จากกรณีชาวเน็ตคอมเมนต์ด้อยค่าหลังประเทศไทยมีการนำเสนออาคารแสดงประเทศไทย หรือ “อาคารศาลาไทย” (Thailand Pavilion) ดูล้าหลัง ไม่ทันสมัย ล่าสุดอดีตทูต “นริศโรจน์” เผยยอดสถิติต่างชาติแห่ชมเฉลี่ยกว่าวันละ 1 หมื่นคน ถือเป็นความสำเร็จ เพราะสามารถทำได้ 15% ของผู้เข้าชม
หลังจากเปิดงานมหกรรม World Expo 2020 ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา และงานนี้จะมีข้ามปีไปจนถึง 31 มี.ค. 2565 โดยในส่วนของประเทศไทยมีการนำเสนออาคารแสดงประเทศไทย หรือ “อาคารศาลาไทย” (Thailand Pavilion) ที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด “การขับเคลื่อนสู่อนาคต” (Mobility for the Future) โดยมี “บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ” เป็นผู้คว้าสิทธิ์บริหารอาคารศาลาไทย ด้วยมูลค่าการจัดงานทั้งสิ้น 887 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 25 ล้านคน จากนั้นได้เกิดกระแสดรามาวิพากษ์วิจารณ์ บ้างก็ว่ารูปแบบของไทยดูเชย ล้าหลัง ไม่ทันสมัย ไม่สมกับชื่องานที่บอกว่าขับเคลื่อนสู่อนาคต จนทำให้หลายคนมองว่าทำไมบางกลุ่มชอบด้อยค่าประเทศตนเอง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ต.ค. เฟซบุ๊ก “Fuangrabil Narisroj” หรือ นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นดรามาที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “จากเดิมที่เคยมีเพจไทยบางเพจเขียนด้อยค่าศาลาไทย หรือ Thailand Pavilion ในงาน EXPO ที่ Dubai ว่าเชย สู้ชาติอื่นไม่ได้ แต่บัดนี้แค่ 15 วัน Thailand Pavilion ในงาน world expo 2020 Dubai กลายเป็น top hit pavilion ไปแล้ว! มีผู้ชมเข้าชมเฉลี่ยกว่าวันละ 1 หมื่นคน ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลไทย เพราะเราสามารถทำได้ 15% ของผู้เข้าชมโดยรวมของ Expo ที่ Dubai ในครั้งนี้”