นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของ “พระมหาไพรวัลย์” ชี้ทำตัวให้ศาสนาแตกแยก แนะสึกออกมาขายสบู่-ยาสีฟัน หรือแสดงหนังตลกอาจจะรวยเละ
จากกรณี “พระมหาไพรวัลย์” เผยลาสิกขาแน่หาก “พระราชปัญญาสุธี” รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ต่อมาเจ้าตัวชี้แจงยืนยันการร่ำไห้กลางไลฟ์สดนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องยศตำแหน่ง เศร้าฟังไม่ได้ศัพท์แต่นั่งเทียนเขียนไปคนละประเด็น
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (5 พ.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ในประเด็นของ “พระมหาไพรวัลย์” โดยได้ระบุว่า
“ทางออกของ พระมหาไพรวัลย์
พระมหาไพรวัลย์ นอกจากท่านจะมีปัญหาเรื่องการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในนิกายเถรวาทแล้ว ท่านมักพูดกระทบกระเทียบถึงบุคคลอื่นอยู่เสมอ แม้กับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ท่านก็ไม่เว้น เวลาท่านพูดท่านจะลงท้ายด้วยการฟาดฟันคนอื่น และสร้างศัตรูไปเรื่อยประเภท "แยกพวก" แทนที่ท่านจะทำให้พุทธบริษัท เป็นพวกเดียวกัน แต่ท่านแยกพุทธบริษัทออกเป็นกลุ่ม เป็นพวกเรียบร้อยไปแล้ว ประชาชนแตกแยกกันในทางการเมืองแล้วไม่พอ ท่านกลับทำให้แตกแยกกันในทางศาสนาอีก นับว่าท่านเป็นพระที่ได้สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในหมู่อุบาสก-อุบาสิกาเรียบร้อยแล้ว แต่จะแตกแยกกันในหมู่สงฆ์ด้วยหรือเปล่าผมไม่รู้ เพราะผมไม่ใช่สงฆ์
ล่าสุด ผมเห็นท่านไปแสดงภาพยนตร์กับโก๊ะตี๋ ในเรื่อง “หอแต๋วแตกแหกโควิดปังปุริเย่” สำหรับผมแล้ว เห็นว่า ถึงที่สุดของความเป็นพระแล้ว
หากท่านสึกออกมา ไปขายสบู่ ยาสีฟัน หรือแสดงหนังตลกดีกว่าครับ ผมว่าท่านอาจจะรวยเละ แต่ท่านต้องทำใจ เพราะวันใดที่ท่านไม่มีไตรจีวรห่อหุ้มร่างกาย และท่านเปลี่ยนมาเป็นนุ่งกางเกงยีนส์ ใส่เสื้อยืด หรือนุ่งกางเกงสแล็ก ใส่เสื้อเชิ้ตขาวแขนยาว ท่านก็คงท่องยุทธจักรโซเชียลได้ไม่นานหรอก ที่ท่านโด่งดังในโลกโซเชียลเพราะท่านเป็น “พระแปลก” ที่มีจีวรห่อหุ้ม ท่านไม่เหมือนพระอื่นๆ ท่านแปลกจริงๆ ผมเห็นท่านก็เดินไปเข้าฉากภาพยนตร์ ถ่ายภาพยนตร์ร่วมกับโก๊ะตี๋ ผมก็เห็นว่าถึงที่สุดของการครองสมณเพศแล้ว
ทางเลือกของท่านแคบลงทุกวัน และผมคิดว่าท่านเดินมาถึงทาง 2 แพร่งแล้ว คือ สึก หรือ ไม่สึก”
อ่านโพสต์ต้นฉบับ