รถไฟฟ้าบีทีเอสเริ่มใช้โปรโมชันสะสมคะแนนแรบบิทแลกคูปองเที่ยวเดินทางฟรีเป็นวันแรก พบระบบล่มเติมเที่ยวเดินทางไม่ได้ แถมติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้อีก ไม่รับผิดชอบ คะแนนที่แลกมาสูญเปล่า ขณะที่เสียงเรียกร้องเอาตั๋วเดือนคืนมาระงมไม่หยุด
วันนี้ (1 พ.ย.) เป็นวันแรกที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เริ่มต้นโปรโมชันใหม่ โดยให้นำคะแนนแรบบิท รีวอร์ดส (Rabbit Rewards) ซึ่งเป็นโปรแกรมสะสมคะแนนเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรแรบบิท และแรบบิท ไลน์ เพย์ (Rabbit LINE Pay) แลกรับสิทธิเที่ยวเดินทางฟรี ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 ถึง 31 ต.ค. 2565 แทนโปรโมชันเที่ยวเดินทาง 30 วัน หรือตั๋วเดือนที่ยกเลิกไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าพบปัญหาผู้โดยสารแลกคะแนนผ่านแอปพลิเคชันไปแล้ว นำคูปองที่ได้ไปกดแลกเที่ยวเดินทางที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารที่สถานี กลับได้รับคำตอบจากพนักงานสถานีว่าระบบล่ม ไม่สามารถทำรายการได้ กระทั่งผ่านไป 10 นาทีบาร์โค้ดหมดอายุ แนะนำให้ติดต่อคอลเซ็นเตอร์ แต่ไม่สามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์ได้ ทำให้คะแนนที่แลกมาสูญเปล่า
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาผู้ถือบัตรเครดิตไม่สามารถเติมเงินลงในบัตรแรบบิทเพื่อใช้เป็นค่าโดยสารได้ ต้องเติมเงินด้วยเงินสดเท่านั้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีโปรโมชันเที่ยวเดินทาง 30 วันยังสามารถใช้เติมเที่ยวเดินทางได้ ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกเข้าไปอีก ขณะที่เฟซบุ๊ก “รถไฟฟ้าบีทีเอส” ยังมีเสียงเรียกร้องให้นำตั๋วเดือนคืนมาเกิดขึ้นไม่หยุด และวิจารณ์โปรโมชันใหม่ของบีทีเอสว่าเป็นการผลักภาระให้ประชาชน เนื่องจากหากบ้านอยู่ชานเมืองไปทำงานในเมือง ต้องจ่ายค่าโดยสารราคาเต็ม สวนทางกับค่าครองชีพในปัจจุบัน ปัจจุบันค่าโดยสารสูงสุดตั้งแต่ 44-59 บาท ไป-กลับ 88-118 บาท
สำหรับโปรโมชันดังกล่าว ผู้โดยสารจะต้องเดินทางในเส้นทางสัมปทาน 23.5 กิโลเมตร นับจากสถานีหมอชิตไปสถานีอ่อนนุช และจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติไปสถานีสะพานตากสิน ด้วยค่าโดยสารปกติ อย่างน้อย 5 สถานีขึ้นไปต่อเที่ยว (เทียบเท่าค่าโดยสาร 33 บาท) และอย่างน้อย 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ จึงจะได้รับคะแนนเริ่มต้นที่ 150 คะแนน สูงสุด 12 เที่ยวขึ้นไปได้ 800 คะแนน โดยจะเริ่มนับทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ และคะแนนจะเข้าบัญชีสมาชิกในวันพุธถัดไป จากนั้นนำคะแนนที่ได้มาแลกเที่ยวเดินทางฟรี ผ่านแอปพลิเคชัน Rabbit Rewards เริ่มต้น 250 คะแนนได้ 1 เที่ยวฟรี มูลค่าสูงสุด 44 บาทต่อเที่ยว สูงสุด 2,000 คะแนนได้ 10 เที่ยวฟรี โดยในช่วงเปิดตัวมีโปรโมชันให้คะแนนเพิ่มเป็น 2 เท่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 ถึง 31 ม.ค. 2565 จะได้รับคะแนนเริ่มต้นที่ 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ ได้ 300 คะแนน สูงสุด 12 เที่ยวขึ้นไปได้ 1,600 คะแนน
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวในงานเสวนา “เลิกตั๋วเดือน จุดเริ่มแบกค่าโดยสารแพง” เปิดเผยว่า จากการสำรวจผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกตั๋วเดือน โดยมีภาระค่าเดินทางเพิ่มขึ้น 70-100% จากเดิมที่ใช้ตั๋วเดือนจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่าบาท แต่หลังจากยกเลิกนั้นจ่ายเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 2,000 บาท โดยเสนอให้บีทีเอสนำตั๋วเดือนกลับมาใช้อีกครั้ง และการแก้ปัญหาระยะยาว ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) หางบประมาณมาใช้หนี้เดินรถส่วนต่อขยาย และไม่ต่อสัมปทานที่จะหมดลงในปี 2572 เพื่อให้เกิดอำนาจต่อรอง โดยเห็นว่าค่าโดยสารในราคา 25 บาทสามารถทำได้ เพราะหากคำนวณจะไม่แตกต่างจากราคาตั๋วเดือนของบีทีเอส และความจริงแล้วตั๋วเดือนควรถูกลงกว่านี้
ส่วน นายไวทยา นวเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. เปิดเผยว่า ได้สอบถามบีทีเอสถึงการยกเลิกตั๋วเดือน ให้เหตุผลว่าเพราะจำนวนผู้โดยสารลดลงจากสถานการณ์โควิด-19 เดิมมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 8 แสนคนต่อวัน ปัจจุบันเหลือ 2-3 แสนคนต่อวัน จึงปรับเปลี่ยนโปรโมชันใหม่ในรูปแบบแลกคะแนนมาทดแทน แต่จากการคำนวณโปรโมชันใหม่ พบว่าอัตราค่าโดยสารยังสูงเมื่อเทียบกับตั๋วเดือนเดิม ทาง กทม.จะรับไปเจรจากับบีทีเอสเพื่อหาทางช่วยเหลือผู้โดยสารเพิ่มเติมต่อไป
อ่านประกอบ : กทม.เจรจาบีทีเอสช่วยผลกระทบยกเลิกตั๋วเดือน
คนใช้รถไฟฟ้ามีเคือง บีทีเอสให้สะสมพอยต์แลกเที่ยวเดินทาง หลังยกเลิกโปรโมชัน 30 วัน
คนกรุงโวยบีทีเอสเลิกขายเที่ยวเดินทาง 30 วัน เหน็บค่าแรง 300 รถไฟฟ้าทะลุร้อยไปแล้ว