ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนรักกุ้งแล้ว ต้องไม่พลาดกุ้งแม่น้ำยักษ์เผาสั่งตรงจากศรีลังกา รับรองว่า ถ้าได้ลิ้มลองแล้วจะลืมกุ้งแม่น้ำเผาของอยุธยาไปเลย
กุ้งแม่น้ำไซส์จัมโบ้ 2-3 ตัว/โล ถือเป็นสินค้าส่งออกเกรดพรีเมียมของประเทศศรีลังกา อันลือชื่อไปทั่วโลก แม้แต่คนส่วนใหญ่ของประเทศเอง ยังไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองความอร่อยเลย จะมีเพียงร้านอาหารระดับโรงแรมห้าดาว หรือร้านเชฟมิชลินเท่านั้น จึงจะมีเสิร์ฟลูกค้า ที่เหลือส่งออกไปต่างประเทศหมด
กุ้งยักษ์ที่ตัวโตเกือบเท่าล็อบสเตอร์นั้น ไม่ได้โตผิดขนาด เพราะอัดอาหารเร่งการเจริญเติบโต แต่เป็นกุ้งแม่น้ำสายพันธุ์พิเศษที่เติบโตตามธรรมชาติในน่านน้ำเปิดที่สะอาดของทะเลสาบและอ่างเก็บน้ำของศรีลังกา และจับโดยชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนที่ยากจน ทั้งนี้ เพราะรัฐบาลส่งเสริมให้มีประมงกุ้งเพื่อสร้างอาชีพให้คนยากจน
ดังนั้น เมื่อกินกุ้งยักษ์จากศรีลังกานอกจากจะได้ความฟินอร่อยแล้ว ยังถือเป็นการช่วยชุมชนและรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย
และถ้าอยากกินกุ้งแม่น้ำเผาจัมโบ้จากฝีมือเชฟระดับห้าดาว ต้องไปที่นี่เลย ร้าน “แจ็คกี้ ซีฟู้ด” อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ ร้านอาหารจีนสไตล์ซีฟู้ดฮ่องกง มี มร.แจ็คกี้ ชาน เชฟชาวฮ่องกงที่มีประสบการณ์ด้านอาหารจีนซีฟู้ดมานานกว่า 40 ปี
ร้านแจ็คกี้จะสั่งกุ้งแม่น้ำคัดไซส์พิเศษจากศรีลังกาน็อกด้วยน้ำแข็งส่งตรงมาที่ร้านทุกวัน จะได้เนื้อกุ้งสดเนื้อใสๆ เหมือนกุ้งเป็นๆ เคล็ดลับการย่างกุ้งให้อร่อยของเชฟแจ็คกี้ ต้องย่างบนเตาถ่าน ที่ควบคุมไฟให้ร้อนกำลังดี ปิดฝาเพื่ออบเนื้อกุ้งให้สุกแบบฉ่ำน้ำเนื้อ ทิ้งไว้ 6 นาที เปิดฝาออกมา จะเจอเนื้อกุ้งสีขาวจี๊วะอวบอัดแทบปริจากเปลือกน่ากินมาก กัดไปสัมผัสกับเนื้อกุ้งที่เด้งแน่น รสหวานหอมที่สุดของความฟินเป็นอย่างนี้นี่เอง และถ้าอยากให้แซบกว่านี้มีตัวช่วยคือ “น้ำจิ้มเมโทรซีฟู้ด” เจ้าของตำนานร้านอาหารทะเลขนาดใหญ่ในกลางเมืองทอง รสแซ่บนัวกลมกล่อมมากๆ
ที่สุดของกุ้งแม่น้ำเผา คือ มันกุ้งสีส้มเข้มแบบครีมเยิ้มๆ เห็นแล้วคิดถึงข้าวสวยร้อนๆ ตักมันกุ้งคลุกข้าวสวย เติมเมโทรซีฟู้ดลงไปอีกหน่อย หอมมันหวานอร่อยจนเผลอกินจนข้าวหมดจาน
ของดีมีน้อย ของอร่อยอย่าช้าเพราะกุ้งแม่น้ำจัมโบ้จากศรีลังกามีขายเพียงวันละไม่มาก ใครมาไวสั่ง 20 ตัวแรก ราคา 799 บาท และตัวถัดไปราคา 899 บาท (โทร.มาจองล่วงหน้าได้ที่ 080-247-5958 )
