นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์ราคาอาหารปรุงสำเร็จอย่างใกล้ชิด โดยดูแลไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน กรมฯ จึงได้หารือกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า สมาคมตลาดสดไทย สมาคมตลาดกลางสินค้าเกษตรไทย และสมาคมห้างค้าปลีก-ค้าส่ง พบว่าวัตถุดิบในการประกอบอาหารปรุงสำเร็จ เช่น หมู ไข่ไก่ ผักสด มีปริมาณเพียงพอ แต่ราคาอาจมีความเคลื่อนไหวขึ้นลงบ้างตามปริมาณผลผลิตที่ลดลง หรือความต้องการใช้ที่เพิ่มมากขึ้น แต่ยังอยู่ในภาวะทรงตัวที่สามารถบริหารจัดการได้ ผู้ประกอบการจึงยืนยันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคาอาหารปรุงสำเร็จ เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนให้ได้บริโภคอาหารปรุงสำเร็จคุณภาพดีและมีราคาที่เหมาะสม กรมการค้าภายในจึงได้จับมือห้างค้าปลีกค้าส่ง ตลาดสดที่อยู่ในความส่งเสริมของกรมฯ และร้านอาหารธงฟ้าทั่วประเทศ รวมกว่า 15,000 ร้านค้า ดำเนินโครงการ “เมนูปรุงสำเร็จอิ่มท้อง ราคาโดนใจ” โดยศูนย์อาหารในห้างค้าปลีกค้าส่ง จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จในราคา 19-40 บาท จำนวนประมาณ 600 สาขาทั่วประเทศ ประกอบด้วย บิ๊กซี โลตัส ฟู้ดแลนด์ เซ็นทรัลฟู้ด และเดอะมอลล์ ร้านอาหารปรุงสำเร็จในตลาดสด จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จในราคา 30-35 บาท จำนวนประมาณ 240 ตลาด ทั่วประเทศ เช่น
ตลาดศูนย์การค้ามีนบุรี ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต ตลาดยิ่งเจริญ ตลาดถนอมมิตร ตลาดบางขุนศรี ภาคเหนือ เช่น ตลาดวรุณ จ.เชียงใหม่ ตลาดทุ่งเกวียน จ.ลำปาง ตลาดกาดริมน้ำ จ.แพร่ ตลาดจตุจักรลำพูน จ.ลำพูน ภาคกลาง เช่น ตลาดสหกรณ์บ้านลาด จ.เพชรบุรี ตลาดบางใหญ่ จ.นนทบุรี ตลาดสดศาลายา จ.นครปฐม ตลาดไท จ.ปทุมธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ตลาดย่าโม จ.นครราชสีมา ตลาดเทศบาลจัตุรัส จ.ชัยภูมิ ตลาดไนซ์บาซ่า จ.บุรีรัมย์ ตลาดสดเทศบาลกุดชุมพัฒนา
จ.ยโสธร ภาคใต้ เช่น ตลาดสำเภาทอง จ.สุราษฎร์ธานี ตลาดสดเทศบาลเมืองพังงา จ.พังงา ตลาดสดเทศบาลควนขนุน จ.พัทลุง ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา ตลาดสดเทศบาลตำบลนาทวี จ.สงขลา เป็นต้น และร้านอาหารธงฟ้า จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จในราคา 35 บาท ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ สำหรับเมนูอาหารปรุงสำเร็จจะเป็นเมนูที่ประชาชนให้ความนิยมรับประทาน เช่น ข้าวไข่เจียว ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว (หมู/ไก่) ข้าวกะเพรา (หมู/ไก่) ข้าวผัด (หมู/ไก่) ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ผัดซีอิ๊ว ข้าวขาหมู และขนมจีนน้ำยา
โดยจะดำเนินการตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนได้ 400 ล้านบาท ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าภายใน (www.dit.go.th)
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าภายในได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการแสดงราคาจำหน่ายให้เห็นชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนซื้อ โดยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาอาหารปรุงสำเร็จอย่างใกล้ชิด หากประชาชนพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