โซเชียลฯ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เหตุหนุ่มตำรวจขี่บิ๊กไบค์ชนแพทย์หญิงโรงพยาบาลรามาธิบดีขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ จนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยผู้บังคับบัญชาเผย ส.ต.ต.ยอมรับผิด สาเหตุเนื่องจากเปลี่ยนเลนมาทางขวาทำให้มองไม่เห็น และขี่มาด้วยความเร็ว
จากกรณีโซเชียลฯ ได้มีการแชร์เหตุการณ์แพทย์หญิง วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชนเสียชีวิตขณะข้ามทางม้าลาย โดยในเวลาต่อมามีการเผยข้อมูลผู้ขับขี่รถบิ๊กไบค์คันดังกล่าว พบเป็นตำรวจยศสิบตรี สังกัดตำรวจควบคุมฝูงชน และบริเวณที่เกิดเหตุชนคือทางข้ามม้าลาย หน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท ขาออก ใกล้หน้าสำนักงานเขตราชเทวี จนทำให้แพทย์หญิง วราลัคน์ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชวิถีในเวลาต่อมา ทำให้เกิดกระแสดรามามากมายตามมา ว่าเหตุใดแพทย์หญิง วราลัคน์จึงต้องประสบอุบัติเหตุขณะข้ามทางม้าลาย และยังทำให้หลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นและถกเถียงกันไปในหลายด้าน บางส่วนมองว่าบิ๊กไบค์ควรชะลอความเร็วหากทราบว่าถนนด้านหน้าคือทางม้าลาย และบางส่วนเชื่อว่าทางม้าลายในประเทศไทยนั้นมีหลายแห่งไม่มีความปลอดภัยมากพอสำหรับประชาชนที่จำเป็นต้องข้ามถนน และบางแห่งยังสร้างในจุดที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวเพิ่มเติม โดย พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการ กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน หรือ อคฝ. ระบุว่า "คนที่ขับขี่รถบิ๊กไบค์คันที่ก่อเหตุเป็นตำรวจอยู่ในสังกัดกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนจริง ซึ่งหลังเกิดเหตุได้มีการสอบถามจนทราบว่าหลังเกิดเรื่องได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไทเป็นที่เรียบร้อย และจากการสอบถามยังทราบว่า ส.ต.ต.นรวิชญ์ขี่รถจักรยานยนต์มารับเอกสารที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้วจะไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อขี่รถผ่านจุดเกิดเหตุได้พยายามจะชิดขวา เพราะจุดเกิดเหตุเป็นทางม้าลาย ซึ่งรถคันอื่นได้หยุดให้ทางหมดแล้ว แต่รถของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ได้เปลี่ยนเลนมาทางขวาทำให้มองไม่เห็น ประกอบกับมาด้วยความเร็ว จึงทำให้ชนแพทย์หญิง วราลัคน์ ก่อนเสียหลักล้มลง ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าทำผิด ซึ่งวานนี้ผู้บังคับบัญชาได้เดินทางไปรดน้ำศพเป็นการส่วนตัวกับทางครอบครัว และได้พูดคุยกับทางครอบครัวเบื้องต้นแล้วว่าเจ้าตัวผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ และยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ด้านพนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งต่อจากนี้จะมีการนัดตัวผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องต่อพนักงานอัยการอีกครั้งในวันที่ 9 มีนาคม เพราะตอนนี้ยังต้องหาผลการตรวจรถบิ๊กไบค์ที่มีการส่งตรวจไปที่กองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงผลการตรวจชันสูตรศพเพื่อรวบรวมเข้าสำนวนคดี
