ดรามาจามจุรีสีชมพู ช่างงามหรูกว่าใครในสยาม "วัฒนา เมืองสุข" งัดข้อ "เนติวิทย์" ชี้งานบอลเป็นกิจกรรมของสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ-ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ อบจ.เป็นเพียงคณะทำงาน ไม่มีสิทธิห้ามใครใช้พระเกี้ยวเพราะไม่ได้เป็นสมบัติของ อบจ. ด้านอดีตรอง ผอ.ข่าวกรองจี้ผู้บริหารจุฬาฯ อย่านิ่งเฉยซ้ำซาก ไม่ทำอะไรปกป้องชื่อเสียง ส่วนอดีตอาจารย์เศรษฐศาสตร์ มธ.ท้าจุฬาฯ กล้าทิ้งพระเกี้ยวได้ ก็ทิ้งทุกอย่างที่เกี่ยวกับสถาบันไปให้หมด
วันนี้ (24 ต.ค.) จากกรณีที่องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เป็นนายก ออกแถลงการณ์ "ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์" โดยให้เหตุผลว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ล้าหลังอันขัดต่อคุณค่าสากลอย่างประชาธิปไตย ความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชน เพราะสนับสนุนและสะท้อนถึงระบอบอำนาจนิยม รวมถึงค้ำยันความเชื่อว่าคนไม่เท่ากัน รูปแบบกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวยังเป็นภาพแทนของวัฒนธรรมแบบศักดินาที่ยกกลุ่มคนหนึ่งสูงกว่าอีกกลุ่มหนึ่งพร้อมสัญลักษณ์ของศักดินาคือ “พระเกี้ยว” บนเสลี่ยง ในส่วนของกระบวนการคัดเลือกผู้อัญเชิญฯ ยังเป็นที่กังขาถึงความโปร่งใส และยังมีข้อกังขาว่าเป็นการสนับสนุนความเป็นอภิสิทธิชนผ่านค่านิยมมาตรฐานความงามแบบใดแบบหนึ่งในสังคม นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการใช้อำนาจในการบังคับให้คนต้องมาแบกเสลี่ยง ดังที่เห็นจากกระบวนการหานิสิตหอในเพื่อมาแบกเสลี่ยงเข้าสนามนั้นมีการบังคับผ่านการอ้างว่าจะมีผลต่อคะแนนการคัดเลือกให้มีสิทธิอยู่ในหอพัก ตามที่รายงานข่าวก่อนหน้านี้
อ่านประกอบ : องค์การฯ นิสิตจุฬาแถลงการณ์ "ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว" ชี้เป็นกิจกรรมที่ล้าหลัง
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคไทยสร้างไทย อดีต รมว.พาณิชย์ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @watanamuangsook ระบุว่า "การแข่งขันฟุตบอลประเพณีเป็นกิจกรรมของสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ และสมาคมศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ ส่วนองค์การบริหารสโมสรนิสิตฯ (อบจ.) เป็นหนึ่งในคณะทำงาน ถ้าคณะผู้จัดมีความประสงค์จะให้มีขบวนอัญเชิญก็เป็นเรื่องของผู้จัด ส่วน อบจ .ไม่มีสิทธิห้ามใครใช้พระเกี้ยวเพราะพระเกี้ยวไม่ได้เป็นสมบัติของ อบจ."
เมื่อถามว่า งั้นก็สมาคมศิษย์เก่าจะไปแบกเสลี่ยงเอง ก็คงไม่มีใครว่าได้ นายวัฒนา กล่าวว่า "ถูกต้องครับ ถ้าจัดแล้วไม่มีคนร่วมก็แบกกันเอาเอง"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ด้านนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า "จดหมายเปิดผนึกถึงผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 23 ตุลาคม คือวันปิยมหาราช เป็นวันที่คนไทยทั่วทั้งประเทศจัดงานวางพวงมาลาถวายบังคมต่อพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัว พระปิยมหาราช เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านมีต่อชาวไทย และที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็มีการจัดงานถวายมาลาต่อเบื้องพระบรมรูปสองรัชกาล
แต่ในวันนั้น อบจ.กลับมีการออกแถลงการณ์จะไม่อัญเชิญพระเกี้ยวในการจัดงานบอลประเพณีประจำปีระหว่างจุฬาฯ กับธรรมศาสตร์ แต่ใช้วาทกรรมด้วยค่าพระเกี้ยวที่เป็นของสูง และเป็นสัญลักษณ์ของจุฬาฯ นิสิตจุฬาทุกรุ่น และประชาชนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและประชาชนชาวไทย พระคุณของพระองค์ทรงสูงส่งเกินกว่า อบจ.ไม่กี่คนจะมาด้อยค่าพระองค์ท่าน
ผมขอเรียกร้องผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่านิ่งเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำซากในมหาวิทยาลัย อย่าให้นิสิตจุฬาฯ ต้องผิดหวังต่อการบริหารงานของอธิการและผู้บริหารจุฬาฯ โดยไม่ทำอะไรในการปกป้องชื่อเสียงและพระเกียรติคุณของพระปิยมหาราช พระผู้พระราชทานกำเนิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ขณะที่นายสุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Suvinai Pornavalai ระบุว่า "โดยส่วนตัวผมผิดหวังเนติวิทย์นะ ผมนึกว่าเขาจะมีกึ๋นทางความคิดมากกว่านี้เหมือนจิตร ภูมิศักดิ์ หรืออาจารย์สุภา ศิริมานนท์ การเคลื่อนไหวล่าสุดของเนติวิทย์กับพรรคพวก ไม่ต่างจากพวกเด็กนรกที่กินบนเรือนขี้บนหลังคาแต่อย่างใดเลย ถ้าจุฬาฯ กล้าทิ้งพระเกี้ยวได้ จุฬาฯ ต้องกล้าทิ้งทุกอย่างที่เกี่ยวกับสถาบันไปให้หมดเลยนะ กล้าทำมั้ยล่ะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่