ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศเตือนภัยบัญชีม้าได้ไม่คุ้มเสีย หลอกให้เปิดบัญชี และซื้อขายบัญชีหลักร้อยถึงหลักพัน นำไปใช้ก่อเหตุหลอกลวง เตือนผิดทั้งเป็นตัวการร่วม สนับสนุนกระทำความผิด แถมข้อหาฟอกเงิน ใช้บัญชีโกงกี่ครั้งเอากระทงไปคูณกัน โกง 50 ครั้งรับ 50 กระทง
วันนี้ (7 ต.ค.) เฟซบุ๊ก PCT Police ของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยแพร่บทความหัวข้อ “บัญชีม้า โดนอายัดทรัพย์ โดนจับติดคุก คืออะไร?” ระบุว่า หลังจากที่มีข่าวน้องก้อง เยาวชนวัย 14 ปี ซื้อโทรศัพท์แล้วไม่ได้ของ จนตำรวจไซเบอร์ไล่สายไปจนจับกุมตัวการในครั้งนี้ได้ และพบผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมาก จึงสรุปคำว่าบัญชีม้าให้เข้าใจกันง่ายๆ
การโกงเงินบนโลกออนไลน์ ที่ต้องใช้บัญชีธนาคาร หรือการซื้อขายของผิดกฎหมายอย่างเช่นยาเสพติด ตัวการที่แท้จริงมักจะไม่ใช้บัญชีของตัวเองเพราะกลัวหลักฐานจะมาถึงตัวเอง จึงต้องใช้บัญชีคนอื่นมาทำธุรกรรมแทน และทำให้เป็นที่มาของการหลอกให้เปิดบัญชี และซื้อขายบัญชี
การหลอกให้เปิดบัญชีอาจแอบอ้างเรื่องต่างๆ นานา เช่น ให้รับเงินเยียวยา ให้รับค่าโน่นนี่นั่น แล้วให้บุคคลอื่นเปิดบัญชี แล้วตัวเองเอาบัญชีธนาคารไปใช้ ส่วนถ้ามีผลตอบแทนให้ก็จะเข้าข่ายของการซื้อขายบัญชีไป ซึ่งปกติพบว่าซื้อขายกันอยู่แค่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน
เวลามีคดีอะไรเกิดขึ้น แล้วเจ้าหน้าที่ไล่เส้นทางการเงินไป ก็มักจะพบว่าเป็นบัญชีม้า ไม่ใช่ตัวการที่แท้จริง คนมีชื่อในบัญชีอาจไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดในคดีเลย (แต่ผิดเรื่องเปิดบัญชีแทนนั้นชัดเจนอยู่แล้ว) หลายคดีที่พยานหลักฐานไปต่อได้ยาก เพราะอาจมีการเปลี่ยนมือผู้ถือบัญชีไปหลายทอด ทำให้คดีไม่คืบหน้าอย่างที่หวังเอาไว้
จึงต้องมาเตือนกันอีกแล้ว สำหรับการรับจ้างเปิดบัญชี หรือให้ผู้อื่นใช้บัญชีนั้น อาจมีความผิดได้หลายอย่าง เช่น
- ความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิด
- เป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด หรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
- ความผิดฐานฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
ซึ่งอัตราโทษสำหรับความผิดฐานฟอกเงินนั้น มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 10,000-200,000 บาท
สมมติว่ามีใครเอาบัญชีเราไปโกงคนอื่น 50 ครั้ง ก็ลองเอาโทษทั้งหมดคูณเข้าไป ไม่คุ้มแน่ๆ ใช่ไหม? กับเงินไม่กี่บาท”