นอกจากกุ้งแม่น้ำจัมโบ้เผาแล้ว ร้านแจ็คกี้ ซีฟู้ด ยังมีเมนูซีฟู้ดแบบสดๆ ที่เป็นของดีและหายากตามคอนเซ็ปต์มาให้ลิ้มลองความอร่อยอีกมากมาย ซิกเนเจอร์ที่ต้องลอง คือ เป็ดย่างไม้ลิ้นจี่ แคเนเดียนล็อบสเตอร์นึ่งข้าวเหนียวทรงเครื่อง ปูเนื้อนึ่งไข่ขาวเหล้าจีน กับอีกกว่า 100 เมนู
นอกจากจะฟินกับอาหารแล้ว บรรยากาศยังเลอค่ามากเหมือนนั่งอยู่ริมทะเลสาบกว้างไกลสุดสายตาตรงขอบฟ้ามีคอนโดสูงเรียงรายให้ซึมซับกลิ่นอายของฮ่องกง คงหาบรรยากาศในเมืองแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว นั่งกินอาหารอร่อย ลมพัดเอื่อยๆ คลอเคล้ากับเสียงเพลงเบาๆ ทำให้สามารถสัมผัสกับความสุขอย่างอิ่มเอม
ถ้าอาหารของร้านแจ็คกี้ ซีฟู้ด ยังสะใจไม่พอ ก็ยังมีอีก 3 ห้องอาหารที่ตั้งอยู่บริเวณรอบ อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ สั่งมาปรนเปรอกระเพราะได้อีก
อุวะจิมะ ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เอาใจคนรักซูชิแอนด์โคลกริล สั่งซาชิมิสด ๆ ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ซูชิเนื้อแน่นเต็มคำ และของทะเลย่างจากถ่านชาร์โคล (โทร. 064-184-7109)
ร้านบรีซ คาเฟ่ แอนด์ บาร์ เป็นแนวฟิวชั่นผสมผสานระหว่างตะวันตกกับไทย โดยมีซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาด คือ พิซซ่าเตาถ่านโฮมเมดอบสดใหม่จากเตาที่สั่งทำพิเศษจากเมืองนอกราคาครึ่งล้าน เบอร์เกอร์เนื้อวากิว ยำส้มโอ ทาโก้กุ้งกรอบ ฯลฯ. (โทร. 02-033-1851 )
อีสาน จิ้มจุ่ม อาหารบ้านๆ ลองอาหารแนวแซบนัวกินริมทะเลสาบดูบ้างจะรู้ว่าบรรยากาศคลาสสิคขนาดไหน ฟินกับจิ้มจุ่มเครื่องแน่นทั้งซีฟู้ด เนื้อสันใน เนื้อสันนอก หมูสามชั้น เนื้อโคขุน เครื่องใน ฯลฯ. ซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาด คือ ส้มตำไทยใส่พริกขี้หนูว่าแซบแล้วลอง ส้มตำไทยใส่วาซาบิแหวกแนวความเผ็ดขึ้นจมูกดูบ้างว่าจะแซบไปถึงไหนกัน (โทร. 02-033-5009)
ห้องอาหารทั้ง 4 แห่งของอิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30-24.00 น. ถ้าแวะมาทานอาหารมื้อเย็น ขอแนะนำบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “ล่องเรือ Pontoon Boat” เรือสำราญส่วนตัวที่จะพาล่องชมวิวทะเลสาบสัมผัสบรรยากาศสุดชิลล์ของ IMPACT Lakefront ดูพระอาทิตย์ตกสุดแสนโรแมนติก พร้อมจิบเครื่องดื่มและขนมหวาน (โทร. 02-033-1851)