รพ.สต.ดอนสัมพันธ์ อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด แจงประเด็นดรามากรณีใช้ข้อความไม่เหมาะสมในใบนัดฉีดวัคซีน ยันไม่ได้มีเจตนาบังคับ หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
จากกรณีเมื่อวันที่ 30 พ.ย. เพจ “หมอแล็บแพนด้า” โพสต์ภาพใบนัดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งหนึ่ง ในตำบลท่าหาดยาว อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งมีข้อความในใบนัดระบุว่า “ไม่มาถือว่าท่านไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐ” ซึ่งประเด็นดังกล่าวกลายเป็นประเด็นดรามาในโลกออนไลน์ ทางเพจระบุข้อความว่า “ข้อความในใบนัดฉีดวัคซีน โหดมาก ควรปรับลงนิดหนึ่งนะครับ”
ล่าสุดทางเพจ “หมอแล็บแพนด้า” ได้โพสต์ชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “สสจ.ร้อยเอ็ดขอทำความเข้าใจกรณีใบนัดฉีดวัคซีนโควิด-19
ตามที่ชาวเน็ตวิจารณ์ ไม่มาไม่ให้ความร่วมมือรัฐ! หมอแล็บแพนด้าได้โพสต์เรื่องราวของใบนัดฉีดวัคซีน ของจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งมีข้อความในใบนัดว่า “ไม่มาถือว่าท่านไมให้ความร่วมมือกับรัฐ” ซึ่งประเด็นดังกล่าวกลายเป็นที่ถกเถียงอย่างหนัก เพราะแม้การฉีดวัคซีนจะมีความสำคัญต่อประชาชนและสังคมโดยรวม แต่ก็ไม่ควรใช้คำพูดลักษณะคาดโทษดังกล่าว และยังแนะนำว่าควรปรับลดคำพูดลงมาเพื่อให้เกิดความร่วมมือด้วยความสมัครใจ
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดขอเรียนว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้ว พบว่าเป็นใบนัดของโรงพยาบาลส่งสริมสุขภาพบ้านดอนสัมพันธ์ ต.ท่าหาดยาว อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด โดยเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานได้ชี้แจงต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า รพ.สต.ดอนสัมพันธ์ต้องการความร่วมมือจากประชาชนกลุ่มเป้าหมายในเขตพื้นที่ตำบลท่าหาดยาวให้มารับวัคซีนให้ได้ครอบคลุม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 มีความปรารถนาดีและห่วงใยประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน จึงได้ทำใบนัดไปยังกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งทาง รพ.สต.ดอนสัมพันธ์ไม่ได้มีเจตนาบังคับ หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ในการมารับวัคซีนแต่อย่างใด และทาง รพ.สต.ดอนสัมพันธ์ได้ทำการชี้แจงขอโทษลงในเพจหมอแล็บแพนด้าแล้ว
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดได้แจ้งให้สถานบริการสาธารณสุขในสังกัดได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้ได้รับทราบเหตุผลการมารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยการสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และมารับบริการด้วยความสมัครใจ และในปัจจุบันประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ดกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับวัคชีนโควิด-19 ก็สามารถเลือกวัคซีนได้หลากหลายขึ้น ทั้ง Sinovac AstraZenaca Pfizer และ Moderna โดยการจัดบริการให้วัคซีนโควิด-19 จะเป็นไปตามที่หลักวิชาการรองรับ”
