พบวิดีโอคลิปชายนิรนามกระโดดนอนฝากระโปรงรถสะพัดโซเชียลฯ เตือนภัยแก๊งตบทรัพย์ ปรากฏว่าเป็นคนเดียวกับที่ไปจี้รถแท็กซี่แล้วถูกตำรวจจับ สภาพมึนเมาก่อนแน่นหน้าอก นอนตายหน้าห้องสายตรวจ สน.บางชันเมื่อวันก่อน
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. เฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อยv plus" ได้เผยแพร่วิดีโอคลิปขณะที่รถยนต์คันหนึ่งขับมาตามถนนรามอินทรา ขึ้นสะพานข้ามแยกสวนสยาม มุ่งหน้าไปทางหลักสี่ แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ เมื่อมาถึงใต้สถานีนพรัตน์ โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) มีการบีบช่องจราจรเหลือช่องทางด้านซ้ายสุด ปรากฏว่ามีชายรายหนึ่งเดินมาจากไซต์งานก่อสร้าง เข้ามากระโดดขึ้นฝากระโปรงรถ แล้วทำท่าเหมือนนอนลงไป คนขับรถจึงบีบแตรไล่ ส่วนคนที่นั่งมาด้วยร้องตกใจ พยายามตะโกนขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีว่า "พี่ช่วยด้วย ผมไม่ได้ชน" โดยมีพนักงานไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าช่วยกันไล่ชายคนดังกล่าวลงจากกระโปรงรถ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวแล้วเลี้ยวซ้ายไปทางถนนรามอินทรา-นวมินทร์ ต่อไป
ในคลิประบุว่า "วิ่งเข้ามาเกาะกระโปรงรถ ดีที่น้องมีกล้องหน้ารถ สามารถจับเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ คงหวังเงินจากการเรียกค่าเสียหาย ฝากระวังกันด้วย มิจฉาชีพมาหลายรูปแบบจริงๆ เส้นรามอินทรา ช่วงสะพานข้ามแยกโรงพยาบาลนพรัตน์ เตือนภัยคนขับรถ โปรดช่วยกันระวังคนแบบนี้ โชคดีที่มีคนช่วยมาดึงออกไป พี่เขาเป็นผู้หญิงคนเดียว กลางคืนด้วยเลยรีบกลับ รถบุบวิ่งมาใส่กระโดดขึ้น"
ชมคลิป คลิกที่นี่
ปรากฏว่ามีชาวเน็ตรายหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า จากรูปพรรณสัณฐานน่าจะเป็นชายคนเดียวกับที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนขับรถแท็กซี่ เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้วมาเสียชีวิตบริเวณหน้าห้องสืบสวนของ สน.บางชัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อชายคนดังกล่าวใส่เสื้อลายพรางทหาร ทราบชื่อภายหลังคือนายชยาศิส ผิวผ่อง อายุ 39 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ เข้าทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ นายรัชพงศ์ ลิมปะชัยวงศ์ ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า อินโนวา หมายเลขทะเบียน 1 มก 5194 กรุงเทพมหานคร ที่หน้าศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา ขณะรอลูกสาวหลังเลิกงาน แล้วขับรถมุ่งหน้าไปทางมีนบุรี ต่อมารถแท็กซี่ที่ถูกชิงทรัพย์ไปเกิดเหตุพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่บริเวณปากซอยรามอินทรา 103/2 หน้าหมู่บ้านเอกบุรี ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1.5 กิโลเมตร
จากนั้นคนร้ายได้ลงจากรถ เดินมาหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านวิสุทธาวิลล์ ก่อนที่ตำรวจ สน.บางชันจะควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้ โดยมีอาการเมาสุรา และคล้ายคนเมายาเสพติด จึงนำตัวมาที่ สน.บางชัน จัดทำบันทึกจับกุม เมื่อคนร้ายมาถึงที่บริเวณหน้าห้องปฏิบัติการสายตรวจ เกิดอาการแน่นหน้าอก เจ้าหน้าที่จึงประสานงานรถกู้ชีพ โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีมาปฐมพยาบาล จากนั้นคนร้ายได้เสียชีวิตลง จึงได้ประสานงานพนักงานอัยการ, เจ้าหน้าที่ปกครอง และแพทย์นิติเวช จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ มาทำการชันสูตรพลิกศพ และส่งศพผู้ตายไปชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต เบื้องต้นไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้าย ยืนยันไม่มีการทำร้ายร่างกายผู้ตาย ไม่มีการใช้กำลังจากเจ้าหน้าที่ แต่เท่าที่เห็นผู้ตายดื่มสุรามาหนักมาก อาจเป็นสาเหตุให้ร่างกายรับไม่ไหว