xs
xsm
sm
md
lg

สุลต่านถูกฮอลันดาไล่ออกจากเมือง มุ่งมาเฝ้า ร.๔! ถวายน้องสาวหวังให้ช่วยทวงราชบัลลังก์คืน!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โรม บุนนาค



ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ปรากฏชื่อเจ้าจอมต่างชาติ ๓ องค์ คือ เจ้าจอมกำโพชราชสุดาดวง พระราชธิดาในสมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษ์ กับเจ้าจอมมารดาดวงคำ หรือ เจ้าหนูมั่นแห่งเวียงจันทน์ และเจ้าจอมเชื้อสายมลายูอีกองค์หนึ่ง คือ เจ้าจอมตนกูสุเปีย พระธิดาสุลต่านแห่งอาณาจักรเรียว-ลิงงา หรือลิงฆา ในแหลมมลายู

เพจประวัติศาสตร์อิสลามให้ข้อมูลว่า อาณาจักรเรียว-ลิงฆา เดิมเป็นอาณาจักรที่กว้างขวาง มีพื้นที่ตั้งแต่รัฐปาหัง โยโฮร์ สิงคโปร์ และหมูเกาะเรียว มีศูนย์อำนาจอยู่ที่เกาะลิงฆา ซึ่งตระกูลของสุลต่านที่ปกครองลิงฆาก็เป็นพระญาติใกล้ชิดกับราชวงศ์ตรังกานูซึ่งมีความสัมพันธ์อยู่กับกรุงสยาม

ใน พ.ศ.๒๔๐๐ ฮอลันดาได้แผ่อิทธิพลเข้ามายึดลิงงา และขับไล่สุลต่านมหะมุด มูซัฟฟาร์ ผู้ปกครองออกจากเมือง ด้วยข้อหาที่พงศาวดารเมืองตรังกานูระบุไว้ว่า “ไม่ประพฤติการทำนุบำรุงบ้านเมือง วิลันดาไม่ชอบจึงไล่ออกจากเมืองลิงฆา” และบันทึกข้อมูลต่อไปว่า

“…ณ ปีวอกโทศก แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สุลต่านมหะมุดให้แจะแดงมะหมัดถือหนังสือมาทางสิงคโปร์เข้ามากรุงเทพฯ ว่าจะขอเข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ณ ปีระกา ตรีศก สุลต่านมหะมุดให้แจะแดงมะหมัดถือหนังสือเข้ามาอิกฉบับหนึ่งความเหมือนกัน จึงโปรดเกล้าฯให้นายเกิดหลวงโกชา อิศหาก ออกไปลงเรือที่เมืองสงขลาไปสืบสวนดูจนถึงเมืองปาหัง ครั้นนายเกิดหลวงโกชาอิศหากกับล่ามกรมการเมืองสงขลาไปถึงเมืองตรังกานู พบสุลต่านมหะมุดอยู่ที่เมืองตรังกานู พระยาตรังกานูให้สุลต่าน มหะมุดเข้ามากับหลวงโกชาอิศหาก ด้วยเรือเมืองสงขลาถึงกรุงเทพฯเดือน ๗ ปีระกา ตรีศก สุลต่านมหะมุดพักอยู่ที่ตึกริมพระราชวังเดิม

เมื่อสุลต่านมหะมุดเข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทครั้งนั้น เสด็จออกแขกเมืองอย่างใหญ่ณพระที่นั่งอนันตสมาคม สุลต่านมหะมุดพักอยู่ณกรุงเทพฯ ปีหนึ่ง ตนกูสะเปียได้ถวายตัวทำราชการอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ณ เดือนเจ็ด ปีจอ จัตวาศก สุลต่านมหะมุดกราบถวายบังคมลาออกไปเมืองตรังกานู โปรดเกล้าฯ ให้เรือกลไฟชื่อมหาพิไชยเทพออกไปส่ง ณ เมืองตรังกานู...”

สุลต่านมหะมุดเข้ามาราชสำนักสยามครั้งนี้ ได้นำพระขนิษฐาคือตนกูสุเปียเข้ามาด้วย และถวายตัวเป็นบาทบริจาริกาในรัชกาลที่ ๔ ทั้งนี้ด้วยเหตุผลทางการเมืองเพื่อให้พระเจ้ากรุงสยามช่วยเหลือให้กลับคืนสู่ราชบัลลังก์เมืองลิงงา จึงใช้ความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับราชวงศ์ตรังกานูให้ช่วยติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือจากราชสำนักสยาม

เจ้าจอมตนกูสุเปีย มีนามเต็มว่า เติงกู ซาฟียะห์ บินตี อัลมาร์ฮุม ซุลตัน มูฮัมเมด มูอัซซัม ชาห์ เป็นพระธิดาในสุลต่านมูฮัมเมด มูอัซซัม ชาห์ที่ 3 แห่งลิงฆา ส่วนพระมารดาก็เป็นพระราชธิดาในสุลต่านแห่งตรังกานู ซึ่งถือว่าเจ้าจอมสุเปียเป็นเจ้าต่างประเทศ หากประสูติพระราชโอรสพระราชธิดาก็จะได้เป็นเจ้าฟ้า แต่เจ้าจอมก็ไม่ได้ให้ประสูติพระราชโอรสพระราชธิดา

เจ้าจอมตนกูสะเปียอยู่ในราชสำนักสยามประมาณ ๗ ปี จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตในปีพ.ศ.๒๔๑๑ จึงได้กราบถวายบังคมลากลับไปอยู่เมืองตรังกานู และในปีพ.ศ.๒๔๑๑ นั้น ก็ได้สมรสกับบุตรของพระยาตรังกานู แต่ก็ยังมีการติดต่อกับราชสำนักสยาม ในสมัยรัชกาลที่ ๕ คราวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสหัวเมืองมลายู และเสด็จไปยังเมืองตรังกานู เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ได้ทรงบันทึกถึงตนกูสะเปียไว้ในจดหมายเหตุรายวันไว้ว่า

“ พระยาตรังกานูกับรายามุดาศรีตะวัน กรมการ มาคอยรับเสด็จพร้อมกัน ประทับอยู่ครู่หนึ่งแล้วเสด็จลงเรือไปประทับที่บ้านพระยาตรังกานู มีแขกแต่งเป็นคู่เหมือนเมืองกลันตัน ถึงบ้านมีผู้หญิงแต่งตัวคลุมหัวมาคอยรับอยู่มาก มีตนกูสะเปียซึ่งเคยเข้าอยู่เป็นเจ้าจอมทูลหม่อมปู่เป็นต้น ”

เจ้าจอมตนกูสุเปียถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๗ แต่ไม่มีบันทึกว่าสยามได้ไปช่วยเรื่องที่เกี่ยวกับฮอลันดายึดอาณาจักรลิงงาหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น