ทำความเข้าใจใหม่ "กรุงเทพฯ" น้ำท่วมไม่ใช่เพียงแค่น้ำทะเลหนุนสูง ยังมีอีก 2 ปัจจัยหนุน คาดการณ์อีก 15 ปี "กรุงเทพฯ" จะจมน้ำแน่นอน ชี้ควรมีแผนการจัดการป้องกันอย่างจริงจัง
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ในพื้นที่ทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เกิดน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าท่วมหลายแห่ง เช่น บริเวณท่าเรือข้ามฟากพระประแดง, ตลาดปากน้ำ, ท่าน้ำวัดบางนานอก, ถนนเจริญกรุง, ถนนพระราม 3, ถนนสุขุมวิท, ถ.เพชรหึงษ์ อ.พระประแดง, ถนนสุขสวัสดิ์, ถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด)
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 พ.ย. เพจ "Earth Insights for Thailand" ได้ออกมาโพสต์ข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ทำให้พื้นที่หลายแห่งในกรุงเทพฯ เกิดน้ำท่วม โดยทางเพจระบุว่าไม่ได้มีเพียงปัจจัยเดียวที่ทำให้เกิดน้ำท่วม ยังมีเกิดจากฤดูฝนอีกและลักษณะดินของกรุงเทพฯ ที่เป็นดินเหนียวอ่อนทำให้เกิดการยุบตัวลงเรื่อยๆ ทั้งนี้ ทางเพจได้ระบุข้อความอธิบายให้เข้าใจว่า
"หลายคนคงเห็นข่าวน้ำท่วมในหลายพื้นที่เลยนะครับ ทั้งกรุงเทพฯ นนทบุรี หรือสมุทรปราการเองก็ไม่รอด ท่วมกันทีก็ลำบากกันไปหมด ถนนเป็นอัมพาต เช่น แถวเขตบางพลัด สะพานซังฮี้ เจริญนคร พระราม 3 และอีกหลายๆ ที่เลยล่ะครับ
ทางการประกาศว่าน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากน้ำทะเลหนุนสูง แล้วไอ้เจ้าน้ำทะเลหนุนมันคืออะไร จะเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน และกรุงเทพฯ จะจมน้ำไหม เรามาหาคำตอบกันครับ “น้ำทะเลหนุน” ก็คือปรากฏการณ์ “น้ำขึ้น น้ำลง” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาตินะครับ น้ำทะเลหนุนก็คือน้ำขึ้นนั่นเอง ซึ่งช่วงที่มันหนุนสูงเป็นเพราะอิทธิพลแรงดึงดูดระหว่างโลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์มาเรียงตัวในแนวเดียวกัน หรือช่วงวันเพ็ญ พระจันทร์เต็มดวง ก็ส่งผลให้แรงดึงดูดเสริมกัน และทำให้เกิดน้ำขึ้นสูงสุด แต่ช่วงปลายปีของทุกปีจะเป็นช่วงที่วงโคจรของดวงจันทร์กับโลกเข้าใกล้กันมากที่สุด ก็จะทำให้ช่วงน้ำขึ้นก็จะขึ้นมากกว่าช่วงอื่นๆ นะครับ ซึ่งก็คือช่วง วันลอยกระทงพอดีนั่นล่ะครับ แหม.. ปีนี้อาจจะเป็น “วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำจะนองล้นตลิ่ง” ก็ได้นะครับ
แต่น้ำทะเลหนุนสูง ไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้เกิดน้ำท่วมช่วงนี้หรอกนะครับ อีกสาเหตุก็เพราะช่วงนี้อยู่ปลายฤดูฝนพอดี น้ำแต่ละที่ก็ไหลลงมาบรรจบกันโดยมิได้นัดหมาย เพื่อออกสู่ทะเล ปากแม่น้ำพอดี เรียกได้ว่า ผนึกกำลังคูณสองกันไปเลย กรุงเทพฯ หรือบริเวณปากแม่น้ำก็อ่วมสิครับ
ถ้าเราดูข้อมูลจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (ภาพที่ 2) จะเห็นว่าระดับน้ำบริเวณคลองมหาสวัสดิ์ บางกรวย-สวนผัก มีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง (วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 เวลา 15.40 น.) 103.31% เลยนะครับ
The Asian Post เคยรายงานไว้ว่ามี 3 เมืองที่จะจมน้ำเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล 10 เท่า ไม่ต้องเดาเลยใช่ไหมครับ ก็มีกรุงเทพฯ เมืองเวนิส (Venice) และเมืองนิวออร์ลีนส์ (New Orleans) ซึ่งพื้นดินกรุงเทพฯ ของเราจมเฉลี่ย 1-2 เซนติเมตรตลอดทุกปีนะครับ สาเหตุที่ทำให้กรุงเทพฯ จมน้ำ (ภาพที่ 3) ⁉️ ลักษณะดินที่กรุงเทพฯ เป็นดินเหนียวอ่อน และเราก็สร้างเมืองบนดินชนิดนี้ น้ำหนักของตึกทำให้เกิดการยุบตัวลงเรื่อยๆ ไม่สามารถควบคุมการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ได้ ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างใต้พื้นดิน ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (Climate Change)
ปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มมากขึ้นจากสภาพอากาศที่แปรปรวน สภาปฏิรูปแห่งชาติ (National Reform Council) เคยคาดการณ์ไว้นะครับว่ากรุงเทพฯ จะจมน้ำในอีก 15 ปี‼ ได้ยินอย่างนี้แล้วอยากเห็นแผนจริงจังนะครับ ว่าเราจะมีการป้องกันยังไงได้บ้าง ใครมีข้อมูลก็แชร์กันมาได้ ส่วนช่วงนี้ก็ติดตามข่าวกันอย่างใกล้ชิดนะครับ ทางไหนท่วมจะได้หลีกเลี่ยงเส้นทางกัน"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