วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 เวลา 17.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นางกันตวรรณ ตันเถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพังงา นางพิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา และประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ณ องค์การบริหารส่วนตําบลทับปุด ตําบลทับปุด อําเภอทับปุด จังหวัดพังงา
นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับราคายางพารา ตอนนี้มีน้ำยางข้นที่ราคาลงมาหน่อย ประมาณ 50 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากน้ำยางข้นบ้านเราเอาไปทำถุงมือยาง ซึ่งตลาดใหญ่ที่รับซื้อน้ำยางบ้านเราคือ ประเทศมาเลเซีย ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเลเซียติดโควิด ทำให้การส่งออกน้ำยางจากไทยไปมาเลเซียมีอุปสรรคมาก เพราะกลัวโควิด สุดท้ายยางราคาลง แต่ขี้ยางยังคงราคาสูงอยู่ ยังพอไปได้ แต่ที่ราคาขึ้นมาก คือ ปาล์มน้ำมัน มีบางท่านในที่นี้บอกว่าราคากิโลกรัมละ 9.50 บาทแล้ว เนื่องจากมาตรการบริหารจัดการหลายข้อประสบความสำเร็จ เช่น
1. ก่อนหน้านี้ มีการปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้าปาล์มน้ำมัน ทำให้น้ำมันปาล์มตกอยู่ในประเทศจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนจึงสั่งการห้ามนำเข้าน้ำมันปาล์มทางบกเด็ดขาด ต้องนำเข้าทางเรือเท่านั้น โดยขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง และถ้าเอาออกไปลาวให้เอาออกทางหนองคายเพียงด่านเดียว ถ้าไปกัมพูชาให้ผ่านที่สระแก้ว สำหรับพม่าผ่านแม่สอดที่เดียว มีผลทำให้ปาล์มน้ำมันบ้านเราไม่ล้นตลาดและราคาดีขึ้นเรื่อยๆ
2. ตนได้ดำเนินการร่วมกับรัฐบาล อนุมัติการนำน้ำมันปาล์มผสมกับน้ำมันดีเซลที่เรียกว่าน้ำมัน B5 B7 B20 และ B100 เป็นต้น เมื่อมีคนไปเติมน้ำมันจึงเติมน้ำมันปาล์มด้วยทำให้ขายดีขึ้น
3. ตนส่งเสริมให้พ่อค้าปาล์มส่งออกน้ำมันปาล์มไปต่างประเทศ เพื่อช่วยระบายปาล์มบ้านเราให้ออกไปและให้ราคาดีขึ้น สุดท้ายประสบความสำเร็จตนนำคณะไปที่ประเทศอินเดีย 2 ครั้ง นำพ่อค้าส่งออกน้ำมันปาล์มไปเปิดตลาดอินเดียด้วย
วันนี้ตัวเลขชัดเจนแล้ว ปีที่แล้วเราส่งออกน้ำมันปาล์มไปประเทศอินเดียได้ 2,600 ล้านบาท และปีนี้สามารถส่งออกน้ำมันปาล์มไปอินเดีย 9 เดือนแรก 14,000 ล้านบาท มากขึ้นกว่าเวลาเดียวกันปีที่แล้วถึง 438% มีส่วนทำให้ราคาปาล์มดีขึ้น เพราะมีตลาดส่งออกและไปอีกหลายประเทศ
แต่ถ้าวันนึงราคาปาล์มน้ำมัน ลงเหลือกิโลกรัมละ 3 บาท แบบในอดีตก็ไม่ต้องห่วงอย่างน้อยเรามีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ชาวสวนยางซึ่งเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์โดยตนเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล ประกันรายได้ปาล์มน้ำมันที่กิโลกรัมละ 4 บาท หากต่ำกว่า 4 บาท จะมีเงินส่วนต่าง ทำให้มีรายได้ 2 ทางจากการขายในตลาดและเงินส่วนต่างจากรายได้ที่ประกันเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง ตามรายได้ที่ประกัน ยางพาราก็เช่นเดียวกัน ทำให้อุ่นใจได้ว่าอย่างน้อยก็มีประกันรายได้ของประชาธิปัตย์ของนายจุรินทร์ช่วยดูแลอยู่
“สำหรับยางพาราปีหน้า รอพิจารณาเข้า ครม.อยู่ ถ้า ครม.เห็นชอบจะเริ่มโครงการประกันรายได้ยางพาราปีที่ 3 โดยโอนเงินส่วนต่างให้ได้อย่างช้าต้นเดือนธันวาคม และตอนนี้ปาล์มน้ำมันราคาทะลุรายได้ที่ประกันไปแล้ว” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามนายจุรินทร์ ถึงกรณีที่มีชาวบ้านมารอรับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จำนวนมาก มีการชูป้ายขอบคุณนายจุรินทร์ที่ทำให้ราคาปาล์มดีขึ้น และอยากมีนายกฯ ชื่อ จุรินทร์ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอบคุณสำหรับผู้ที่มีความปรารถนาดีสำหรับตนคงต้องทำหน้าที่และทำงานหนักต่อไป เพราะเรามั่นใจว่ามีแต่การทำงานหนักเท่านั้นที่จะช่วยให้ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไข และจะช่วยให้การแก้ปัญหาประเทศคลี่คลายขึ้น บรรลุผลขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการสนับสนุนนั้น ต้องขอบคุณและถือว่าเป็นกำลังใจ จะช่วยให้ตนสามารถทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์และภาคส่วนอื่นๆ เพื่อบรรลุผลเพื่อประชาชนให้ได้มากที่สุดต่อไป