พบผู้เสียหายรายหนึ่งถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นบริษัทขนส่งดังกล่าวหาว่าส่งสินค้าผิดกฎหมายไปประเทศจีน แล้วทำทีโอนสายไปหาคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจหวังจะให้โอนเงินเคลียร์คดี ตำรวจตัวจริงบอก ระวังเน้อ ช่วงนี้กลับมาอีกแล้ว เจอไปแล้วหลายราย
วันนี้ (15 ก.ย.) โลกโซเชียลฯ มีการแชร์เรื่องราวจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thanyanun Sophonratana เตือนภัยคนที่ชอบซื้อของผ่านแพลตฟอร์มชื่อดัง ระบุว่า “เช้านี้ได้รับโทรศัพท์จาก DHL แจ้งว่า พัสดุที่ทางเราจัดส่งดำเนินการไม่สำเร็จ พัสดุกำลังจะถูกตีคืน ซึ่งเราไม่เคยส่งของกับทาง DHL เลย เจ้าหน้าที่ได้ถามชื่อ-นามสกุลเพื่อเช็กข้อมูล พบว่าชื่อและนามสกุลของเราได้มีการส่งสินค้าผิดกฎหมายจาก DHL สาขาเชียงใหม่ไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งตอนนี้พัสดุถูกระงับอยู่ที่กรมศุลกากร เราเลยยืนยันว่าเราไม่ได้เป็นคนส่งสินค้า และอยู่กรุงเทพฯ ตลอดเวลา ไม่ได้ไปเชียงใหม่เลย
เจ้าหน้าที่ก็ถามกลับมาว่า เคยกรอกข้อมูลส่วนตัวบน Website ต่างๆ ไหม ก็ไม่เคยกรอกนะ เจ้าหน้าที่ก็ถามอีกว่า เคยสั่งของ Online บน Shopee หรือ Lazada ไหม บอกเลยว่าบ่อยมาก เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ข้อมูลอาจรั่วไหลจากช่องทางนี้ เราเลยถามว่า แล้วแบบนี้ต้องทำอย่างไรต่อ เจ้าหน้าที่บอกว่าสะดวกเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ไหม? เราก็ตอบกลับไปว่าไม่สะดวก อยู่กรุงเทพฯ เดี๋ยวไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.แถวบ้าน เจ้าหน้าที่เลยถามว่าสะดวกจดข้อมูลไหม? สะดวกจ้า อยู่หน้าคอมพ์เลยเหอะ ทันใดนั้นคว้ามือถืออีกเครื่องกดอัดเสียงสนทนาเลยจ้า พร้อมกับพิมพ์ข้อความต่างๆ ไปด้วย
ข้อมูลที่ได้มาจากทาง DHL
DHL Express สาขาเชียงใหม่
วันที่จัดส่ง 3/9/2564
เวลา 14.25 นาที
ผู้รับ โต้เหยียง
เบอร์ 13912737889
ที่อยู่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
รหัสไปรษณีย์ 100089
หมายเลขอ้างอิงกรมศุลกากร 008963
พัสดุที่จัดส่ง พาสปอร์ต 12 เล่ม ATM 10 ใบ เสื้อผ้า 10 ชุด
