มาเลเซียทำทราเวลบับเบิลเกาะลังกาวี นำร่องนักท่องเที่ยวในประเทศ ฉีดวัคซีนครบโดส

วันนี้วันแรก มาเลเซียทำทราเวลบับเบิลเกาะลังกาวีฟื้นฟูเศรษฐกิจ เปิดรับเฉพาะนักท่องเที่ยวในประเทศ ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 หรือซื้อชุดตรวจผ่านน้ำลายที่สนามบินก่อนออกเดินทาง ด้านแอร์เอเชียมาเลเซียเปิดเที่ยวบิน 90 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ พร้อมทำแพลตฟอร์มดิวตี้ฟรีออนไลน์ส่งตรงถึงโรงแรมแห่งแรกในอาเซียน

วันนี้ (16 ก.ย.) เป็นวันแรกที่หมู่เกาะลังกาวี รัฐเคดะห์ ประเทศมาเลเซีย เปิดรับนักท่องเที่ยวตามมาตรการ “ลังกาวี ทราเวล บับเบิล” (Langkawi Travel Bubble) เพิ่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยจะเป็นโครงการนำร่องเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งจะเปิดสำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2564 เป็นต้นไป สำหรับรัฐอื่นๆ จะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการเปิดได้เมื่ออัตราการฉีดวัคซีนถึง 80% ขึ้นไป ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นจากแนวคิดที่ประเทศไทยดำเนินโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดสเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัวก่อนหน้านี้

สำหรับผู้ที่จะเข้าไปเที่ยวในเกาะลังกาวีนั้นจะจำกัดเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศมาเลเซียเท่านั้น โดยจะต้องเป็นผู้ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย (SOP) รวมทั้งรัฐตามแผนฟื้นฟูประเทศ (PPN) ระยะที่ 1 (ยกเว้นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ภายใต้คำสั่งควบคุมการเคลื่อนย้ายขั้นสูงสุด หรือ EMCO) โดยผู้ที่เดินทางผ่านเรือเฟอร์รีจะต้องผ่านบริษัทนำเที่ยว (Travel Agent) ก่อนที่จะข้ามไปยังเกาะลังกาวี สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากรัฐเคดะห์และรัฐปะลิสจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องใช้บริษัทนำเที่ยว ส่วนการเดินทางทางอากาศนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้บริษัทนำเที่ยว ตามแนวปฏิบัติที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย (SOP) ก็คือ ต้องได้รับวัคซีนครบโดส ไม่จำกัดอายุ ส่วนเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องมาพร้อมกับผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนครบโดส

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจะต้องแสดงเอกสารการจองและชำระเงินค่าตั๋วเครื่องบินหรือเรือเฟอร์รี และค่าที่พักหรือแพกเกจทัวร์ เพื่อขออนุญาตการเคลื่อนย้ายจากตำรวจ หรือเมื่อทางการร้องขอ โดยจะอนุญาตเฉพาะการเที่ยวแบบวันเดียว การเที่ยวแบบค้างคืน เที่ยวบินหรือการเข้าพักที่มีการจองล่วงหน้า การเที่ยวผ่านแพกเกจทัวร์จากบริษัทนำเที่ยวที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะและวัฒนธรรมของมาเลเซีย ยานพาหนะตามจำนวนที่นั่ง และการข้ามเรือเฟอร์รีตามกำหนดเวลาโดยกลับมาค้างคืนที่แผ่นดินใหญ่ รัฐเคดะห์ และรัฐปะลิส เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ malaymail.com ระบุว่า นายไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีสาธารณสุขของมาเลเซีย ออกมาเตือนว่า นักท่องเที่ยวจะได้รับอนุญาตให้เข้าพักในโรงแรมหรือรีสอร์ตได้ก็ต่อเมื่อมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบเท่านั้น ไม่ว่าจะผ่านการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR หรือ RTK Antigent Swab 48 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และแสดงผลการตรวจตามจุดที่กำหนดไว้ในสนามบินหรือเรือข้ามฟากก่อนการท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อชุดตรวจด้วยน้ำลาย (Saliva) ด้วยตัวเองและนำไปที่สนามบินหรือท่าเรือข้ามฟากเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามสถานที่คัดกรองที่กำหนดไว้ หรือสามารถซื้อชุดตรวจด้วยน้ำลายผ่านภาคเอกชนที่จะจัดเตรียมไว้ที่จุดคัดกรองในสนามบินและท่าเรือข้ามฟากแล้วตรวจหาเชื้อที่นั่น

ข้อกำหนดดังกล่าวจะใช้กับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มีอายุ 7 ขวบขึ้นไป แต่สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบหรือต่ำกว่านั้นจะมีการตรวจคัดกรองตามอาการ โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของพ่อแม่หรือผู้ปกครองตลอดเวลา ซึ่งต้องฉีดวัคซีนครบโดส ไม่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีผลเป็นบวก และต้องปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย (SOP) อย่างเคร่งครัด โดยการตรวจคัดกรองที่สนามบินและท่าเรือข้ามฟากจะได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่จะประจำการตามจุดต่างๆ หากนักท่องเที่ยวมีผลการตรวจเป็นลบจะอนุญาตให้เดินทางต่อไปได้ แต่ถ้ามีผลเป็นบวกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป และจะได้รับการจัดการตามแนวทางปฏิบัติ ซึ่งรวมทั้งผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีอยู่

