่วนที่ดินเป็นของพี่น้อง ยืนยันยังเป็นคนเดิม ไม่ยุ่งธุรกิจสีเทา ไม่ดื่มเหล้า และซื่อสัตย์สุจริต
เฟซบุ๊ก "ซึ่งต้องพิสูจน์" ได้เผยแพร่บางช่วงบางตอนของ รายการ “ดราม่าวันนี้ ช่อง 9” ดำเนินรายการโดย ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงษ์ผู้ดี สัมภาษณ์นางพันธุ์ทิพา ตัดเฉพาะประเด็นหนี้สิน 10.9 ล้านบาทของนายสมปอง ถามว่านางพันธุ์ทิพาเคยถามนายสมปองเอาเงินไปใช้อะไร ติดหนี้อะไรเยอะแยะมากมาย นางพันธุ์ทิพา กล่าวว่า เรื่องติดหนี้ถามเขาตั้งแต่วันแรก บอกว่าไปซื้อที่ดิน สวนยางพารา ทีนี้มันขายไม่ได้ เสร็จแล้วตั้งใจจะให้พี่น้องช่วยกันทำ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเป็นภาระเขาอีก ต่อไปจะได้มีรายได้ เขาบอกมีพวกลูกศิษย์มาบอกว่าต้องซื้อ 300 ไร่ เขาก็ไล่ซื้อไปเรื่อยๆ แล้วก็เงินก็ไม่มี ก็ไปเอาเงินจากนอกระบบมาด้วย ก็เลยกันว่า เงินนอกระบบมันมีดอกเบี้ยแยะ เขาก็ทุกข์มาก เขาบอกตรงนี้ เพราะว่าเขาประกาศขายนานแล้ว แต่มันก็ยังขายไม่ได้สักที พี่ก็บอกให้ขายไป เขาบอกมันขายไม่ได้ เอ้า ทำไมขายไม่ได้ เขาก็บอกว่ามันเป็นที่ ส.ป.ก. เขาก็ไม่รู้
ดร.บุ๋มกล่าวว่า ตอนแรกเขามาขายบุ๋มด้วย นางพันธุ์ทิพาถามว่า เหรอคะ ดร.บุ๋มตอบว่า ใช่ แล้วบุ๋มเองก็บอกว่าที่ ส.ป.ก. บุ๋มครอบครองไม่ได้ เพราะว่าเป็นดารา มีรายได้ จะไปแย่งชาวบ้านไม่ได้ บุ๋มก็พูดอย่างนี้ตรงๆ กับเขา แต่ทีนี้เนี่ย แล้วพี่ติ๋ม (นางพันธุ์ทิพา) เคยถามไหมว่า ทำไมต้องสร้างหนี้ สร้างรากฐานตัวเองขนาดนี้ตั้งแต่อยู่ในผ้าเหลือง เคยถามเขาไหม นางพันธุ์ทิพากล่าวว่า เขาก็พูดด้วยความที่จิตพี่มองบวกตลอด มองว่าเขากตัญญูต่อครอบครัวเขา ก็ไม่ใช่ว่าจะสบาย เขาบอกว่าในชีวิตเขาตั้งแต่เกิดมา พี่ฟังแล้วพี่ก็จะร้องไห้ เพราะไม่เคยมีสภาพแบบนั้น เขาบอกว่าเขาไม่เคยมีบ้าน ชีวิตของเขา เขาจะตามพ่อไปที่สวนมะขาม เฝ้าสวนอะไรให้ใคร แล้วเขาเนี่ยพี่น้อง 7 คนก็จะตามไปนอนด้วยในกระต๊อบที่คนงานเฝ้าสวน คือพ่อเขาเป็นคนงานเฝ้าสวน ชีวิตเขาก็เลยไม่มีบ้าน ก็เลยต้องไปบวชเณรเพื่อจะได้มีโอกาสได้เรียน ได้กินขนม เขาก็ไปบวชตั้งแต่อายุ 13 ปี แต่เขาเป็นคนหัวดีมาก อันนี้ต้องยอมรับ เขาเป็นคนความจำดีมากเลย
