“เจ้เล้ง ดอนเมือง” โร่ขอโทษหลังพูดเหยียดอาชีพแอร์โฮสเตสและสจ๊วตว่าเป็น “ขี้ข้าบนเครื่องบิน” เผยพูดไปตามประสาคนปากไว ไม่มีเจตนาดูหมิ่น หรือเหยียดบุคคล และอาชีพใดๆ ด้วยความโกรธเกลียด
จากกรณี เจ้เล้ง อารียฉัตร เจ้าของร้านเจ้เล้ง ดอนเมือง ได้อัดคลิปวิดีโอในช่วงหนึ่งพูดพาดพิงอาชีพแอร์โฮสเตส และสจ๊วต กล่าวว่า “40 กว่าเป็นสจ๊วตเป็นแอร์ฯ อะไร เคยเป็นขี้ข้าบนเครื่องบินอะ มาตอนนี้เป็นขี้ข้าบนดิน มันไม่ได้แพงขนาดนั้น แอร์ฯ กับสจ๊วตเจ้เล้งห้ามลูกหลานเป็นเลย มันก็คือคนใช้บ้านเรา แต่คนใช้ดีหน่อยคนใช้บนอากาศ มาทำคอสูงตั้งเชียวนะ เอาล่ะ มึงก็คนใช้บนอากาศไม่มีอะไร “เราสั่งให้ทำอะไรต้องทำ” แต่เจ้เล้งก็ไม่ค่อยงี่เง่ากับเขาหรอก ดังนั้นกูห้ามทุกคนเป็นแอร์โฮสเตส ถ้ามึงอยากทำมาเป็นคนใช้บ้านกูมา กูให้ได้เลยห้าหมื่นแสนหนึ่ง มึงทำให้ได้อย่างเขาแล้วกัน ลูกหลานเจ้เล้งจะไม่มีเป็นแอร์โฮสเตส เพราะเป็นอาชีพที่หางานอื่นต่อไม่ได้ มันเป็นธุรกิจที่จบสั้นๆ” จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก
อ่านข่าวประกอบ : เพจดังถาม “เจ้เล้ง” รู้จักมารยาทส่อภาษา กิริยาส่อสกุลไหมคะ? หลังพูดเหยียดแอร์โฮสเตสเป็น “ขี้ข้าบนเครื่องบิน”
ล่าสุด วันนี้ (10 ธ.ค.) เจ้เล้งได้ชี้แจงว่า ขอโทษหากทำให้กลุ่มแอร์โฮสเตส และสจ๊วตโกรธ และไม่พอใจ ตนไม่ได้มีเจตนาแบบที่พูดไปนั้น เนื่องจากตนได้คุยกับแอร์โฮสเตสสายการบินหนึ่งที่ถูกลดเงินเดือนเหลือ 9,000 บาท จนต้องหาอาชีพเสริม
ตนจึงออกมาพูดว่าไม่ว่าอาชีพทำบนดิน หรือบนฟ้า ในงานบริการทำงานหนักเหมือนกันแต่ได้ค่าตอบแทนที่ต่างกัน ในอดีตอาชีพของแอร์-สจ๊วต รายได้หลักหมื่นถึงแสน แต่ปัจจุบันรายได้ลดลงมาก จึงเปรียบเทียบว่าเด็กปัจจุบันทำงานอยู่ข้างล่าง ก็ยังได้เงินเดือนสูงกว่าแอร์และสจ๊วตในปัจจุบัน ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกหรือบูลลี่อาชีพนี้ เพราะตนเองก็ค้าขายและอยู่กับกลุ่มแอร์ฯ-สจ๊วตมานานแล้ว และใช้บริการสายการบินต่างๆ มานานแล้ว เข้าใจการทำงานอย่างดี
ตอนนี้ได้ลบคลิปดังกล่าวออกไป และขอโทษที่ทำให้ทุกคนไม่สบายใจ
นอกจากนี้ เพจ "ร้านเจ้เล้ง ranjaeleng" ได้โพสต์ข้อความด้วยว่า "จากกรณีที่ดิฉัน เจ้เล้ง นางสาวอารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร ได้อัดคลิปทำอาหารในวันที่ 13 กันยายน 2564 ซึ่งส่วนหนึ่งได้กล่าวพาดพิงถึงอาชีพแอร์โฮสเตสกับสจ๊วตตามเนื้อความดังคลิปนั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อ เกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณค่าของอาชีพนั้นๆ ดิฉันไม่ได้สบายใจในคำพูดที่ดิฉันกล่าวออกไปเลย ซึ่งพูดไปตามประสาคนปากไว โดยมิได้มีเจตนาดูหมิ่น หรือเหยียดบุคคล และอาชีพใดๆ ด้วยความโกรธเกลียดเลย
ดิฉันไม่มีคำใดมาแก้ตัว หรือคำอธิบายใดๆ นอกจากคำว่าขอประทานโทษจากใจจริง โดยต่อไปนี้จะมีสติในการสื่อสารให้มากยิ่งขึ้น พร้อมปรับทัศนคติและมุมมองในการอยู่ในโลกสังคมออนไลน์สมัยใหม่ จึงขอให้ทุกคนที่เจ้เล้งได้กล่าวพาดพิง รวมไปถึงชาวเน็ตที่คอมเมนต์ ให้อภัยและให้โอกาสเจ้เล้งได้พิสูจน์ตัวเองด้วยนะคะ"