ปล้นดิจิทัลล้วงเงินคนไทย พบสมาชิกเฟซบุ๊ก “แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว” เริ่มแสดงจุดยืนถอนเงินออกจากธนาคารเพื่อรอการแก้ไขที่ชัดเจน หากเหตุการณ์ปกติจะกลับไปฝากใหม่ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งแนะนำปรับวงเงิน อีกส่วนหนึ่งแนะนำให้ยกเลิกบัตรเดบิต แล้วถอนเงินจากแอปฯ แทน ตั้งคำถามแบงก์ชาติ แบบนี้จะมั่นใจระบบธนาคารของไทยได้อย่างไร?
วันนี้ (19 ต.ค.) สืบเนื่องจากกรณีที่มีเจ้าของบัญชีธนาคารถูกหักเงินในบัญชีโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งพบว่าการทำรายการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตโดยที่ไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตนเอง ต่อมาธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทยชี้แจงว่าเป็นรายการที่เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ธนาคารเจ้าของบัตรได้ดำเนินการระงับการใช้บัตรของลูกค้าที่มีรายการผิดปกติ และติดต่อลูกค้า รวมทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบร้านค้าที่มีธุรกรรมที่ผิดปกติเหล่านี้ ต่อมาธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ติดตามการตัดเงินผิดปกติจากบัญชีบัตรเครดิตและบัตรเดบิต พบว่าช่วงระหว่างวันที่ 1-17 ต.ค. ตรวจสอบพบการตัดเงินที่ผิดปกติจากการใช้จ่ายผ่านบัตรกว่า 1.07 หมื่นใบ มูลค่ากว่า 130 ล้านบาท
ล่าสุดเฟซบุ๊ก "แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว" ที่มีสมาชิกกว่า 8.7 หมื่นคน เริ่มมีบางคนโพสต์ข้อความแสดงจุดยืนถอนเงินออกจากธนาคารเพื่อรอการแก้ไขที่ชัดเจน เพราะเกรงว่าธนาคารต่างๆ จะแก้ไขปัญหาไม่ได้ และสูญเงินจำนวนดังกล่าวออกไป บางคนเหลือติดบัญชีไว้เพียงเล็กน้อย หากเหตุการณ์ปกติจะกลับไปฝากใหม่ อย่างไรก็ตาม มีความเห็นอีกส่วนหนึ่งแนะนำให้ปรับวงเงินในบัตรเดบิตผ่านแอปพลิเคชันให้เหลือ 0 บาท ก่อนใช้บัตรเดบิตค่อยมาปรับวงเงินเพิ่มเอา ขณะที่อีกส่วนหนึ่งแนะนำว่าให้ยกเลิกบัตรเดบิต ใช้วิธีกดเงินผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีด้วย
นอกจากนี้ ยังมีคนตั้งคำถามไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งว่าจะนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลยหรือ จะมั่นใจระบบธนาคารของไทยได้อย่างไร ทั้งที่เรื่องการเงินถือเป็นความมั่นคงของประเทศ เป็นต้น