ดร.บุ๋มถามว่า แล้วเขาได้เล่าให้ฟังไหมว่าตอนนี้เขาสร้างรากฐาน นอกจากซื้อที่ดิน 300 ไร่แล้วเขาไปสร้างหนี้อะไรอีก ทำไมถึงต้องไปกู้มากมาย แล้วเขาหาเงินจ่ายแต่ละเดือนมากขนาดนี้ นางพันธุ์ทิพา กล่าวว่า เขาก็พูดกับพี่จริงแค่ก้อนนี้ ก้อนอื่นเขาไม่เคยเล่า เขาเล่าแต่ว่า เนี่ย เขาเอาเงินตั้ง 10 กว่าล้านบาทมาซื้อ พี่ก็โกรธเขามาก อะไรที่ ส.ป.ก.ทำไมจะต้องเสียสิบกว่าล้าน แล้วพี่ก็ว่าคนติดตามเขาด้วย (สัญญาณขัดข้อง) แต่จิตของพี่ดีกับเขาตลอดว่าเขากตัญญูต่อแม่เขา ต่อครอบครัวเขา เขาอยากจะดูแล จิตเราก็มองว่าเมื่อมันเป็นปัญหากันแล้ว เขามาเจอกับพี่เขาบอก เขาเหลือ 10 ล้าน 9 แสนบาท ซึ่งเขาจะต้องผ่อนเดือนละ 3 แสนตอนนี้เขาไม่มีหนี้นอกระบบแล้ว เพราะว่าเขาไปคุยกับท่านเจ้าคุณอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ตนก็ไปทำบุญที่นั่นประจำ ท่านก็มีเมตตาสูงมาก สมปองก็เคยไปช่วยอยู่ที่วัดนั้นเรื่อยๆ ท่านก็มีเมตตา ท่านก็คงมีลูกศิษย์เศรษฐีเยอะแยะ วันนี้ก็เป็นวัดดังที่ใครๆ จะไปทำบุญกัน ท่านก็เลยให้ช่วย ให้ลูกศิษย์มาช่วยปิดหนี้ให้ เพื่อที่ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย เงิน 3 แสนบาทที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้มาจ่ายเงินต้นแทน มันก็เลยหมดไปเร็ว เหลือแค่นี้ 10 ล้าน 9 แสนบาท พี่ก็บอกไม่ต้องเดือดร้อนใครนะ
ดร.บุ๋มถามว่า ที่ดินตรงนั้นเป็นที่ดิน ส.ป.ก. ไม่น่าจะแพงขนาดนั้นนะ นางพันธุ์ทิพา กล่าวว่า เออ ไม่น่าแพง พี่ก็ว่า หรือว่าเขาไม่รู้เรื่อง เขาไม่ค่อยรู้อะไรในเรื่องของธุรกิจ เขาเก่งเรื่องพูด เขาเก่งเรื่องบาลี ดร.บุ๋มถามว่า แล้วพี่ไม่คิดเหรอว่าเขาจะมีอะไรอย่างอื่นอีกเหรอ ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีกเหรอ เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะต้องหาเงินเป็นแสนๆ ล้านๆ แต่ละเดือน แล้วในแต่ละวันที่เขาผ่านมาเขาก็ได้ตังค์เยอะอยู่เหมือนกัน นางพันธุ์ทิพากล่าวว่า อันนี้พี่ก็ไม่สามารถจะไปดูแลเรื่องนั้นได้ พี่ก็ได้แต่สวดมนต์อย่างเดียว เวลาเขาอยู่กับพี่ พี่ก็พยายามให้อยู่ในระเบียบ อยู่ในศีลห้า แต่ออกไปแล้วพี่ไม่รู้เขาเจอใครบ้าง
ภาพตัดไปที่ ดร.บุ๋มถามว่า อันนี้แสดงว่าเขาซื้อที่ดินตั้งแต่ที่เขาบวชอยู่ ถูกต้องไหม นางพันธุ์ทิพากล่าวว่า ใช่ค่ะ เขาซื้อตั้งแต่สมัยเขาบวช ดร.บุ๋มถามว่า ตั้งแต่สมัยเขาบวช คือหลายคนบอกว่ามันจะซื้อตอนบวชได้ยังไง คือตอนบวชต้องอยู่ในกฎ ในศีล ในธรรม แต่ไม่ใช่เดินตามซื้อที่กันขนาดนี้ แต่ทีนี้แล้วเป็นพระกู้นอกระบบได้ยังไง อยากรู้เรื่องนี้จังเลย นางพันธุ์ทิพากล่าวว่า พี่ก็ไม่ทราบ อันนี้เราก็ไม่ได้ไปสนใจเรื่องนี้ รู้แต่ว่าเขามีปัญหาเรื่องที่จะต้องใช้หนี้ แล้วพี่ก็เลยวางแผนเรื่องที่จะใช้หนี้ให้เขา ดร.