นายไครีกล่าวว่า โครงการนำร่องทราเวลบับเบิลที่เกาะลังกาวีจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการจะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น และหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดผู้ติดเชื้อรายใหม่และคลัสเตอร์กลุ่มใหม่ จากเหตุผลดังกล่าวรัฐบาลต้องมีหลักประกันว่านักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวในเกาะลังกาวีทุกคนที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว จะต้องไม่ใช่ผู้ป่วยที่มีผลเป็นบวก ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีผลเป็นบวก ย้ำว่าการทำทราเวลบับเบิลไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะให้เสรีภาพแก่ชุมชนที่จะไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน เช่น การสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง และการล้างมือบ่อยครั้ง เพื่อที่จะก้าวผ่านการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมในการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติ ที่ไม่ใช่พึ่งพาแต่มาตรการและนโยบายของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ถ้าชุมชนปฏิบัติตามมาตรการ ก็เป็นไปไม่ได้ที่สถานการณ์จะกลับมาเลวร้ายอีกครั้ง ขณะนี้ประชากรผู้ใหญ่ 89.9% ในลังกาวีได้รับวัคซีนครบถ้วน และ 91.8% ได้รับวัคซีนเข็มแรก

ด้าน สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ได้ออกคำแนะนำสำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังเกาะลังกาวี ตามข้อกำหนดการเดินทางล่าสุดโดยกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้โครงการทราเวลบับเบิล เฉพาะผู้เดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน ยกเว้นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ภายใต้คำสั่งควบคุมการเคลื่อนย้ายขั้นสูงสุด หรือ EMCO ขณะที่ผู้ติดตามหรือเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะต้องมาพร้อมกับพ่อแม่หรือผู้ปกครองเพื่อเข้าสู่เกาะลังกาวี สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 กำหนดให้ผู้โดยสารที่มีอายุตั้งแต่ 7 ขวบขึ้นไปต้องเข้ารับการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR หรือ RTK-Antigen ก่อนออกเดินทาง ซึ่งสามารถเข้ารับการตรวจที่สถานพยาบาลหรือห้องปฏิบัติการภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19 ที่มีผลเป็นลบ ที่เคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบิน

หรือผู้โดยสารสามารถซื้อชุดทดสอบน้ำลายของตัวเองและรับการทดสอบที่ Anjung Tinjau ชั้น 5 ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขจะออกสลิปเพื่อนำไปแสดงที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ โดยคำนึงถึงความสามารถในการผลิตน้ำลาย ต้องเดินทางกับพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมายที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน ผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ และไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีผลเป็นบวก ผู้โดยสารที่เดินทางไปลังกาวีเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากการท่องเที่ยว ยังคงต้องแสดงใบอนุญาตจากตำรวจเมื่อเข้าสู่อาคารผู้โดยสารและที่เคาน์เตอร์เช็กอิน และจะต้องเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อยืนยันเมื่อเดินทางมาถึงสนามบินลังกาวี ทั้งนี้ สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์มีเที่ยวบินไปยังลังกาวี 33 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ขณะที่สายการบินแอร์เอเชีย มาเลเซีย ประกาศกลับมาทำการบินไป-กลับระหว่างสนามบินลังกาวี จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ 63 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ปีนัง 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ยะโฮร์บาห์รู 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และโกตาบารู 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเมื่อมีความต้องการเดินทางมากขึ้นจะเปิดเที่ยวบินเพิ่มเติม พร้อมกันนี้ยังร่วมกับหน่วยงานเพื่อการพัฒนาเกาะลังกาวี ที่จะเปิดประสบการณ์ชอปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) แบบดิจิทัลไร้สัมผัส และจัดส่งผ่านบริการ Teleport ไปยังโรงแรมที่พักภายใน 6 ชั่วโมงทั่วทั้งเกาะภายในสิ้นเดือนกันยายน เพื่อหวังที่จะให้ลังกาวีเป็นจุดหมายปลายทางการชอปปิ้งปลอดภาษีออนไลน์แห่งแรกในอาเซียน อีกทั้งเปิดให้บริการเรียกรถรับ-ส่ง “แอร์เอเชียไรด์” (airasia ride) ผ่าน airasia super app อีกด้วย

นายเรียด อัสมัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอร์เอเชียมาเลเซีย ระบุว่า นับตั้งแต่รัฐบาลมาเลเซียประกาศมาตรการทราเวลบับเบิลกับเกาะลังกาวีเมื่อสัปดาห์ก่อน มีนักท่องเที่ยวตอบรับการเดินทางเส้นทางลังกาวีมากขึ้น หลังจัดโปรโมชันบัตรโดยสารราคาพิเศษ 12 ริงกิตมาเลเซีย และแพกเกจเที่ยวบินพร้อมที่พักเริ่มต้นที่ 99 ริงกิตมาเลเซีย แสดงให้เห็นถึงการกลับมาเดินทางท่องเที่ยวที่มากขึ้น และแอร์เอเชียพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาล การท่องเที่ยวมาเลเซีย หน่วยงานเพื่อการพัฒนาเกาะลังกาวี และกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งหมด ด้วยเที่ยวบินมากกว่า 90 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมมาตรการด้านสุขอนามัยที่ครอบคลุม เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจได้ว่าจะสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย พร้อมกันนี้ ลูกเรือยังสามารถนำผู้โดยสารไปยังจุดหมายปลายทางเกาะยอดนิยมได้อย่างปลอดภัยเช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ยังได้พัฒนาระบบเช็กอินด้วยตัวเอง (self check-in) ผ่าน airasia super app รวบรวมข้อมูลด้านสุขภาพจากหน่วยงานที่ให้การรับรอง เพื่อตรวจสอบสิทธิการเดินทางของผู้โดยสาร โดยเฉพาะผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และใบรับรองการฉีดวัคซีน ช่วยรับรองความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านสุขภาพและการบินทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ

อนึ่ง สำหรับบริการเรียกรถรับ-ส่งแอร์เอเชียไรด์ (airasia ride) เปิดให้บริการครั้งแรกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา