สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชูบริโภคเนื้อไก่ช่วงหมูแพง ช่วยสนับสนุนเกษตรกรหลังต้องชะลอการเลี้ยงและราคาตกต่ำช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มุ่งเพิ่มทางเลือกโปรตีนคุณภาพสูงให้คนไทยไม่ขาดแคลนเนื้อสัตว์คุณภาพดี
นางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้เลี้ยงไก่ก็ประสบปัญหาขาดทุนไม่ต่างกับผู้เลี้ยงหมู เนื่องจากต้องชะลอการเลี้ยงและการจับสัตว์จากความต้องการในตลาดลดลงและราคาเนื้อไก่ตกต่ำ จากการประกาศให้ทำงานที่บ้านและการเรียนออนไลน์ของโรงเรียนทั่วประเทศ ตลอดจนความไม่มั่นใจของผู้บริโภค ขณะที่เกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนสูงขึ้นทั้งจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งข้าวโพดและกากถั่วเหลืองที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่า 30-40% รวมถึงปัจจัยการผลิตอื่นในการบริหารจัดการเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโรคระบาดมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“คนไทยมีทางเลือกจากโปรตีนเนื้อสัตว์หลายประเภทโดยเฉพาะเนื้อไก่ที่มีโปรตีนสูงกว่าเนื้อหมู 3 เท่า แต่ราคาถูกกว่าเนื้อหมูมาก ผู้บริโภคสามารถบริโภคเนื้อไก่ทดแทนได้ในช่วงที่หมูขาดแคลนและมีราคาสูง” นางฉวีวรรณ กล่าว
นางฉวีวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาเนื้อไก่และชิ้นส่วนต่างๆในตลาดสดยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุนการเลี้ยงที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น ราคาไก่ทั้งตัวเฉลี่ยต่อกิโลกรัมอยู่ที่ 80 บาท อกไก่ 75 บาท น่องไก่ 65 บาท ขณะที่ราคาไก่หน้าฟาร์มอยู่ที่ 39 บาท/กก. เป็นต้น ซึ่งเนื้อไก่เป็นโปรตีนทางเลือกในราคาที่เหมาะสมให้กับผู้บริโภคและสามารถปรุงอาหารได้หลากหลายเมนูไม่ต่างจากเนื้อหมู ซึ่งขาดแคลนและมีราคาสูงในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ขอให้รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนการผลิตด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์และปัจจัยการผลิตอื่นให้มีราคาที่เหมาะสมขึ้นลงตามกลไกการตลาดและมีมาตรการป้องกันโรคที่เคร่งครัด เพื่อรักษามาตรการผลิตและส่งออกเนื้อไก่ของไทยตามมาตรฐานสากล สร้างหลักประกันอาหารปลอดภัยให้กับผู้บริโภค ในฐานะประเทศผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่อันดับ 4 ของโลก