ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา เปิดเผยผลวิจัยของ มธ.กับทีมวิจัยของ BIOTEC สวทช. เปรียบเทียบระหว่างวัคซีนไฟเซอร์กับแอสตร้าเซนเนก้า พบไฟเซอร์มีระดับแอนติบอดีต่อโปรตีนสไปค์สูงกว่า แต่ภูมิก็ตกเร็วกว่าแอสตร้าฯ ด้วยเช่นกัน
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Anan Jongkaewwattana” เปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกันของวัคซีน 2 ยี่ห้อ ระหว่างไฟเซอร์กับแอสตร้าเซเนก้า โดยพบว่าไฟเซอร์ให้ภูมิที่สูงกว่า แต่ภูมิก็ตกลงเร็วกว่าแอสตร้าฯ ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ดร.อนันต์ได้ระบุข้อความว่า
“ทีมวิจัยของ มธ.กับทีมวิจัยของ BIOTEC สวทช.เก็บข้อมูลระดับภูมิคุ้มกันของบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับ Sinovac 2 เข็ม และฉีดเข็มกระตุ้นด้วย AZ และ PZ และเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกันใน 2 กลุ่มนี้ครับ กลุ่มที่ได้เข็มกระตุ้นด้วย PZ มีระดับแอนติบอดีต่อโปรตีนสไปค์สูงกว่า AZ อย่างมีนัยสำคัญ (3500 vs 1500) แต่ที่น่าสนใจคือ ภูมิจาก AZ ตกช้ากว่าครับ เพราะเมื่อวัดที่ 45 วันหลังกระตุ้น ระดับแอนติบอดีได้ที่ 1500 เหมือนเดิมกับที่วัดที่ 14 วัน ขณะที่กลุ่ม PZ วัดที่ 30 วันหลังกระตุ้น หรือ 2 อาทิตย์หลังจุด peak ค่าแอนติบอดีตกลงมาจาก 3500 ไปที่ 2800 ซึ่งตกลงมาไวพอสมควร
ถามว่าภูมิ 1500 ของ AZ ที่กระตุ้นขึ้นมาจะพอหรือไม่ต่อการป้องกันเดลตา ค่า % inhibition ต่อการยับยั้งการจับกันของสไปค์เดลตากับ ACE2 อยู่ที่ 91% ซึ่งถือว่าเป็นเกณฑ์ที่รับได้ครับ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับค่า baseline ก่อนกระตุ้น ภูมิที่ได้มาถือว่าช่วยป้องกันเดลตาได้ดีขึ้นมากครับ ส่วนภูมิจากการกระตุ้น PZ ถือว่าสูงมาก แต่ถ้าตกไวก็คงต้องดูว่าจะตกลงมาต่ำกว่าค่าที่ AZ ทำได้เมื่อไหร่ครับ ต้องชื่นชมทีมวิจัยนำโดย คุณหมอสิระ แห่ง มธ. และ ดร.พีร์ ดร.อรวรรณ แห่ง BIOTEC สวทช. และทีมวิจัยคนอื่นๆ อีกหลายคนที่สร้างสรรค์ผลงานนี้ครับ”