xs
xsm
sm
md
lg

แฟน "แจ็กแปปโฮ" ด่าเพจเกาะคนดัง ชาวเน็ตเอือมร้านอาหารยังฝืน ไม่มีใครอยากสัมผัสรอยเท้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพจ "ผู้บริโภค" เผยแฟนสาว "แจ็กแปปโฮ" ยูทูบเบอร์ดังที่ทำคอนเทนต์ยืนบนบาร์ร้านโอมากาเสะย่านพัฒนาการ แชตด่าแอดมินหาว่าเกาะตัวเองดัง แถมยังให้แชร์คลิปที่อ้างว่าทำดี แจกไอโฟน แจกทุเรียน ด้านร้านต้นตอบอกพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อฟูดเกรดก่อนและหลังให้บริการ เจอทัวร์ลงระบุทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติเชฟ ไม่ให้เกียรติลูกค้าคนอื่น ลั่นถ้าไม่เปลี่ยนทั้งเขียงทั้งโต๊ะไม่ไปกินเด็ดขาด ไม่มีใครอยากสัมผัสขี้ตีนคนอื่น แนะรีโนเวตร้านสร้างความมั่นใจ

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. จากกรณีที่กลุ่มเฟซบุ๊ก "พวกเราคือผู้บริโภค" มีสมาชิกรายหนึ่งโพสต์วิดีโอคลิปยูทูบเบอร์ที่ชื่อว่า "แจ็กแปปโฮ" หรือนายจาตุรงค์ พาโพธิ์ แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมภายในร้านอาหารญี่ปุ่นโอมากาเสะแห่งหนึ่ง โดยลุกขึ้นเดินไปยังบนบาร์ที่รับประทานอาหารในร้าน พร้อมกับตั้งคำถามว่า ถ้าเหมาร้านแล้วลูกค้าจะทำแบบนี้ได้จริงหรือ ทำเอาชาวเน็ตแสดงความไม่พอใจพากันวิจารณ์พฤติกรรมดังกล่าวจำนวนมาก โดยเฉพาะข้อกล่าวหาว่าไม่มีมารยาท คิดว่าเท่ ไม่ให้เกียรติทางร้านและคนในร้าน ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านประกอบ : วิจารณ์สนั่น! "แจ็กแปปโฮ" ทำคอนเทนต์ไร้มารยาท เดินบนบาร์อาหารในร้านโอมากาเสะชื่อดัง (ชมคลิป)

ปรากฏว่าเฟซบุ๊ก "ผู้บริโภค" ที่แชร์คลิปดังกล่าวต่อ ได้เผยแพร่ข้อความสนทนาจากคนที่ระบุว่าเป็นแฟนสาวของ "แจ็กแปปโฮ" เข้ามาสอบถามว่าคลิปที่เอาไปลงมาจากไหน เมื่อแอดมินตอบว่าไม่ทราบเพราะสมาชิกเอามาลง จึงได้กล่าวว่า "คิดดีแค่ไหนคะถึงเอามาลง คิดไตร่ตรองถี่ถ้วนแล้วใช่ไหมคะที่ต้องการสื่อออกมาแบบนี้ ทำไมไม่เอาคลิปที่คนอื่นขึ้นไปยืนมาลงด้วยล่ะคะ" แอดมินจึงตอบว่า ทางเพจไม่ได้เอามาลง แต่มันอยู่ในกลุ่มที่มีสมาชิกเอามาลง อีกฝ่ายจึงถามว่า แต่คุณแชร์ แอดมินจึงตอบว่า ใช่ แอดมินเป็นฝ่ายแชร์เอง แฟนสาวของแจ็กแปปโฮจึงกล่าวว่า "ถ้าติดตามเราขนาดนี้ วันหลังเราขอให้เอาคลิปที่เราทำดีมาลงให้หน่อยนะคะ เจ้าของเพจคือใครคะ แล้วคุณจะแชร์ทำไมคะ ถ้ายังไม่รู้ลึกตื้นหนาบางของเนื้อหา ให้คนในคลิปโดนด่าต่างๆ นานา" แอดมินจึงถามกลับไปว่า ทางเพจเราผิดที่แชร์ถูกไหม ไม่ต่อว่าคนโพสต์ หมายความแบบนี้ใช่ไหม

อีกฝ่ายจึงกล่าวว่า "ไม่ได้อยากให้ต่อว่าใครค่ะ เรามองว่าคุณแชร์แบบไม่พิจารณา เหมือนคุณแชร์ต้องการเอากระแส เอายอดไลก์จากชื่อเสียงเรา" แอดมินจึงกล่าวว่า คิดแบบนั้นทำไม เราคือเพจผู้บริโภค อีกฝ่ายจึงกล่าวว่า "อ้าว แล้วทำไมคุณไม่ทักมาถามความจริงจากเราก่อน ก็คือไม่ลบเนอะที่แชร์" แอดมินจึงบอกว่า ไปบอกต้นทางให้ลบเลย ไม่มีปัญหา อีกฝ่ายจึงกล่าวว่า "ต้นเหตุมันเกิดแค่ในกลุ่มอะ แต่ของคุณคือเพจ คุณแชร์มา แค่นี้เจตนาก็รู้แล้วค่ะว่าอยากเกาะ" แอดมินจึงกล่าวว่า ไม่เป็นไร จะหาว่าเราเกาะก็ได้ อีกฝ่ายจึงกล่าวว่า "โอเค วันหลังฝากแชร์คลิปทำความดีด้วยนะคะ มีเยอะเลย แชร์ให้หน่อยค่ะ ตัดต่อเสร็จจะทักมาให้ช่วยแชร์นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ" พร้อมกับแปะลิงก์คลิปแจกกล่องสุ่ม 1 บาท อ้างว่าแจกเยอะเลย ไอโฟน 13 ทองคำ และกล่าวว่า คลิปแจกทุเรียนก็ได้ เพราะเพจคุณเกี่ยวกับผู้บริโภค

แอดมินเพจ "ผู้บริโภค" ระบุว่า "ชี้แจงกรณีคลิปคุณแจ็กแปปโฮ ที่ทางเพจแชร์มาจากกลุ่ม ทางเพจผู้บริโภคเองเป็นเพจที่นำเสนอเรื่องราวของผู้บริโภคในแง่มุมต่างๆ ซึ่งในคลิปที่ทางเพจได้แชร์ไปนั้น ต้นทางมาจากผู้บริโภคท่านหนึ่งที่ลงในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค และทางเพจก็ได้แชร์มาจากโพสต์ต้นทาง แต่ได้สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนคุณแจ็กแปปโฮ ซึ่งทางแฟนของคุณแจ็กแปปโฮได้มีการส่งข้อความมาต่อว่าทางเพจ หาว่าทำให้เสื่อมเสียและยังเน้นยำว่าทางเพจเจตนาอยากเกาะให้มีกระแส หรือใช้คำบ้านๆ ว่า เกาะแจ็กแปปโฮดัง ซึ่งทางพี่งัวเองก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะที่ผ่านมาทางเราเองก็นำเสนอเรื่องราวแนวๆ นี้มาโดยตลอด อะไรถูกก็ว่าตามถูก อะไรผิดก็ว่าตามผิด

แต่ในกรณีร้านโอมากาเสะที่คุณแจ็กแปปโฮขึ้นไปเหยียบนั้น มองในมุมของผู้บริโภคคนหนึ่ง ในการไปรับประทานอาหารที่ร้าน ไม่ว่าจะร้านธรรมดาทั่วไปหรือร้านโอมากาเสะ ทางร้านเองก็คงไม่อยากให้ใครขึ้นไปเหยียบบนโต๊ะอาหาร เพราะมันเป็นบริเวณที่ควรจะสะอาด ไม่ควรขึ้นไปเหยียบ และถ้าเราตั้งใจอยากไปกินโอมากาเสะสักร้านหนึ่งแล้วมารู้ว่าร้านดังกล่าวมีคนขึ้นไปเหยียบบนบริเวณประกอบอาหาร จะรู้สึกอย่างไร การกินโอมากาเสะ มันก็ไม่ใช่ราคาถูก เข้าใจนะว่าร้านคงมีการทำความสะอาดแล้ว แต่ความรู้สึกล่ะ คือต้องคิดตรงนี้ด้วย สุดท้ายนี้ทางพี่งัวและเพจผู้บริโภคเองก็ยังยืนยันว่าจะนำเสนอเรื่องราวของผู้บริโภคต่อไป ถึงแม้ว่าจะโดนกล่าวหาว่าเกาะกระแสคุณแจ็กแปปโฮดังก็ตาม การนำเสนอเนื้อหาก็ขึ้นอยู่กับมุมมองผู้บริโภคจะตัดสินใจ พี่งัวก็จะทำหน้าที่ต่อไป ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตาม"

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่

ด้านร้านโอกามาเสะที่ปรากฏในคลิป ย่านถนนพัฒนาการ ได้โพสต์ภาพทางร้านพร้อมข้อความเป็นภาษาอังกฤษ แปลได้ว่า "ทางร้านเราเสิร์ฟเฉพาะอาหารคุณภาพดีและถูกสุขลักษณะ พนักงานทุกคนมีการตรวจ ATK เป็นประจำทุกสัปดาห์ และทุกคนได้รับการฉีดวัคซีน พนักงานของเรามีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเริ่มงาน ทุกคนสวมถุงมือและหน้ากากอนามัยตลอดเวลาก่อนเข้างาน มีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคแบบฟูดเกรดก่อนและหลังการให้บริการ พร้อมกับบอกราคาคอร์สเริ่มต้นที่ 3,499-5,555 บาท ไม่รวมเซอร์วิสชาร์จและภาษี เปิดเพียง 4 รอบเท่านั้น คือ 13.00, 16.00, 18.00 และ 20.00 น. ปรากฏว่ามีชาวเน็ตทัวร์ลง เข้าไปคอมเมนต์ทางร้านจำนวนมาก ตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น

- ราคาครึ่งหมื่น แต่ผมคงไม่กล้าไปกินหรอกครับ เห็นแล้วรับไม่ได้ครับ อยากให้ร้านทบทวนเยอะๆ นะครับ ว่าที่ให้ทำไป ปิดร้านเลี้ยงก็จริง แต่การเหยียบบนโต๊ะ บนพื้นที่ทำอาหารเป็นพฤติกรรมที่เหมาะสมหรือไม่ และอยากให้พิจารณาต่ออีกหน่อยว่า ลูกค้าท่านอื่นที่จะมาใช้บริการต่อ จะรู้สึก หรือคิดยังไงครับ ขอบคุณครับ

- สำหรับการทำอาหาร โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น ที่ทำอาหาร จุดเตรียมและทำอาหาร เสมือนเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ และการให้เกียรติแก่เชฟ พ่อครัว การที่ร้านลดทอนคุณค่าความศักดิ์สิทธิ์ลงด้วยการให้ใครสักคนไปเดินเล่น ก็เท่ากับทำลายคุณค่าของร้านเอง ต่อให้อาหารจะวิเศษเลิศเลอขนาดไหน อาหารที่คุณขายผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ใช่พวกตลาดล่างเป็นหลัก แม้พวกตลาดล่างจะชอบพร่ำว่าตัวเองมีปัญญาไปกิน ก็มีเงิน ก็เท่านั้นแหละ มันก็คงกินได้แค่ครั้งสองครั้ง ร้านที่ควรจะรักษาคุณค่าเอาไว้ให้ลูกค้าหลายๆ กลุ่ม ก็กลายเป็นเสียภาพลักษณ์ไปโดยปริยาย ในทางการตลาด เรียกว่าทำลาย Brand และคุณค่าอย่างสมบูรณ์ จะแก้ก็คงต้องใช้เวลา เพราะคนไทยลืมง่าย ดรามาไม่นาน เดี๋ยวก็ลืม เดี๋ยวพอมีคนรีวิวใหม่ จ้างคนรีวิวใหม่ก็จะกลับมาได้อีก ยุคนี้คนลืมง่าย และเน้นตาม content คนที่ติดตามมากกว่า ตามประสาดรามายุคดิจิทัล

- ถ้าไม่เปลี่ยนโต๊ะที่มันเหยียบผมไม่ไปกินนะครับ ไม่ให้เกียรติลูกค้าที่ไปรับประทานต่อเลย