บุ๋มถามว่า แล้วถามไหมว่าใครเป็นเจ้าหนี้ นางพันธุ์ทิพากล่าวว่า เจ้าหนี้เขาคงเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อที่รวยๆ พี่ก็ไม่ทราบอันนี้ ดร.บุ๋มถามว่า แล้วเขาชี้แจงไหมว่าแต่ละเดือนต้องจ่ายดอกเท่าไหร่ นางพันธุ์ทิพากล่าวว่า เขามีเรื่องส่วนตัวแยะมาก แล้วเขาไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัว แล้วพี่ก็ไม่อยากจะไปละลาบละล้วงเรื่องเงินทองของเขา เราก็ได้แต่แนะนำเรื่องการปฏิบัติตัวมากกว่า อย่างเช่นการคบเพื่อน การอยู่ในสังคมให้มีภาพลักษณ์ที่ดี เรื่องงานพี่ก็จะสอน
ชมคลิป คลิกที่นี่
ก่อนหน้านี้ ดร.บุ๋ม ปนัดดา จัดรายการตกมันส์บันเทิง ทางช่อง 9 ถึงสมัยที่นายสมปองยังเป็นพระมหาสมปอง ว่ามีโอกาสได้ทำรายการร่วมกันในตอนนั้น และในช่วงนั้น พระมหาสมปองก็เคยมาปรึกษาเรื่องจะซื้อที่ดินเก็บไว้เพื่อวางอนาคตให้กับตัวเองก่อนที่จะสึกออกมา ว่า เท่าที่เคยพูดคุยกันมา เตือนเขาแล้วเรื่องซื้อที่ เพราะเราก็ทำอสังหาฯ เราก็เลยบอกไปว่า จริงๆ ไม่ควรรีบซื้อเยอะขนาดนี้ เขาซื้อตั้งแต่บวช ก็เลยทำให้เป็นหนี้ เพราะเหมือนกับซื้อแต่ละแปลง เอาเงินไปจองเพื่อเผื่อวันหนึ่งที่จะสึกจะได้มาทำมาหากิน และครอบครัวจะได้มีสวนให้ได้ทำอะไรต่อ ถึงขั้นวางแผนไว้แบบนี้ แต่ว่าเราก็บอกไปว่าในส่วนทำอสังหาฯ ในช่วงนี้มันเป็นอะไรที่ยาก เพราะว่าอะไร เพราะว่าถ้าเราไม่มีเงินไป คือถ้าเรามัดจำไป เขาบอกให้เราจ่ายภายใน 3 เดือน 6 เดือน ไม่มีเงิน คุณก็ต้องโดนยึดไง ที่ดินที่จองไว้ก็โดนยึด เงินที่จองไว้ก็จะโดนยึดไง แล้วจะทำยังไง
ตอนนั้นทำรายการด้วยกัน นายสมปองก็ได้ถามบุ๋มมาตอนที่เป็นพระว่า ที่ตรงนั้นตรงนี้พี่บุ๋มสนใจซื้อไหม อย่างนี้เลย เราก็เลยบอกว่าทำไมซื้อเยอะขนาดนี้ คุยแบบตัวต่อตัว ยืนคุยต่อหน้ารายการเลย เราก็ถามว่าทำไมซื้อเยอะขนาดนี้ เขาก็บอกว่า คือก็เตรียมไว้อย่างนั้นอย่างนี้ เราก็พอเข้าใจ แต่เราก็บอกว่า เงินอะ แต่เราต้องหาจะหายังไง ตอนเป็นพระจะหายังไง ก็ถามไป ก็ติติงไป คือตอนนั้นซื้อแล้ว ซื้อไว้ประมาณ 300 ไร่ ส่วนเรื่องธุรกิจสีเทา ไม่รู้ดีกว่า ไม่พูด ให้เจ้าตัวเขาพูดเอง เขาปฏิเสธแล้วไง ไม่พูดดีกว่า ไม่เกี่ยว ก็เขาปฏิเสธแล้ว โอ๊ย ฉันก็ไม่ใช่คนโกหกนะ อะไรที่โกหก ฉันก็ไม่พูดไง