xs
xsm
sm
md
lg

บทสรุปความสำเร็จ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” แคมเปญกระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ สนับสนุนผู้จัดงาน ต่อลมหายใจผู้ประกอบการ ฝ่าวิกฤตโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส หรือ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเป็นวงกว้างทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก แต่มาจนถึงขณะนี้เราต่างก็เรียนรู้ที่จะปรับตัวอยู่กับโรคระบาดนี้ให้ได้ อุตสาหกรรมไมซ์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนัก แน่นอนว่าในช่วงที่นานาประเทศงดการเดินทางระหว่างกันนั้น ทำให้ตัวเลขของนักเดินทางธุรกิจจากต่างประเทศเป็น 0 ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไมซ์ในประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง


ในปี 2563 สำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ ในฐานะหน่วยงานที่ต้องสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างเร่งด่วน โดยหันกลับมากระตุ้นให้เกิดการจัดการประชุม สัมมนา ในประเทศ หรืออย่างน้อยกิจกรรมองค์กรในพื้นที่ชุมชน ให้คนในประเทศได้พึ่งพากัน ชุมชนเกิดรายได้ และผู้ประกอบการก็ยังอยู่รอด นี่คือที่มาของ “โครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” โครงการที่ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมองค์กร ได้แก่ การประชุม การสัมมนา การอบรม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล กิจกรรมเพื่อสังคม กิจกรรมศึกษาดูงาน หรือกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งในชุมชน โดยแบ่งเป็นให้การสนับสนุนมูลค่า 15,000 บาทสำหรับการจัดกิจกรรม 1 วัน ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง และ 30,000 บาทสำหรับการจัดกิจกรรม 2 วัน 1 คืน สำหรับผ่านไป 2 ปี


นายพัฒนชัย สิงหะวาระ ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคใต้ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินโครงการว่า “จากการดำเนินงานโครงการที่ผ่านมา พบว่าโครงการประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่า มีส่วนช่วยเหลือผู้ประกอบการไมซ์ทั่วประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ในช่วงที่ยังจัดงานได้ ไม่ได้มีการล็อคดาวน์นั้น มีผู้เข้ามาขอรับสิทธิ์จากโครงการเพื่อจัดกิจกรรมประชุม สัมมนา หรือกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการมีงานเข้ามา ชุมชนมีรายได้จากการลงพื้นที่ของหน่วยงาน องค์กร หรือมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้า ของที่ระลึก เกิดการจ้างงานในหลายตำแหน่งแม้บางครั้งอาจจะเป็นการจ้างแบบชั่วคราวแต่ก็ช่วยทำให้ประชาชนมีรายได้ สิ่งเหล่านี้คือผลทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเมื่อมีการจัดกิจกรรมไมซ์


โดยภาพรวมของความสำเร็จโครงการทั้งสองปีที่ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการไมซ์และกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นั้นพบว่าในปีแรกได้รับผลตอบรับดีมาก ระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 20 ตุลาคม 2563 มีผู้ขอรับสิทธิ์จำนวน 967 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มประชุม 1 วัน (สนับสนุน 15,000 บาท) จำนวน 26,906 คน เกิดการใช้จ่ายจำนวน 64,574,400 บาท กลุ่มประชุม 2 วัน 1 คืน (สนับสนุน 30,000 บาท) จำนวน 24,077 คน เกิดการใช้จ่ายจำนวน 79,454,100 บาท คิดเป็นจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมไมซ์ทั้งสิ้น 50,983 คน ก่อให้เกิดรายได้แก่เศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณ 144 ล้านบาท


ส่วนการดำเนินงานของปี 2564 ที่เพิ่งสิ้นสุดไปนั้น มีผู้ขอรับสิทธิ์จำนวน 878 กลุ่ม (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มกราคม 2565) แบ่งเป็นกลุ่มประชุม 1 วัน จำนวน 16,099 คน กลุ่มประชุม 2 วัน 1 คืน จำนวน 12,382 คน คิดเป็นจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมไมซ์ทั้งสิ้น 28,481 คน ส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจกว่า 157.4 ล้านบาท


ซึ่งในการดำเนินงานในปีที่ 2 ทีเส็บได้พัฒนาระบบให้เอื้อต่อการขอรับการสนับสนุน จากที่เมื่อเริ่มต้นโครงการอย่างเร่งด่วน ต้องดำเนินการในรูปแบบแมนนวล ผู้ขอรับสิทธิ์ยังต้องส่งหลักฐานเป็นเอกสาร แต่ในปีนี้ได้ปรับให้เป็นดิจิทัลให้รวดเร็วและสะดวกมากขึ้นผ่านแพลตฟอร์ม Thai MICE Connect มีการสร้างการรับรู้วิธีใช้งานอย่างทั่วถึงทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มีสื่อที่ช่วยสร้างการรับรู้ไม่ว่าจะเป็นโบรชัวร์ อี-โบรชัวร์ (e-Brochure) วิดีโอแนะนำการใช้แพลตฟอร์ม เป็นต้น ทั้งยังได้จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้โครงการใน 8 จังหวัด 4 ภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก พัทยา พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต เพื่อทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมไมซ์หรือกลุ่มเป้าหมายโครงการได้ขอรับการสนับสนุนมากขึ้น”

สำหรับโครงการในเฟสต่อไปนั้น ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในเดือนมีนาคม โดยทีเส็บพยายามจะขออนุมัติงบประมาณเพิ่มขึ้นจากเดิมคือประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้กระตุ้นการจัดกิจกรรมไมซ์ในประเทศ ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการขอรับสิทธิ์เพิ่มขึ้นอีก 4-5 เท่า และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าระบบเศรษฐกิจได้อีกจำนวนมาก แน่นอนว่าทีเส็บเองก็ต้องพัฒนาระบบการขอรับการสนับสนุนให้ตอบสนองผู้จัดงานให้ได้รวดเร็วขึ้น ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น เบิกจ่ายอย่างรวดเร็ว จากกระแสนการตอบรับของผู้ประกอบการนั้น ค่อนข้างเห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว มีการเฝ้ารอให้เปิดเฟสต่อไปโดยเร็ว เพราะช่วยเหลือได้อย่างแท้จริง องค์กรก็มีส่วนลดการจัดงาน ลดต้นทุน โรงแรมเองก็สามารถนำไปเป็นเครื่องมือทางการตลาด สามารถจัดโปรโมชั่นเพิ่มเติม เหมือนมีการได้ออนท็อปงบประมาณการจัดงานให้ได้อาหารว่างที่ที่รูปแบบหลากหลายมากขึ้น เพิ่มอาหารกลางวัน หรืออัปเกรดห้องพักให้ลูกค้าก็ได้เช่นกัน
สำหรับผู้ที่สนใจขอรับสิทธิ์โครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า รอติดตามรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ thaimiceconnect.com และ Facebook : Thai MICE Connect




กำลังโหลดความคิดเห็น