- ไปเก็บค่าโต๊ะกับไอ้คนที่ขึ้นไปเหยียบครับ ไม่งั้นไม่มีคนกล้ากินหรอก เพราะมันดูสกปรก ต่อให้เอาอะไรมาล้างก็ตาม

- ผมว่าร้านคงคิดไม่ถึงว่าจะมีคนมายืนบนโต๊ะอาหารในร้านแบบนี้ แบบในคลิป ภาพลักษณ์ร้านอาหารดีๆ หายไปหมดเลยนะครับ เจอแบบนี้น่าปวดหัวแทนเจ้าของร้าน

- ตกลงที่เน็ตไอดอลแก้ตัวบอกไม่ได้ขึ้นคนเดียว คนในงานขึ้นหลายคน ร้านนี้คงให้ใครก็ได้ที่เหมารอบขึ้นไปเหยียบสินะ ไม่สมราคาเลย

- โต๊ะก็เป็นส่วนสําคัญสําหรับการรับประทานนะครับ เเนะนําว่าให้ยกเซตทั้งเขียง ทั้งโต๊ะเลยจะดีกว่า เพราะผมเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากกินหรือสัมผัสขี้ตีนหรือเชื้อโรคที่คนคนนั้นเหยียบขึ้นไปเเน่นอน

- ราคากลางๆ ในระดับโอมากาเสะทั่วไป แต่การรักษาความสะอาดแย่เลยนะครับ ให้คนขึ้นไปเหยียบตรงที่ใช้สำหรับปรุงอาหาร คนไปกินก็เหมือนไปกินขี้ตีนของคนที่ปีนขึ้นไป

- พรีเมียมมากๆ ครับ ร้านอื่นไม่มียืนบนโต๊ะแบบนี้ พรีเมียมมากๆ

- ร้านควรเรียกร้องให้ทางแจ็กจ่ายค่ารีโนเวต หรือค่าเสียหาย กรณีนี้สามารถฟ้องร้องได้ ลองปรึกษาทนายดูครับ

- แจ็กมันบอกว่ามันไม่ได้ขึ้นโต๊ะคนเดียว อะ แสดงว่ามีคนขึ้นหลายคนเหรอ ชี้แจงหน่อยสิ

- ผมขอเหมาร้านแล้วไปขี้บนโต๊ะไม่ผิดใช่มั้ยครับ

- เหมือนเอาตีนเหยียบเขียง แล้วเช้าเอามาล้างแล้วหั่นผักต่อ

- เปลี่ยนโต๊ะหรือยังครับ แค่เช็ดโต๊ะไม่พอหรอกนะ

- โต๊ะอาหารนะครับพี่ ถึงพี่จะล้างแล้วแต่ภาพมันติดตานะครับพี่ครับ

- เสียดายคุณภาพ และบรรยากาศร้านหมด ที่ให้คนกิริยามารยาททรามๆ แบบนั้นใส่รองเท้าขึ้นมาบนโต๊ะอาหาร ส่วนที่เหลือให้คุณเจ้าของร้านคิดเอาเองนะครับว่าจะต้องทำยังไงหลังจากนี้

- คำแนะนำเดียว ในมุมมองการตลาด คือรีโนเวตร้านใหม่ เปลี่ยนโต๊ะที่คนยืนครับ สร้างความมั่นใจให้กับร้านใหม่

- สโคปความคิดร้าน ที่คิดว่าฉีดแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อก็หมดเรื่องแล้วนั้น มันคือการขาดการให้เกียรติในอาชีพที่ตนทำงานครับ บริเวณนั้น ถ้าคนที่มีจิตวิญญาณ เคารพอาชีพที่ตนทำ จะต้องคิดว่าเป็นพื้นที่ห้ามก้าวล่วง ไม่ว่าจากลูกค้า หรือตนเอง การเข้าไปเหยียบในพื้นที่ ไม่เพียงแต่ผิดหลักอนามัยอาหารเท่านั้น พ่อครัวซูชิทุกคนจะต้องกรีดร้องต่อการกระทำนี้ครับ คนไม่ให้เกียรติอาชีพตัวเอง อาหารก็ไม่ได้เรื่องหรอกครับ


อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
























กำลังโหลดความคิดเห็น