หลังจากนั้นได้มีการโอนสายไปยัง สภ.เมืองเชียงใหม่เพื่อให้เราลงบันทึกประจำวัน เราก็สนทนากับทางเจ้าหน้าที่นะ เขาก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เล่าเรื่องราวไป เขาก็บอกว่า พาสปอร์ตเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ไม่สามารถส่งพัสดุได้ เราก็บอกไปว่า เราไม่ได้เป็นคนส่ง ปลายสายยังบอกอีกว่า ตอนนี้ชื่อของเราถูกขึ้นระบบเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวจะมีการดำเนินคดี เนื่องจากส่งของผิดกฎหมายออกจากราชอาณาจักรไทย เราเลยตอบกลับไปว่า งั้นเดี๋ยวเราไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.แถวบ้าน แล้วลุงเป็นตำรวจ เดี๋ยวให้ลุงจัดการให้ พร้อมขอชื่อตำรวจที่คุยสายด้วย คือ ร้อยตำรวจตรี ทศพล สังกัดสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ และขอชื่อผู้กำกับฯ ด้วย ชื่อ พลตำรวจตรี พิพัฒน์ จอมฐาน และขอเบอร์โทร.เพื่อติดต่อกลับ จะได้ส่งเอกสารใบแจ้งความกลับไปให้ เบอร์ที่ได้ก็คือ 0-5332-7191 พอมาค้นหาใน Google เบอร์ก็ตรงนะ
สรุป ... เบอร์ที่โทร.เข้ามาคือแก๊ง Call Center 06-3271-0955 หวังจะให้โอนเงินให้ เพราะโทร.กลับไปเป็นสัญญาณบอก ไม่มีเลขหมายนี้ในระบบ ก็เลยโทร.ไป สภ.เมืองเชียงใหม่ ถามว่าผู้กำกับฯ ชื่อ พลตำรวจตรี พิพัฒน์ จอมฐาน ไหม ตำรวจบอกไม่ใช่ แล้วมีตำรวจชื่อ ร้อยตำรวจตรี ทศพล ไหม ตำรวจก็บอกว่าไม่มี และเราคือรายที่ 2 ของวันนี้ที่โดนแก๊งต้มตุ๋นโทร.หา ซึ่งทาง สภ.เมืองเชียงใหม่บอกว่า ตอนนี้แก๊งนี้กลับมาอาละวาดอีกครั้ง และมีผู้เสียหายหลายรายที่โอนเงินให้แก๊งนี้ รายแรกโอนไป 3,000 บาท แล้วก่อนหน้านี้ล่ะจะโอนกันไปเท่าไรแล้ว
ตำรวจยังบอกอีกว่า ฝากประชาสัมพันธ์ให้ด้วยว่าตอนนี้แก๊งนี้กลับมาระบาดอีกครั้ง ส่วนใหญ่เหยื่อที่โดนเป็นผู้หญิงทุกราย เพราะผู้หญิงจะมีความกลัวสูงมาก!! และตำรวจยังบอกอีกว่ามันมีขบวนการซื้อขายข้อมูลจากช่องทางที่เราซื้อของ Online ซึ่งก็ไม่พ้นบรรดาร้านพี่จีนที่มาเปิดขายของใน Shopee และ Lazada พวกนี้ก็จะเอาข้อมูลของพวกเราที่เป็นนักชอปไปขายต่อในประเทศจีนจ้า
ดังนั้น การซื้อของ Online ดูร้านดีๆ เลือกซื้อร้านที่เชื่อถือได้ อย่าเห็นแก่ของถูก เพราะตอนนี้พวกพี่จีนทั้งหลายเปิดร้านขายของบน Platform Shopee และ Lazada เกลื่อนมาก บางคนถึงขั้นเอาของมาสต๊อกไว้ที่ไทย เช่าโกดังที่ไทยเลยล่ะจ้า เราแทบจะไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเราสั่งของกับคนไทย หรือคนจีน
ด้านเฟซบุ๊ก "สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่" โพสต์ข้อความเตือนภัยเช่นกัน ระบุว่า "ระวังเน้อ ช่วงนี้กลับมาอีกแล้ว เจอไปแล้วหลายราย ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เตือนมิจฉาชีพอ้างเป็นสารวัตร-ผู้กอง ทักแชทลวงเหยื่อ สร้างเรื่องศุลลากร-ปปส. อายัดของผิดกฎหมาย หลอกโอนเงินเคลียร์คดี เผยเหยื่อโทรถามโรงพักแล้วราย ผู้กำกับแนะเจอแบบนี้อย่างหลงเชื่อ"